เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ 8 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบซากศพของสุนัข พันธุ์ไทย อายุประมาณ 1 ปีกว่าๆ จำนวน 4 ตัว ซึ่งเป็นสุนัขจรจัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนนเทศบาล 1 สนามกีฬาศรีกันตัง ภายในเขตเทศบาลเมืองกันตัง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสุนัขทั้งหมดถูกลากมากองไว้ในจุดเดียวกัน ตามลำตัวมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้าตามลำตัวจำนวนหลายแผล บางตัวถูกฟันเข้าท้องจนไส้ทะลัก เป็นแผลเหวะหวะเสียชีวิตอย่างสุดทรมาน และตรวจสอบพบว่าบนพื้นถนนมีกองเลือดกองใหญ่ และหยดเป็นทางอยู่ประมาณ 5 จุด โดยมีบรรดาเพื่อนสุนัขตัวอื่นๆมาคอยเดินวนเวียนอยู่บริเวณกองเลือด ประกอบกับมีชิ้นส่วนเศษอะไหล่รถยนต์กระบะ เช่นกรอบไฟเลี้ยว กันชนหน้ารถ ตกอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งต่างเป็นที่สะเทือนใจและเศร้าสลดให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

ต่อมา นายศักดา มณีนิล ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขเทศบาลเมืองกันตัง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านและสมาชิกสภาเทศบาลฯ ว่ามีการทำร้ายสุนัขจรจัด จึงเดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ก่อนจะประสานให้เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เก็บซากดังกล่าวไปฝัง เนื่องจากเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็น

นายศักดา กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่า ช่วงเวลาประมาณรุ่งเช้า เวลาประมาณ 05.00 น ถึง 06.00 น.วันนี้  (8 พ.ค.) มีชาวบ้านได้ยินเสียง และมาพบเห็นชาย ขับรถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธมีดยาว คล้ายมีดสปาต้าเข้ามาก่อเหตุฟันสุนัขจนเสียชีวิต โดยคาดว่าน่าจะขับรถยนต์กระบะพุ่งชนสุนัข 1 ตัวก่อน ทำให้โมโห หรือบันดาลโทสะ ขับรถยนต์กลับบ้าน ก่อนจะขับจักรยานยนต์ วกกลับมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เนื่องจากมีเศษอะไหล่รถยนต์ตกแตกเสียหายอยู่ ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน ซึ่งในการจะให้เทศบาลฯ ดำเนินการเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุหรือไม่นั้น จะต้องตรวจสอบบริบท แสวงหาข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไรและจึงจะดำเนินการตามขบวนการได้

นายศักดา กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ต้องขอความร่วมมือจากผู้รักสุนัขจรจัด ในการนำข้าวหรืออาหารมาให้สุนัขจรจัดด้วยเจตนาดีนั้น ทำให้สุนัขขยายพันธุ์เกิดขึ้นมาตามลำดับ ซึ่งทางเทศบาลฯก็ได้จัดทำหมันมาโดยตลอด เพื่อที่จะควบคุมปริมาณให้น้อยลง แต่ในส่วนของการทำร้ายสุนัขนั้นจะเป็นคดีความอาญา ซึ่งเราก็ทำไม่มากกว่านี้ไม่ได้ จึงขอความร่วมมือกับผู้รักสุนัขให้เกินกันคนละครึ่งทางจะได้แก้ปัญหาสุนัขจรจัดได้ 

ขณะที่ นายอภิชาติ หลีศาลา อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างในจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า มาเจอสุนัขตายเมื่อตอนเช้ารู้สึกสงสารเป็นอย่างมาก เพราะสุนัขจะไปทำอะไรผิด ที่ต้องมาทำแบบนี้ สุนัขก็มีชีวิตมีนิสัยซุกซนตามธรรมชาติ ซึ่งการทำร้ายสุนัขเช่นนี้คงจะทำรายตัว เพราะไม่สามารถรวมกันมาทำร้ายทีเดียวได้ และนำเอามากองไว้ที่เดียว โดยสุนัขที่ตายทั้ง 4 ตัวนั้นคิดว่าคงจะเป็นคลอกพ่อแม่เดียวกันทั้งหมด ปกติจุดนี้จุดนี้มีสุนัขจรจัดอยู่อาศัยเกือบ 100 ตัว แต่เท่าที่ทราบไม่เคยทำร้ายหรือไล่กัดใคร และมีคนใจบุญมาให้อาหารให้น้ำอยู่ในทุกวัน ซึ่งสาเหตุที่คนใจร้ายมาทำแบบนี้ตนก็ไม่ทราบสาเหตุ โดยที่ตนก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตามจุดบริเวณดังกล่าวเป็นถนนที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ อยู่ใกล้กับสนามกีฬา ไม่ค่อยจะมีบ้านเรือนประชาชนเท่าไรนัก มักจะมีผู้คนมาวิ่ง ออกกำลังกายในทุกเช้าและเย็น ซึ่งปรากฏว่าไม่มีกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด ส่วนเช้าบ้านที่เห็นเหตุการณ์ไม่กล้าให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เนื่องจากหวั่นกลัวความปลอดภัย เพียงบอกว่าคนก่อเหตุยังทำกับสุนัขได้เช่นนี้ จึงกลัวว่าหากเล่าไปจะไม่มีความปลอดภัยกับตัวเอง.-008