วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
บทความพิเศษ : ‘เข็มทิศชีวิต’ กับ ‘ทิดคม’

บทความพิเศษ : ‘เข็มทิศชีวิต’ กับ ‘ทิดคม’

วันอาทิตย์ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : บทความพิเศษ
  •  

ปรากฏการณ์ “อาตุ่ย” ออกมาเรื่อง “เข็มทิศชีวิต” กับเรื่องของ “ทิดคม” ที่กลายสภาพจาก “พระคนดัง”ที่กลายเป็น “ผู้ต้องหา” ยักยอกเงิน และเสพเมถุน กำลังทำให้หลายคนสับสนว่า ฉันควรจะเข้าวัดไหว้พระต่อไป หรือไม่แล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องของการหลอกลวง และการ “ทำให้เชื่อ” หรือทำให้เกิด “ศรัทธา” จากภาพมายา ไม่ว่าจะด้วยบุคลิกดี หน้าตาดี ช่างพูดจา ช่างเทศน์ หรือแอบอ้างเบื้องสูง ให้คนยิ่งศรัทธา


“ศรัทธา” นี่แหละคือ “ตัวปัญหา”

พระไพศาล วิสาโล เคยแสดงธรรมเรื่องนี้ไว้ที่วัดป่าสุคะโต เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ว่า

“...ศรัทธาเป็นธรรมะข้อสำคัญในพุทธศาสนา ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้เกิดพลัง พลังในการทำความดี พลังนี้ท่านเรียกว่าพละ ศรัทธาเป็นหนึ่งในพละ 5 โดยเฉพาะศรัทธาที่มีต่อสิ่งดีงาม อันได้แก่ พระรัตนตรัย เมื่อมีศรัทธาแล้ว มันก็จะทำให้เกิดใจที่น้อมไปในทางเดียวกับสิ่งที่เรานับถือสิ่งที่เราศรัทธา

พระรัตนตรัย เป็นตัวแทนแห่งความดีงามสูงสุด เมื่อมีศรัทธาในความเชื่อ ความมั่นใจในพระรัตนตรัย ใจก็น้อมไปในทางนั้น จากความเชื่อมั่นก็กลายเป็นความเชื่อฟัง แล้วใจก็น้อมไปในทางที่ดีงาม โดยการนำเอาคำสอนหรือว่าแบบอย่างของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงเป็นพระธรรม หรือที่พระสงฆ์ได้นำมาปฏิบัติ มาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตของเรา

ที่จริงเพียงแค่น้อมนึกถึงสิ่งที่เราศรัทธา ถ้าเป็นศรัทธาในสิ่งที่ดีงาม เช่น ศรัทธาในพระรัตนตรัย ศรัทธาในคุณงามความดี มันก็ทำให้เกิดคุณธรรมอื่นๆ ตามมา เช่น เมื่อมีศรัทธา ก็ทำให้เกิดปราโมทย์ ปราโมทย์ก็คือความเบิกบานใจ ปราโมทย์ก็ทำให้เกิดปีติอิ่มเอิบใจ ปีติทำให้เกิดปัสสัทธิ ความผ่อนคลายกายและใจ แล้วก็เกิดสุข สุขก็นำไปสู่สมาธิ สมาธิก็สามารถทำให้เกิดปัญญาขึ้นมาได้

จะเห็นได้ว่า ศรัทธา เป็นธรรมะที่ช่วยชักนำคุณธรรมอื่นๆ ที่ดีงามให้เกิดขึ้นในจิตใจของเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเป็นศรัทธาในสิ่งที่ดีงาม การที่เราจะมีศรัทธาในสิ่งที่ดีงามได้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าองค์ประกอบที่ช่วยทำให้ศรัทธานั้นเป็นไปในทางที่เชื่อมั่นหมายมุ่งโน้มน้อมไปยังสิ่งที่ดีงาม ถ้าศรัทธาผิดโดยเฉพาะศรัทธาที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา มันก็นำไปสู่ความงมงาย แล้วก็นำไปสู่ความหลงผิดได้

เราก็มีตัวอย่างมากมาย คนที่ศรัทธาในสิ่งที่ผิดโดยเฉพาะศรัทธาในตัวบุคคลที่ไม่ได้เป็นผู้ที่มีคุณธรรม พอศรัทธาผิดคน มันก็ทำให้ชีวิตก็ตกต่ำย่ำแย่ อาจจะตกเป็นเครื่องมือของเขา หรือว่าชักนำไปให้กระทำในสิ่งที่เกิดโทษ อันนี้เป็นศรัทธาที่งมงาย ไม่ประกอบด้วยปัญญา

ศรัทธาที่งมงาย มันไม่ได้หมายความเฉพาะว่าศรัทธาที่คนผิดเท่านั้น แม้กระทั่งศรัทธาในบุคคลที่ดีงามเป็นบัณฑิต เป็นผู้ที่มีคุณธรรม แต่ถ้าศรัทธานั้นเป็นศรัทธาที่งมงาย มันก็ทำให้เกิดปัญหาเหมือนกันเพราะมันทำให้เกิดความยึดติด ยึดติดในตัวบุคคลจนกระทั่งไม่มีวิจารณญาณ หรือว่าไม่รู้จักใช้ความคิดหรือคิดเป็น ไม่เป็นตัวของตัวเอง

อันนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ลูกหาของครูบาอาจารย์หลายท่าน ซึ่งแม้ว่าท่านจะเป็นผู้ที่มีคุณธรรมมีความดีงาม แต่พอลูกศิษย์ลูกหาเกิดความศรัทธาที่งมงายคือยึดติดในตัวบุคคล จนกระทั่งไม่มีการใช้เหตุใช้ผลด้วยตัวเอง พอครูบาอาจารย์ล้มหายตายจากไป ผู้ที่ศรัทธาในตัวบุคคล หรือยึดติดในตัวบุคคลก็จะเรียกว่าขาดหลักขาดที่พึ่งไปเลย เพราะว่าไม่รู้จักพึ่งตนตั้งแต่แรก โดยอาศัยศรัทธาที่มีต่อครูบาอาจารย์เป็นเครื่องกระตุ้นให้เกิดการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้อง จนกระทั่งสามารถจะเกิดสติปัญญาหรือเกิดคุณธรรมขึ้นมาในตัวเอง จนเป็นที่พึ่งของตนได้ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่อาจจะต้องระมัดระวังเอาไว้ ศรัทธาในครูบาอาจารย์จนกระทั่งไม่มีสติปัญญาของตัวเองหรือไม่สามารถจะเป็นที่พึ่งของตนเองได้

มีครูบาอาจารย์บางท่าน วันดีคืนดีก็สึกหาลาเพศไป แล้วก็ไปมีครอบครัว ลูกศิษย์ตกตะลึง เสียใจ มีหลายคนก็เกิดความโกรธ เกิดความคับแค้นใจ จากเคยศรัทธาครูบาอาจารย์ก็กลายเป็นเกลียดครูบาอาจารย์ท่านนั้นไปเลย หรือบางคนก็บอกว่าไม่นับถือพระแล้ว หรือบางคนก็ถึงกลับบอกว่าไม่นับถือพุทธศาสนาแล้ว เพราะความผิดหวัง เกิดจากความยึดติดถือมั่นในครูบาอาจารย์อย่างเหนียวแน่น

หรือครูบาอาจารย์ วันดีคืนดีท่านรับสมณศักดิ์ ลูกศิษย์ลูกหาหลายคนก็ผิดหวังเสียใจ บอกว่าท่านอาจารย์สอนว่าไม่ให้ติดสมมุติ แล้วทำไมรับสมณศักดิ์ ก็เกิดความไม่พอใจ เกิดความโมโหโกรธา เกิดความผิดหวัง หรือเกิดความเสื่อมศรัทธาไปเลย เรียกว่าเป็นการสวิง เหวี่ยงกลับ จากศรัทธายึดติดเหนียวแน่นกลายเป็นหมดศรัทธา ซึ่งก็ทำให้ขาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งดีๆ จากครูบาอาจารย์

ศรัทธาที่ดีที่ถูกคือศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา เรียกว่า “ศรัทธาญาณสัมปยุต” คือ ศรัทธาที่มีปัญญาเป็นตัวกำกับ ถ้าศรัทธามีปัญญาเป็นตัวกำกับแล้ว มันก็ทำให้เป็นศรัทธาที่ถูกต้อง ไม่หวั่นไหว แล้วก็ไม่ผิดพลาด

ในสมัยพุทธกาลมีอุบาสกท่านหนึ่งชื่อ กุรพันทะวันหนึ่งได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า เกิดดวงตาเห็นธรรม พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเรื่องขันธ์ 5 ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน กุรพันทะพิจารณาก็เกิดปัญญา เห็นธรรมขึ้นมา

พอพระองค์เสด็จกลับ มารก็เห็นว่ากุรพันทะถ้ามีดวงตาเห็นธรรมแล้ว ต่อไปก็จะพ้นจากอำนาจของมารหรือพ้นจากบ่วงแห่งมาร มารไม่ยอม ต้องหาทางพยายามที่จะสั่นคลอนความเชื่อของกุรพันทะ ก็เลยแปลงกายเป็นพระพุทธเจ้า แล้วก็เดินมาหาปุรพันธะอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็พูดกับปุรพันธะว่า เมื่อกี้ที่เราได้แสดงธรรมให้ท่าน ยังขาดไปอีกอย่างหนึ่ง ที่บอกว่า ขันธ์ทั้ง 5 เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่จริงมันมีขันธ์บางอย่าง ที่เที่ยง ที่เป็นสุข แล้วก็เป็นตัวตน

ปุรพันธะ พิจารณาดูแล้วก็แปลกใจ พระพุทธเจ้าสอนไม่เหมือนกัน ตอนแรกก็พูดอย่างหนึ่ง ตอนหลังพูดอีกอย่างหนึ่ง ขัดแย้งกัน สงสัยจะไม่ใช่พระพุทธเจ้าแล้ว ก็เลยพูดขึ้นมาว่าท่านคือมารใช่ไหม มารก็ตกใจว่าปุรพันธะรู้แล้ว ก็เลยยอมรับ แล้วก็หนีไปเลย

อันนี้ก็เป็นตัวอย่างของผู้ที่มีศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา คือ ไม่ได้เชื่อง่าย ไม่ใช่ว่า โอ๊ย เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้วตรัสอย่างไรก็ต้องเชื่อทุกอย่าง แต่ปุรพันธะพิจารณาแล้วการตรัสของพระพุทธเจ้าในหนที่ 2มันไม่ใช่ มันไม่ถูก ก็เลยไม่ยอมเชื่อ แล้วก็พิจารณาต่อไปเชื่อว่า นี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้า มันคือมาร ถ้าเป็นคนธรรมดาก็จะเชื่อ เชื่อง่าย พระพุทธเจ้าตรัสอย่างไรก็เชื่อ

อันนี้เป็นตัวอย่างของผู้ที่มีศรัทธามั่นคงตอนหลังพระพุทธเจ้าก็เลยยกย่องให้ปุรพันธะ เป็นอุบาสิกาที่เป็นเอตทัคคะด้านศรัทธาที่ไม่หวั่นไหว

ศรัทธาที่ผิด นอกจากได้แก่ศรัทธาที่งมงายแล้ว มันยังมีศรัทธาอีกชนิดหนึ่งที่ผิดเหมือนกัน คือ ศรัทธาที่เจือด้วยกิเลส และกิเลสตัวนี้ที่สำคัญคือตัวมานะ หรือตัวอัตตา คือหลายคนศรัทธาครูบาอาจารย์ก็เพราะว่าต้องการตอบสนอง หรือพนออัตตาของตัว โดยเฉพาะอาจารย์ผู้ที่มีชื่อเสียง มีคนเคารพนับถือมาก ถ้าได้ชื่อว่าศรัทธาอาจารย์องค์นี้ หรือว่าได้ชื่อเป็นลูกศิษย์อาจารย์ท่านนี้แล้ว ตัวเองก็จะพลอยมีหน้ามีตา หรือว่าสามารถไปอวดใครได้

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ศรัทธาครูบาอาจารย์แบบนี้คือไม่ได้คิดที่จะฟังคำสอน หรือว่านำคำสอนไปปฏิบัติ อาจจะมีเหมือนกันที่นับถือเพราะว่าคำสอนถูกใจตัวเองสอดคล้องกับคติความเชื่อของตัวเอง ก็เลยนับถือ แต่ถ้าเมื่อใดครูบาอาจารย์สอนหรือพูดไม่ตรงกับความเห็นของตัว แตกต่างความเห็นของตัวหรือความเชื่อของตัว ก็ไม่พอใจ แบบนี้ก็มี เพราะไม่ได้เป็นศรัทธาที่น้อมไปในทางที่พร้อมจะเชื่อฟังและนำไปปฏิบัติ แต่ว่าศรัทธาตัวบุคคลเพื่อที่จะมาสนองตัวตนหรืออัตตาของตัว หรือว่าสนองมานะทิฐิของตัว ที่สนองมานะนี้มีเยอะทีเดียว เช่น ชอบไปพูดไปอวดว่าฉันเป็นลูกศิษย์อาจารย์ท่านนั้นท่านนี้ อันนี้ก็เพื่อตัวเองจะได้มีหน้ามีตา

เดี๋ยวนี้ที่ทำบ่อยคือว่าไปพบอาจารย์ท่านไหนก็อยากจะถ่ายรูปคู่กับท่าน ไม่ใช่เพื่อเป็นสิริมงคลเท่าไรแต่เพื่อจะได้อวดว่าฉันเป็นลูกศิษย์อาจารย์ท่านนั้นท่านนี้
เพื่อตนเองจะได้เป็น Somebody เพราะกลัวตัวเองเป็น Nobody แบบนี้ก็เป็นศรัทธาที่ผิดเหมือนกัน เพราะว่ามันเป็นศรัทธาที่ไม่ได้มุ่งนำไปสู่การลดละกิเลส แต่ว่ามันทำให้กิเลสเพิ่มพูน เป็นการพนออัตตา เป็นการปรนเปรออัตตา ซึ่งมันก็เกิดโทษ วันดีคืนดี อาจารย์เกิดทำอะไรบางอย่างที่ไม่ไปพนออัตตาตัวเอง ก็จะเกิดความผิดหวัง เกิดความคับแค้น เกิดความไม่พอใจ

อย่างมีเรื่่องเล่าในสมัยพุทธกาล มีคราวหนึ่งพระสารีบุตรจะออกธุดงค์ ตอนนั้นพระสารีบุตรก็อยู่ที่เชตวัน วันที่จะออกจากเชตวันก็มีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมากมายืนต้อนรับ ยืนเป็นแถวเพื่อที่จะอำลา พระสารีบุตรท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่สุภาพเรียบร้อย ท่านก็ทักทายพระที่ยืนเรียงเป็นแถว ถามชื่อถามโคตร แต่มีพระรูปหนึ่งที่มายืนรอส่ง ปรากฏว่าพระสารีบุตรไม่ได้ทักทาย ท่านโกรธมาก ความโกรธเกิดจากอะไรเกิดจากการที่พระสารีบุตรไม่เห็นท่านอยู่ในสายตา อยากจะเป็นคนสำคัญในสายตาของพระสารีบุตร ความอยากแบบนี้เกิดขึ้นได้ ในส่วนหนึ่งเพราะมีศรัทธา ศรัทธาในพระสารีบุตร คนเราพอศรัทธาในครูบาอาจารย์ ก็อยากให้ครูบาอาจารย์ให้ความสำคัญ อยากจะได้รับการทักทายจากครูบาอาจารย์ อยากจะเป็นคนสำคัญในสายตาครูบาอาจารย์ แต่พอครูบาอาจารย์ไม่เห็น ก็เลยรู้สึกว่าไม่มีความสำคัญ ก็เกิดความไม่พอใจ เกิดความโกรธถึงขั้นแค้นเลย

ก็เลยไปทูลพระพุทธเจ้าว่า พระสารีบุตรมาเดินกระทบถูกตัวเอง มาทำร้าย ทั้งที่จริง เพียงแค่ชายสังฆาฏิของพระสารีบุตรไปถูกตัวของพระรูปนั้นนิดหน่อยแต่ว่าพระรูปนั้นเนื่องจากความโกรธมาพร้อมกับความโกรธโกรธเพราะผิดหวัง ผิดหวังเพราะอะไร ผิดหวังเพราะว่าไม่อยู่ในสายตาของพระสารีบุตร หรือว่าไม่ได้รับความสำคัญเพียงพอ

อันนี้เป็นศรัทธาที่มุ่งสนองกิเลส ก็เลยกลายเป็น จากศรัทธา ก็เลยกลายเป็นความโกรธ ก็เลยหาเรื่องแก้แค้น ไปทูลฟ้องพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ทราบดีว่าเรื่องจริงๆเป็นยังไง เพราะพระสารีบุตรไม่มีทางเลยที่จะทำร้ายใครได้ แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ก็เลยตอบเรียกพระสารีบุตรมา เพื่อพิจารณาอธิกรณ์ สุดท้ายก็เป็นที่ชัดเจนว่า เรื่องไม่ได้เป็นแบบที่พระรูปนั้นกล่าวหา พระรูปนั้นก็ดีตอนหลังยอมรับ

อันนี้เป็นตัวอย่างว่า พอศรัทธาในตัวบุคคล มันเป็นศรัทธาที่ผิด เป็นศรัทธาที่มุ่งสนองปรนเปรอกิเลส หรือพนออัตตาของตัว พออัตตาไม่ได้รับการเหลียวแล หรือว่าไม่ได้รับการพนอ พอครูบาอาจารย์มองไม่เห็น ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีความสำคัญ มันก็เกิดความรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมา มันก็เหวี่ยงกลับ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง

เวลาเรามีศรัทธาในตัวบุคคล ก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่า ศรัทธาของเราเป็นศรัทธาที่ถูกหรือผิด เป็นศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา หรือว่าเป็นศรัทธาที่งมงาย เป็นศรัทธาที่สนองปรนเปรออัตตากิเลส หรือว่าเป็นศรัทธาที่นำไปสู่การลดละกิเลส ลดละอัตตา ถ้าเป็นศรัทธาที่ถูก มันก็จะมีแต่ทำให้อัตตากิเลสเบาบางลง เพราะว่านำเอาคำสอนของครูบาอาจารย์มาปฏิบัติ มีความเชื่อฟัง มีความอ่อนน้อมถ่อมตน

เดี๋ยวนี้ศรัทธาของผู้คน แม้กระทั่งที่เรียกตัวเองเป็นชาวพุทธ ที่ผิดพลาดก็เยอะ ศรัทธาที่งมงาย ศรัทธาที่มุ่งปรนเปรอกิเลสอัตตา ซึ่งเราก็ต้องรู้จักหมั่นพิจารณา แม้กระทั่งเวลาครูบาอาจารย์พูดอะไรก็อย่าเพิ่งเชื่อง่ายๆ อันนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้เลยในกาลามสูตรอย่าเชื่อเพียงเพราะผู้พูดเป็นครูของเรา ต้องรู้จักใช้ปัญญาพิจารณา มีวิจารณญาณของตัวเอง มันก็จะทำให้ศรัทธานั้นมันไม่ใช่เป็นการยึดติดในตัวบุคคล

แต่ว่ามันเป็นศรัทธาที่จะช่วยน้อมให้เกิดความเชื่อมั่นในการที่จะปฏิบัติตาม จนกระทั่งสามารถพึ่งตัวเองได้ สามารถที่จะเข้าใจความจริงได้ด้วยตัวเอง ไม่ถูกใครหลอกให้หลงเชื่อง่ายๆ แม้ว่าเขาจะอ้างว่าเป็นคำสอนของครูบาอาจารย์ หรือแปลงกายมาเป็นพระพุทธเจ้าอย่างมารในเรื่องที่ว่า

พิจารณาว่าศรัทธาที่เรามีต่อครูบาอาจารย์รวมทั้งศรัทธาในพระรัตนตรัยเป็นศรัทธาที่ถูกต้องไหมเป็นศรัทธาญาณสัมปยุตหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ มันก็จะนำพาไปสู่ความผิดพลาดหรือว่าทำให้กิเลสเพิ่มพูนขึ้นมาได้...”

บทเทศนาธรรมของพระไพศาล วิสาโลบทนี้ อ่านแล้วนำไปใช้ประโยชน์ได้ดี อย่างน้อยๆ ก็ได้ใช้ประกอบการติดตามข่าวเรื่อง “ทิดคม”กับเรื่อง “เข็มทิศชีวิต” นั่นเอง!!

พิฆาต ไพรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • บทความพิเศษ : SME ไทยต้องพร้อมแข่งขันในเวทีโลก! บทความพิเศษ : SME ไทยต้องพร้อมแข่งขันในเวทีโลก!
  • บทความพิเศษ : นายกสืบสันดาน  นิติกรรมอำพราง หลบภาษี? บทความพิเศษ : นายกสืบสันดาน นิติกรรมอำพราง หลบภาษี?
  • บทความพิเศษ : เด็กเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์  สวนทางนโยบายมีลูกเพื่อชาติ บทความพิเศษ : เด็กเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์ สวนทางนโยบายมีลูกเพื่อชาติ
  • บทความพิเศษ : ส่องการศึกษาไทย  ในยุคที่เด็กเกิดน้อย บทความพิเศษ : ส่องการศึกษาไทย ในยุคที่เด็กเกิดน้อย
  • บทความพิเศษ : ‘Climate Change’  โอกาส-ความเสี่ยง‘ตลาดทุน’ บทความพิเศษ : ‘Climate Change’ โอกาส-ความเสี่ยง‘ตลาดทุน’
  • บทความพิเศษ : ‘ประชัย’ออกโรงจี้‘แบงก์ชาติ’คุมค่าเงินบาท ชี้อย่างน้อยต้อง37บาทต่อดอลลาร์ บทความพิเศษ : ‘ประชัย’ออกโรงจี้‘แบงก์ชาติ’คุมค่าเงินบาท ชี้อย่างน้อยต้อง37บาทต่อดอลลาร์
  •  

Breaking News

เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย

ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’

ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา

เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved