อานิสงส์สูงส่ง! สาธุชนร่วมยกยอดทองคำประดิษฐานบนยอด 'พระธาตุมรุกขนคร' พระธาตุประจำผู้เกิดวันพุธกลางคืน
วันที่ 15 เม.ย.66 ที่วัดมรุกขนคร หมู่ 7 ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พุทธศาสนิกชนได้เดินทางมาร่วมประกอบพิธี ยกยอดพระธาตุมิ่งเมืองมรุกขนคร หรือที่หลายคนรู้จักในนามพระธาตุมรุกขนคร ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 212 (ชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดในวันพุธ(กลางคืน) โดยพิธีเริ่มจากทุกคนได้ร่วมกันแห่อัญเชิญยอดพระธาตุที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ พร้อมกระดิ่งทองคำชัยมงคล และมณฑปไปรอบบริเวณวัด จากนั้นนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานฝ่ายฆราวาสจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และนำทุกคนร่วมกันสวดมนต์ฯ หลังเสร็จพิธีพระเทพวรมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ ประกอบพิธีเจิมยอดฉัตรพระธาตุและมณฑป จากนั้นจึงเป็นการอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนยอดพระธาตุมรุกขนครตามลำดับพิธีการ
วัดมรุกขนครหรือเมืองมรุกขนคร มีหลักฐานบันทึกว่าเป็นสถานที่โบราณเก่าแก่ สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.2300 กระทั่ง พ.ศ.2320 ตัวเมืองถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง และเกิดโรคระบาดมีผู้คนล้มตายเป็นอันมาก พระบรมราชา(แอวก่าน) ผู้เป็นเจ้าเมืองจึงได้ย้ายไปตั้งที่บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม บริเวณนั้นยังปรากฏชื่อว่าบ้านเมืองเก่ามาจนถึงปัจจุบัน และยังมีซากปรักหักพังของเมืองและวัดปรากฏให้เห็น อยู่ในบริเวณโรงเรียนดอนนางหงส์สงเคราะห์ ด้านทิศเหนือห้วยบังฮวก ต่อมาได้รับการบูรณะและตั้งเป็นวัดโดยถูกต้องสมบูรณ์ พร้อมตั้งชื่อว่าวัดมรุกขนครตามชื่อเมืองเก่าในอดีต
ส่วนพระธาตุมรุกขนครนั้นได้สร้างขึ้นภายหลัง เมื่อปี พ.ศ.2536 เป็นพระธาตุบริวารของพระธาตุพนม ทั้งนี้พระธาตุสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ค่าก่อสร้างรวม 35,000,000 บาท โดยได้รับการอุปถัมภ์จากหม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์ ราชเลขาธิการ และคุณหญิงบุญศรี สนธยางกูล พร้อมด้วยศรัทธาจากญาติโยมทั่วทุกสารทิศ
องค์พระธาตุมีลักษณะคล้ายพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมก่ออิฐถือปูน ฐานกว้างด้านละ 20 เมตร สูง 50.9 เมตร ทาด้วยสีขาวและตกแต่งลวดลายสีทอง ทำให้มีความสวยงามมองเห็นลวดลายอันวิจิตรได้อย่างชัดเจน ด้านบนยอดประดับด้วยฉัตรทอง ภายในบรรจุพระสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้จากการขุดค้นพบซากปรักหักพังของพระธาตุในอดีต พร้อมทั้งแก้วแหวนเงินทอง
ส่วนบริเวณโดยรอบองค์พระธาตุ จะมีกำแพงแก้วและซุ้มประตู หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศประจำของผู้เกิดวันพุธกลางคืน โดยทิศดังกล่าวมี พระควัมปติ หรือพระสีวลี เป็นพระอรหันต์ประจำทิศ ผู้เป็นเอตทัคคะเลิศกว่าพระภิกษุทั้งหลายในเรื่องโชคลาภ ผู้ที่เกิดวันพุทธกลางคืน จึงเก่งทางด้านการค้า การเสี่ยงโชค และเป็นที่รักของคนรอบข้างจากอิทธิพลของเทวดาประจำวัน ส่งผลให้ผู้ที่ได้มากราบนมัสการพระธาตุมรุกขนครแห่งนี้ ได้รับอานิสงส์เป็นคนที่ช่างคิด มีความรอบรู้ ค้าขายเก่ง มีจิตใจโอบอ้อมอารีมีน้ำใจกว้างดุจมหาสมุทร
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศาสนสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น พระอุโบสถ ศาลเจ้าปู่ขอม พญานาค 3 ตน และพระโพธิสัตว์กวนอิม และยังมีองค์พระพุทธรูปมากมายให้พุทธศาสนิกชนได้มาสักการะกราบไหว้
เดิมเมืองมรุกขนครตั้งอยู่ที่เมืองท่าแขก ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ต่อมาพระบรมราชา (กู่แก้ว) ผู้ครองเมืองมรุกขนนคร ได้ย้ายเมืองจากท่าแขกมาตั้งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขง บริเวณปากห้วยบังฮวก เมื่อราวปี พ.ศ. 2300 และสร้างวัดไว้กลางเมือง 4 วัด คือ 1.วัดดอนกอง (ยู่ระหว่างบ้านดอนกอง ต่อกับบ้านดงขวาง 2.วัดดงขวางท่า อยู่ริมถนนชยางกูรบ้านดงขวางท่า 3.วัดขอนแก่น อยู่ริมห้วยบังฮวก และ 4.วัดนาถ่อนท่า /ดอนศาลเจ้า อยู่บ้านนาถ่อนท่าริมถนนชยางกูรด้านทิศตะวันออก - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี