วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
บทความพิเศษ : ลวงล่อ-ปลุกเร้า-เอาคะแนน

บทความพิเศษ : ลวงล่อ-ปลุกเร้า-เอาคะแนน

วันพุธ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : บทความพิเศษ ลวงล่อ ปลุกเร้า เอาคะแนน
  •  

 

เห็นวิธีการ “ปราศรัย” และ “ใช้งบประมาณ” ผ่านการโชว์ “นโยบาย” ต่างๆ ที่ไหลออกจากปากของ “นายเศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยแล้ว นี่มัน“ทวีทักษิณ” ชัดๆ

นิสัยการหาเสียง การชูนโยบาย การปลุกเร้า และลวงล่อ เพื่อให้ประชาชนใส่คะแนนให้ เป็นลีลาแบบ “ทักษิณ ชินวัตร” เต็มตัวมาก


แต่เพราะพรรคเพื่อไทยเชื่อว่า “ทักษิณ” ยังขายได้ ภาพจำลองของทักษิณผ่าน “หน้าตาและเชื้อสาย” จึงปรากฏขึ้นใน “แพทองธาร ชินวัตร” และ “นิสัย-ความเป็นพ่อค้า-กล้าได้กล้าเสีย” หรือที่เลี่ยงไปใช้คำว่า “คิดใหญ่-ทำเป็น” จึงปรากฏผ่าน “เศรษฐา ทวีสิน”

เพราะอุ๊งอิ๊ง “คิดใหญ่” แล้วไม่รอด“ทำเป็น” คนก็ไม่เชื่อ เพราะไม่เคยเห็นทำอะไร นอกจากสืบเผ่าพันธุ์วงศ์ตระกูลและกิจการครอบครัวแบบ “รูทีน” ที่ไม่ได้เกิดจาก “ความสามารถ”ของตัวเอง จึงต้องส่งบท “แอ๊กชั่นแสนล้าน” ให้เศรษฐาเล่น

ล่าสุด เศรษฐาไปปราศรัยที่ร้อยเอ็ด เขาบอกว่า ชื่นใจนักหนาที่ประชาชนมาหาและได้มาพบกับประชาชน

“...มีพรรคพวกเพื่อนฝูงและผู้ใหญ่หลายคนในพรรค อยากจะมา จ.ร้อยเอ็ดและภาคอีสาน ตนก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อมาถึงที่นี่ได้พบสายตาที่เป็นมิตร รอยยิ้มที่จริงใจให้กับตนและคณะ เข้าใจแล้วว่าทำไมคนกรุงเทพฯ อย่างตนจึงอยากมาเยือน จ.ร้อยเอ็ด...”

ก็แค่ลีลา “หยดน้ำมันพราย” ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมาที่ร้อยเอ็ดกันเลย ทั้งเศรษฐา ครอบครัวชินวัตร และพลพรรค แต่ก็นั่นแหละ ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ไปที่ไหนก็ต้องรัก ต้องห่วง ต้อง“นำความหวัง” มาให้

เขากล่าวด้วยว่า “...8 ปีที่ผ่านมาภาคเกษตรตกต่ำ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ มีการค้นพบข้าวพันธุ์ทุ่งกุลาร้องไห้ ได้มีการขึ้นทะเบียน สร้างรายได้ให้พี่น้องมากมาย แต่ไม่มีการส่งเสริมในรัฐบาลที่ผ่านมา ดังนั้น หากพรรคพท.เป็นรัฐบาลจะทำให้สินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น 3 เท่า นอกจากนี้ปัญหายาเสพติดทุกทั่วหัวระแหง อยากให้ลูกหลานโตมากับกัญชาหรือ พรรคพท.หนุนกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น...”

เศรษฐาเลี่ยงการพูดตรงๆ ว่า ข้าวราคาดีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะ “สร้างตลาดปลอม” ขึ้นมารับซื้อ นั่นคือเอาเงินงบประมาณของรัฐไปซื้อในราคาสูงกว่าตลาด ตลาดข้าวไทยพังพินาศ พ่อค้าส่งออกซื้อข้าวแข่งกับรัฐบาลไม่ไหว ต้องไปซื้อข้าวของประเทศเพื่อนบ้าน ส่งขายกับคู่ค้าเดิมแทนส่วนเงินที่ประชาชนได้ คือ เงินงบประมาณ ที่สุดท้ายมีการทุจริตอย่างมโหฬาร กู้ และเป็นหนี้ ที่ต้องชดใช้จนถึงทุกวันนี้ ดังจะเห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทยวันนี้ก็ไม่กล้าชู “การจำนำข้าว” ขึ้นมาหาเสียงอีก

ถามว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเฮงซวย
ไม่ช่วยอะไรชาวทุ่งกุลาเลยหรือ ค้นข้อมูลดูจะรู้ว่า ปลายเดือนกรกฎาคมปีก่อน ทูตพาณิชย์ออสเตรีย ตามนโยบาย “ทูตพาณิชย์” = เซลส์แมน ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้ความเป็นสินค้า GI คือ “ข้าวหอมทุ่งกุลา” เปิดตลาด “ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้” ด้วยยุทธศาสตร์ “เวียนนาโมเดล” และการ “จับคู่ผู้ผลิต-ผู้ซื้อ” เพื่อให้เกิดการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ในตลาดออสเตรียให้แก่ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ตราศรีแสงดาวด้วย โดยที่ความจริงเหล่านี้ถูกลบทิ้งและด้อยค่า เพื่อหาคะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียว

นายเศรษฐา ยังปราศรัยว่า “...นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ก็ถูกวิจารณ์เสียๆ หายๆ ยืนยันว่า นโยบายนี้ เงินเข้าสู่กระเป๋าพี่น้องแน่นอน ไม่ต้องมาคอยรับทีละ 500 หรือ 1,000 บาทจากรัฐบาลที่ไม่เห็นหัวประชาชน...”

สิ้นคำปราศรัยนี้ไม่นาน ก็มีข้อมูลโดยแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าจากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ชี้แจงเกี่ยวกับการใช้งบประมาณนโยบายหาเสียงของพรรค ซึ่งยังขาดเรื่องข้อมูลการแจ้งที่มาของเงินและวงเงินที่จะใช้ โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งมีประชาชนอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวกว่า 50 ล้านคน ใช้งบประมาณกว่า 5 แสนล้านบาท

โดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทยได้หารือกับทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางของนโยบายและที่มางบประมาณ เพื่อส่งคำชี้แจงต่อ กกต.ในวันที่ 17 เม.ย. อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ทีมกฎหมายและทีมเศรษฐกิจ มีความเห็นคนละทิศทางกัน โดยทีมกฎหมายแนะนำให้ชี้แจงที่มาของงบประมาณให้ชัดเจน เพื่อให้ กกต. สิ้นข้อสงสัย ไม่เช่นนั้นอาจจะสุ่มเสี่ยงจะกระทำผิดกฎหมาย และจะส่งผลเสียถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทยได้ในภายหลัง

“โดยเฉพาะประเด็นการเก็บภาษีจะมาจากภาษีชนิดใดบ้าง อาทิ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หากจะเก็บเพิ่มจากเดิม ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7 เป็นร้อยละเท่าไร เพื่อให้มีรายได้มาดำเนินการนโยบายดังกล่าว แต่มีการทักท้วงกันภายใน จึงอาจจะไม่ระบุการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมในคำชี้แจง”แหล่งข่าว ระบุ

แหล่งข่าว ระบุว่า สำหรับงบประมาณปี 2567 ซึ่งหลังจากที่หักงบประจำ งบผูกพัน และงบใช้จ่ายหนี้เงินกู้ จะเหลือให้ดำเนินโครงการใดได้ประมาณ 2 แสนล้านบาท โดยทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เสนอให้หั่นงบประมาณของกระทรวงต่างๆ ซึ่งคาดหวังว่าจะรีดได้มากสุด 1 แสนล้านบาท แต่คาดว่าหลายกระทรวงอาจจะไม่ยินยอม แตกต่างจากในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่หลายกระทรวงพร้อมใจให้หั่นงบประมาณของกระทรวงลง

ทั้งนี้เมื่อมีเงินเหลืออยู่จากงบประมาณปี 2567 ประมาณ 2 แสนล้านบาท คาดการณ์ว่าจะเก็บภาษีเพิ่มได้อีก 5 หมื่นล้านบาท และหั่นงบกระทรวงกว่า 1 แสนล้านบาท ทำให้มีงบประมาณ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่เพียงพอ ทำให้มีการเสนอให้ชี้แจงต่อ กกต.ว่าอาจจะมีการกู้เงินบางส่วน เพื่อนำมาดำเนินโครงการดังกล่าว แต่ทีมกฎหมายได้ทักท้วง

“มีข้อกังวลว่าหากระบุไปว่าอาจจะต้องกู้เงินบางส่วนในคำชี้แจง และหาก กกต. ออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว จะส่งผลลบต่อคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยทันที เพราะที่ผ่านมาแกนนำพรรคเพื่อไทย โจมตีรัฐบาลมาตลอดว่ากู้มาแจก และเหตุผลในการกู้เงินมาดำเนินการโครงการประชานิยม จะทำให้คู่แข่งมีช่องโจมตีได้”

นอกจากนี้มีข้อถกเถียงว่าในคำชี้แจงต่อ กกต.จะระบุให้ชัดเลยหรือไม่ว่า หากพรรคเพื่อไทยดำเนินตามนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะต้องยกเลิกโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเลยหรือไม่ เพราะหากดำเนินการควบคู่กันจะเป็นภาระงบประมาณที่สูงขึ้นไปอีก แต่หากระบุชัดว่าจะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากมีผู้ผ่านเกณฑ์รอบใหม่กว่า 14 ล้านคน และอยู่ระหว่างอุทธรณ์สิทธิหลายล้านคน ซึ่งจะทำให้เสียคะแนนในฐานนี้ได้ ทางทีมกฎหมายและทีมเศรษฐกิจ จึงพยายามประวิงเวลาการชี้แจงกรณีดังกล่าวกับ กกต.

จากที่กล่าวมาทั้งหมด จึงจะเห็นได้ว่า นโยบายและวาทกรรม “เรารักคุณ” ล้วนเป็น “เหยื่อล่อ” เพื่อให้ได้คะแนนมา หลังจากนั้น จะไปต่ออย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ประชาชนก็ให้คะแนนมาแล้ว ได้เป็นรัฐบาลแล้ว โดยที่ทั้งอุ๊งอิ๊งและเศรษฐา จะได้เป็นนายกฯ หรือเปล่ายังไม่รู้เลย เลือกตั้งครั้งก่อนเสนอไว้ 3 ชื่อ สุดท้ายในสภา เสนอชื่อ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นนายกฯ เฉย หรือรอบนี้ จะเสนอชื่อ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ซ้ำรอยเดิมอีก น่าลุ้น!!

พิฆาต ไพรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • บทความพิเศษ : SME ไทยต้องพร้อมแข่งขันในเวทีโลก! บทความพิเศษ : SME ไทยต้องพร้อมแข่งขันในเวทีโลก!
  • บทความพิเศษ : นายกสืบสันดาน  นิติกรรมอำพราง หลบภาษี? บทความพิเศษ : นายกสืบสันดาน นิติกรรมอำพราง หลบภาษี?
  • บทความพิเศษ : เด็กเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์  สวนทางนโยบายมีลูกเพื่อชาติ บทความพิเศษ : เด็กเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์ สวนทางนโยบายมีลูกเพื่อชาติ
  • บทความพิเศษ : ส่องการศึกษาไทย  ในยุคที่เด็กเกิดน้อย บทความพิเศษ : ส่องการศึกษาไทย ในยุคที่เด็กเกิดน้อย
  • บทความพิเศษ : ‘Climate Change’  โอกาส-ความเสี่ยง‘ตลาดทุน’ บทความพิเศษ : ‘Climate Change’ โอกาส-ความเสี่ยง‘ตลาดทุน’
  • บทความพิเศษ : ‘ประชัย’ออกโรงจี้‘แบงก์ชาติ’คุมค่าเงินบาท ชี้อย่างน้อยต้อง37บาทต่อดอลลาร์ บทความพิเศษ : ‘ประชัย’ออกโรงจี้‘แบงก์ชาติ’คุมค่าเงินบาท ชี้อย่างน้อยต้อง37บาทต่อดอลลาร์
  •  

Breaking News

เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย

ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’

ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา

เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved