สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ จัดสัมมนาสื่อมวลชนและเครือข่ายการประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ในหัวข้อ "เที่ยวชิมทุเรียนน้ำแร่ และชุมชน@โนนสุวรรณ" เพื่อส่งเสริมเผยแพร่ผลผลิตทุเรียนคุณภาพ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่อำเภอโนนสุวรรณ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
วันนี้ (14 ก.ค. 66) ที่โรงเเรม เดอศิตา ปริ้นเซส อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายชัยยงค์ เมธาสุรวิชย์ ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนาสื่อมวลชนและเครือข่ายการประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ ตามโครงการประชาสัมพันธ์ยุทธศาสตร์ พัฒนาจังหวัด และนโยบายจังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี 2566 "เที่ยวชิมทุเรียนน้ำแร่ และชุมชน@โนนสุวรรณ" ซึ่งสำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ จัดขึ้น โดยมี นายพรเกียรติ พัวนิรันกูล ประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ นายดำรงค์ ปลั่งกลาง เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ นางเฑียร ที่รัก ประธานสมาพันธ์ทุเรียนน้ำแร่บุรีรัมย์ , ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทรัพย์สมบูรณ์, นางจิราพร นิยมตรง ผอ.สวท.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าร่วม
โดยการสัมมนาในครั้งนี้เพื่อเป็นการการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน ส่งเสริมและเผยแพร่ผลผลิตทุเรียนคุณภาพ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่อำเภอโนนสุวรรณให้เป็นที่รู้จักกับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งภายในการสัมมนาได้มีการจัดการเสวนาให้ความรู้ด้านการปลูกทุเรียนและแผนการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์
นายดำรง ปลั่งกลาง เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์พื้นที่การเกษตรจะอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ช่วงนี้เริ่มเจอปัญหาฝนทิ้งช่วง ได้มีประสานหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง เตรียมปฏิบัติการช่วยเหลือเกษตรกร
สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์นอกจากจะมีข้าวหอมมะลิ แล้วยังมีทุเรียนที่เริ่มเป็นที่นิยมปลูกใน 18 อำเภอ รวมกว่า 3 พันไร่ โดยเฉพาะ อ.โนนสุวรรณ ที่มีเกษตรกรปลูกกว่า 1.2 พันไร่และเป็นพื้นที่ที่ทีความเหมาะสมมากที่สุดสำหรับการปลูกพืชผลทางการเกษตร เนื่องจากมีชุดดินและน้ำแร่ ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ โดยล่าสุดช่วงฤดูกาลปีนี้คาดการณ์ว่า เกษตรกรจะขายผลผลิตได้ 700-800 ตัน เป็นเงินมูลค่ามากกว่า 112 ล้านบาท แต่ถึงแม้ว่าการปลูกทุเรียนในจังหวัดบุรีรัมย์ จะไม่มีปัญหาด้านการตลาด แต่ไม่สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ หลังจากนี้ทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรจังหวัด (ส่งเสริมองค์ความรู้, พาณิชย์จังหวัด และสหกรณ์จังหวัด (วางแผนด้านการตลาด การพัฒนาบรรจุภัณฑ์),
กรมวิชาการเกษตร(ควบคุมคุณภาพ), มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (นำผลเข้าก้องเเล็บ วิเคราะห์ตัวอย่าง หาเอกลักษณ์) ส่วนกรณีการขับเคลื่อนทุเรียนสู่ GI ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางเคมี ก่อนบันทึกและเข้าสู่การพิจารณาเป็นสินค้า GI ในอนาคตจะมีกาาส่งเสริมทุเรียนน้ำแร่บุรีรัมย์ สู่ทุเรียนโลก ส่วนข้อกังวลเรื่องฝนทิ้งช่วงที่จะส่งผลต่อการออกผลของทุเรียนนั้นมองว่า ไม่มีปัญหา เพราะบุรีรัมย์มีน้ำแร่ใต้ดินที่สามารถนำมาใช้ได้ตลอดทั้งปี
ด้านนางเฑียร ที่รัก ประธานสมาพันธ์ทุเรียนน้ำแร่บุรีรัมย์ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะปลูกทุเรียนได้มีการปลูกไผ่โดยไม่ได้ดูดินว่าเหมาะสมต่อการปลูกหรือไม่ ภายหลังจึงปลูกมันสำปะหลัง และเปลี่ยนมาเป็นการปลูกทุเรียนเพราะมองว่า ให้ผลดีกว่าใช้เวลาปลูก 4 ปี ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้จากการศึกษาผ่าน youtube และสมาพันธ์ผู้ปลูกทุเรียนไทย ให้เเก่กลุ่มเกษตรกร จากนั้นเกษตรจังหวัด สหกรณ์ และ ส.ป.ก.เริ่มเข้ามาให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ การรวมกลุ่มเป็นเเปลงใหญ่เพื่อของบสนับสนุนการพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียน
สำหรับปัญหาและอุปสรรค ส่วนใหญ่ชาวสวนจะเจอโรคไฟท๊อปโทร่า ซึ่งเกษตรกรจะร่วมกันหาวิธีการทางแก้ไขปัญหา อย่างใช้วิธีการฝังเข็ม การดูแลต่างๆ จนปัจจุบัน มีการส่งเสริม GI และส่วเสริมให้รักษาคุณภาพ มาตรฐานป้องกันการสวมทุเรียนสายพันธุ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ส่วนฤดูกาลฝนทิ้งช่วงที่จะมีจนถึงปีหน้า ขณะนี้ได้วางแผนการปรับโอโซน สูบน้ำพ่นอยู่เหนือต้น เพื่อเพิ่มความชื้น นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนด้านการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การจัดบุฟเฟ่ต์ การส่งออกต่างประเทศ ที่ต้องอาศัยล้ง
ขณะที่นายฉัตรชัยพัฒน์ สาระรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.โนนสุวรรณ การปลูกทุเรียนมี 3 รุ่นคือปลาย พ.ค. ต้น.มิ.ย. ช่วงเดือน ก.ค. และช่วง ส.ค. การดูแลทุเรียนจะมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก ต้องดูแลวันต่อวัน ทั้งการฉีดยา การรดน้ำ ให้ปุ๋ย จึงเป็นที่มาของราคาที่ค่อนข้างสูง ต้นทุนการเลี้ยงดูต่อต้น ประมาณ 20,000 บาท/ปี ผลผลิต 4 แสนบาท/ต้น ระบบน้ำ 200 ลิตร/ต้น ใช่เวลา 4 ปี ออกผลผลิตพร้อมทาน
ส่วนกรณีที่ประเทศจีนหรือลาวที่เป็นตลาดรับซื้อทุเรียนหลักของไทยเริ่มปลูกทุเรียนที่อาจทำให้ผลผลิตล้นตลาด มองว่า ตลาดทุเรียนไทยยังไม่ตัน เพราะขณะนี้ได้พุ่งเป้าไปยังตลาดอินเดีย ซึ่งยังไม่เคยได้สัมผัสทุเรียนจากประเทศไทย และเร็วๆนี้จะมีการพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนน้ำแร่ ติดกลิ่นมะพร้าวน้ำหอม
ด้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทรัพย์สมบูรณ์ อำเภอโนนสุวรรณ กล่าวว่า นอกจากจะมีทุเรียนน้ำแร่ ที่เป็นเกลักษณ์แล้ว ยังมีเห็ดโคนญี่ปุ่น ที่บ้านทรัพสมบูรณ์ ที่มีความกรอบอร่อย ซึ่งเกษตรกรได้รับการสนับสนุนจาก อบต.เกษตรอำภอ พัฒนาชุมชน เป็นพี่เลี้ยง ในการดูแลและให้ความรู้ต่างๆ ขณะนี้กำลังพัฒนาบ้านทรัพย์สมบูรณ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว นวัตวิถี รับนักท่องเที่ยว มีกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งการอาบน้ำแร่ ทำเห็ดโคนญี่ปุ่น การเก็บดอกเห็ด เลี้ยงปลาน้ำแร่ที่ไม่มีกลิ่นคาว กิจกรรมการประกอบอาหาร ฐานเรียนรู้ชุมชนและกิจกรรมที่จะมีเพิ่มตามฤดูกาล รวมถึง Homestay กว่า 10 หลัง หลังละ 500 บาท นอนได้ 3 คน ส่วนเต้นท์ ราคา 100 บาทช่วงฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดในปีนี้คือ ต้นเดือนสิงหาคม - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี