ชาวบ้านงง!ถูกจับเป่าแอลกอฮอล์กลางป่าสงวน ตำรวจแจงทำได้

ชาวบ้านงง!ถูกจับเป่าแอลกอฮอล์กลางป่าสงวน ตำรวจแจงทำได้

วันพุธ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566, 09.00 น.

ชาวบ้านงง!ถูกจับเป่าแอลกอฮอล์กลางป่าสงวน ตำรวจแจงทำได้

19 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่ามีผู้ใช้ Facebook ที่ใช้ชื่อว่า Samart tomnechate โพสต์ภาพ พร้อมระบุข้อความว่า “ไม่มีอะไรน่าเกลียดไปกว่านี้อีกแล้วครับ จับตาสีตาสาหาปลาเลี้ยงวัว จับเป่าแอลกอฮอล์ในป่า กลับจากหาปลาเลี้ยงวัว” หลังจากนั้นอีกหนึ่งวันก็ยังได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “วันนี้พาตาสีตาสาหาปลาเลี้ยงวัว ไปเสียค่าปรับที่ศาลมาแล้วครับ ข้อหาคือเมาแล้วขับไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เสียค่าปรับกันไปแบบจุกๆ ครับผม” หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีผู้คนเข้ามาแชร์เป็นจำนวนมาก รวมถึงเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเช่นกัน


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของโพสต์เพื่อสอบถามข้อมูล ทราบว่า ภาพที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนทางเข้าเขื่อนขนาดมอญ ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์และอยู่บริเวณชายแดนรอยต่อของประเทศไทย - กัมพูชา ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ดม

นายปปิ่น อายุ 60 ปี หนึ่งในคนที่ถูกจับ เล่าว่า วันนั้นตนขี่รถไปเลี้ยงวัว ผ่านป่าสงวนเส้นนี้มา 40 กว่าปี เพิ่งโดนตำรวจจับครั้งแรก ไม่คิดว่าตำรวจจะมาตั้งด่านตรงจุดเส้น ซึ่งเป็นทางเข้าป่า เส้นทางที่ต้องใช้ไปทำมาหากิน วันนั้นตนผ่านมาเส้นนี้เวลาประมาณ 13.00 น. เพื่อไปเลี้ยงวัวที่เขื่อนบน แต่ตอนนั้นมีหลานมาหาพอดี และนำเหล้าขาวมาให้ดื่ม 2 เป๊ก ตนไม่ได้รู้สึกเมาหรือผิดปกติแต่อย่างไร หลังจากนั้นตนก็ได้ขี่รถลงมาเพื่อนำไฟฉายมาชาร์ตแบต จู่ๆก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบเรียกตน ขึ้นคร่อมบนรถ

จากนั้นตำรวจให้ตนเป่าตนแอลกอฮอล์ ตนก็เป่าจนสุดแรงถึง 3 ครั้งก็ไม่ขึ้น แต่ตำรวจกล่าวหาว่าตนไม่เป่า ตนบอกเป่าจนสุดแรงทั้ง 3 รอบ จนเหนื่อย แอลกอฮอล์ก็ไม่ขึ้น จากนั้นตำรวจเลยล็อคตน และบอกตนว่าไปที่โรงพัก ยกรถตนขึ้นรถ ตนขอร้องทางตำรวจแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ พอไปถึง สภ.ดม ตำรวจก็สั่งให้เป่าอีก ตนก็เป่าแบบเดิมสุดแรง แต่ครั้งนี้ตำรวจไม่ได้บอกหรือแจ้งอะไรกับตนเลยว่าเป่าขึ้นกี่ขีด หลังจากนั้นก็ยื่นใบบันทึกการจับกุม ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 41.47 % และตนก็ได้เสียค่าปรับที่ สภ.ดม

ด้านนายสามารถ อายุ 39 ปี ผู้โพสต์ เล่าว่า ตนขายของที่เขื่อนขนาดมอญ หลังทราบข่าวว่าพ่อถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ ตนจึงถ่ายภาพ และโพสต์ออกไปเพื่อร้องหาความเป็นธรรม ตนติดใจประเด็นว่าตำรวจทำไมมาตั้งด่านในเขตป่าสงวน ซึ่งไม่ใช่เส้นทางหลัก เป็นเขตป่าลงเขื่อนห้วยขนาดมอญ และเนินสี่ร้อย ส่วนใหญ่ชาวบ้านต่างใช้เส้นทางนี้ไปหาของป่า ไปเลี้ยงวัว หาปลามาตั้งนานแล้ว อยู่ๆมาตั้งด่าน เหมือนด่านลอย แถมยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบ ไม่มีการตั้งกรวย หรือสัญลักษณ์ว่าตั้งด่าน

“ที่สำคัญเป็นเลือกปฏิบัติ หรือไม่ เลือกจับแต่คนแก่ คนทำมาหากิน แต่ตรงข้ามกับวัยรุ่น ซ้อนรถ 3-4 คน/คัน เมา ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่เห็นตำรวจให้เป่า ไม่เห็นจับ แบบนี้เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ตนรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งที่ตำรวจมาตั้งด่านในป่าสงวน เมื่อทราบข่าวว่าพ่อโดนจับ ตนก็รีบมาแต่ไม่ทัน ตำรวจได้นำพ่อไปที่สภ.ดม แล้ว” นายสามารถ กล่าว

นายสามารถ กล่าวด้วยว่า หลังจากวันที่ถูกจับ ตนก็ได้ประสานทางนายก อบต.ตาตุม ให้มาช่วยประกันตัวพ่อ และวันต่อมาตนก็ได้พาพ่อ และลุงไปเสียค่าปรับที่ศาล โดยพ่อซึ่งเป็นคนมาเลี้ยงวัวโดนปรับไป 5,400 บาท และลุงคนหาปลาโดนปรับไป 9,400 บาท

ด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา จาตุรัตน์ ผกก.สภ.ดม กล่าวว่า ในช่วงนั้นเป็นช่วง 7 วันอันตราย สามารถทำได้เพื่อปราบปราม โดยจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปยังพื้นที่ จุดเส้นทางหน้า ตชด. ทางเข้าเขื่อนห้วยขนาดมอญเพื่อตั้งด่าน จับคนเมาแล้วขับ และได้ทำถูกต้องเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากผู้ขับขี่ และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลัววัยรุ่นมาสร้างความเดือดร้อน ยกพวกตีกันที่เขื่อนห้วยขนาดมอญ ตนจึงได้จัดกำลังมาตั้งด่านดังกล่าว

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top