วันที่ 14 เม.ย.66 ซึ่งเป็นวันที่สองของประเพณีสงกรานต์ จังหวัดนครพนม และ กิจกรรมส่งเสริมเทศกาลอาหารถิ่นไทนคร 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 66 โดยแบ่งโซนความสนุกหรรษาเป็น 2 โซน จุดแรกบริเวณริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร  เริ่มจากลานพญาศรีสัตตนาคราช เทศบาลเมืองนครพนมจัดให้มีการประกวดส้มตำลีลา จำนวน 11 ชุมชน ซึ่งทางโรงเรียนเทศบาลทั้ง 6 แห่ง ส่งคุณครูและลูกศิษย์มาร่วมสร้างสีสันความบันเทิง ต่างแต่งชุดแฟนตาซีสีฉูดฉาดมาเต้น ประกอบเพลงจังหวะโจ๊ะๆ  รวมทั้งทีมผู้แข่งขันส้มตำลีลาที่จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ อะไรเด็ดอะไรอร่อยใส่ครกตำๆ เพื่อให้คณะกรรมการชิมรสชาติ เพื่อตัดสินว่าชุมชนใดจะมีสูตรเด็ดถูกปากมากที่สุด ผลคะแนนจากกรมการทั้ง 6 คน ให้ชุมชนวัดสว่างสุวรรณารามคว้าแชมป์ ได้เงินรางวัลชนะเลิศ 7,000 บาท 

ส่วนทายาทชูชกจำนวน 24 คน ที่เข้าแข่งขันกินข้าวปุ้น 1 กระจาดหมดเร็วที่สุด ผู้ชนะมาจากกองสาธารณสุขเทศบาลเมืองนครพนม ได้เงินรางวัล 1,500 บาท โดยมีนายนิวัติ เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีฯ เป็นผู้มอบ ทั้งนี้การจัดการประกวดส้มตำลีลา หรือแข่งกินข้าวปุ้น(ขนมจีน) ที่จัดโดยเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย สร้างความสนุกสนานเฮฮา ทั้งผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมงาน ตลอดจนกองเชียร์ของแต่ละชุมชน

ถัดไปอีกหน่อยเทศบาลเมืองฯเนรมิตถนนสุนทรวิจิตร ช่วงบริเวณหน้าโรงรับจำนำไปถึงหน้าวัดพระอินทร์แปลงราว 1 กิโลเมตรเศษให้เป็นถนนข้าวปุ้น มีอุโมงค์น้ำยาว 40 เมตร อยู่หน้าโรงรับจำนำ เปิดสปริงเกอร์พ่นน้ำต้อนรับผู้ที่เข้ามาเล่นสาดน้ำสงกรานต์กัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย คอยอำนวยความสะดวกและให้การช่วยเหลือจนจบงาน 

ส่วนโซนที่ 2 อยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ถนนสรรค์ชายโขง ซึ่งเป็นจุดเช็คอินที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ที่หมู่บ้านโบราณ 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ ซึ่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ (13 เมย.) โดยมีนายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม เป็นประธาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการร่วมงานคับคั่ง มีขบวนแห่รถบุพชาติ 3 จังหวัดกลุ่มสนุก (สกลนคร นครพนม มุกดาหาร) ตามด้วยขบวนคานิวัลกลุ่มชาติพันธุ์ 9 ชนเผ่า (ไทยย้อ,แสก,ภูไท,โส้,ไทยข่า,กะเลิง,ไทยอีสาน,ไทยกวน,ไทยตาด) และ 2 เชื้อชาติ (จีน-เวียดนาม) ที่นำศิลปวัฒนธรรมอัตลักษณ์ของตนเองมาแสดง โดยได้รับความสนใจจากผู้ที่มาเที่ยวชมงาน

ทั้งนี้ คาดว่าการจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ ส่งเสริมอาหารถิ่นไทนคร เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว เพื่อรายได้แก่ท้องถิ่น ทั้งเป็นการรับรู้ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้รู้จักจังหวัดนครพนมมากยิ่งขึ้น ด้วยการเที่ยวชมบ้านโบราณ ที่มีการสร้างขึ้นอย่างสวยงาม แสดงถึงอัตลักษณ์และประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่า รวมถึงชิมอาหาร ช๊อป ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มชาติพันธุ์นำมาจำหน่ายในราคามิตรภาพ - 003