"ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประธานมูลนิธิกองทัพธรรม" ประกาศพร้อมปกป้องรักษาสิทธิให้วัดพระธาตุพนม หลังมีกลุ่มคนอ้างเป็นตัวแทนชาวอำเภอฑาตุพนม ยื่นหนังสือเรียกร้องให้เทศบาลตำบลธาตุพนม ตรวจสอบและขอคืนพื้นที่บริเวณถนนหน้าวัดพระธาตุพนม อ้างเป็นพื้นที่ของแขวงการทาง "อนันต์ชัย"ยันพื้นที่ถนนหน้าวัดเป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์ตามกฎหมาย ท้าถ้าแน่จริงให้ฟ้อง 

วันที่ 20 พ.ค.66 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประธานมูลนิธิกองทัพธรรม, ผู้ประสานงานดูแลบริหารงานทั้งภายนอก-ภายในวัดพระธาตุพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีมีกลุ่มบุคคลอ้างเป็นตัวแทนชาว อ.ธาตุพนม ออกมายื่นหนังสือเรียกร้องให้เทศบาลตำบลธาตุพนม ดำเนินการตรวจสอบและขอคืนพื้นที่บริเวณถนนหน้าวัดพระธาตุพนมฯ อ้างว่าเป็นพื้นที่ของแขวงการทางและขอให้เปิดใช้งานให้ยานพาหนะทุกชนิดสามารถสัญจรผ่านไปมาได้

ในการนี้ตนยืนยันว่า พื้นที่ถนนหน้าวัดตามเอกสารหลักฐาน ระบุชัดเจนเป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์ตามกฎหมาย ไม่สามารถจะยกให้หรือโอนให้ใครได้ ขอกลุ่มบุคคลที่อ้างอย่าบิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างกระแสให้เกิดความแตกแยก หากยังไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดขอให้ไปศึกษาเกี่ยวกับข้อกฎหมายให้กระจ่าง รวมถึงเอกสารหลักฐานที่มาของที่ดินจะได้รู้สถานะปัจจุบันของที่ดินหน้าวัด ไม่ต้องมาเห่าไปวันๆ ถ้าแน่จริงฟ้องเลยตนในฐานะประธานมูลนิธิกองทัพธรรม พร้อมที่จะปกป้องรักษาสิทธิให้กับวัดพระธาตุพนม และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างวัดกับประชาชน

โดยสิ่งที่ตนยืนยันเป็นข้อกฎหมายและพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มาพูดแค่เพราะคำกล่าวอ้างและต้องทำความเข้าใจจนกระจ่างชัด ส่วนเรื่องการจัดระเบียบวัดจะแก้ไขปัญหาให้เกิดมาตรฐานและจะให้ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด แต่ต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นไปตามขั้นตอนการเสนอขึ้นทะเบียนสู่มรดกโลก ยืนยันทางวัดจะมีการจัดพื้นที่เหมาะสมให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าอย่างแน่นอน

จากข้อมูลของแหล่งข่าวให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า กลุ่มที่สร้างความแตกแยก โดยให้ข้อมูลผิดๆแก่พ่อค้าแม่ค้าจนกลายเป็นปัญหาบานปลาย มีหัวหน้าทีมเป็นนักการเมืองท้องถิ่น โดยใช้บริการสื่อที่ไร้จุดยืนเป็นกระบอกเสียง ทั้งทางสถานีวิทยุและออนไลน์ ซึ่งสื่อรายนี้ถูกโซเซียลในพื้นที่ตำหนิ กรณีหลังเลือกตั้งลงโพสต์ตัดพ้อประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกล ว่า เป็นคนที่มองไม่เห็นความดีของนักการเมืองที่ตนเองเชียร์อยู่จึงถูกถอนหงอก แต่ยังตีมึนมาสร้างความแตกแยกในวัดพระธาตุพนมอีก - 003