วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ระบุว่า
เรียน คุณไอติม ที่นับถือ เรื่อง เสพติดการใช้จริยธรรมทางการเมือง
ขออนุญาตเรียกชื่อเล่นนะครับ เพราะจะได้รู้สึกเป็นกันเอง ใกล้ชิดประชาชน และไม่สับสนกับอีกท่านหนึ่งที่ชื่อ “พริษฐ์” เหมือนกัน
คุณไอติมได้โพสต์ว่า
“…แต่หากเป็นเรื่อง “จริยธรรม” ซึ่งต่างคนต่างตีความไม่เหมือนกัน ทางเราเห็นเหมือนกับประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก ว่าผู้มีอำนาจควรจะต้องแสดงความรับผิดรับชอบทางการเมือง แทนที่จะกำหนดในบทกฎหมายให้มีใครบางกลุ่มผูกขาดการตีความเรื่องจริยธรรมและเสี่ยงจะใช้เรื่องจริยธรรมมากลั่นแกล้งกันทางการเมือง – ดังนั้น ตั้งแต่เราทำหน้าที่แกนนำฝ่ายค้าน เราจึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธดังกล่าว แม้หลายครั้งอาจเป็นประโยชน์ทางการเมืองสำหรับเรา เพราะเราเห็นว่าการสร้างสังคมที่เสพติดการใช้อาวุธดังกล่าว มีแต่จะบั่นทอนหลักนิติรัฐ ซึ่งจะมั่นคงได้ต่อเมื่อเรามีการตีความกฎหมายที่มีความชัดเจนแน่นอนและการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม-เสมอภาค”
ผมไม่แน่ใจนะครับ ที่ประชาชนเรียกร้อง “จริยธรรมของนักการเมือง” หรือกรณีที่คุณแพฯถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องจริยธรรม จะตรงกับที่คุณไอติมพูดถึง "การกำหนดในบทกฎหมายให้มีใครบางกลุ่มผูกขาดตีความเรื่องจริยธรรมและเสี่ยงจะใช้เรื่องจริยธรรมมากลั่นแกล้งกันทางการเมือง"
เพราะเรี่องจริยธรรมที่ว่านี้ ผมพบว่า ในเวปไซต์ของรัฐสภาสหราชอาณาจักร มีกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้โดยใช้คำว่า Code of Conduct ที่แปลเป็นไทยว่า จรรยาบรรณของการปฏิบัติงานหรือหน้าที่ และหนึ่งในจรรยาบรรณการปฏิบัติหน้าที่ของนักการเมือง คือ
“2. Members must base their conduct on a consideration of the public interest, avoid conflict between personal interest and the public interest and resolve any conflict between the two, at once, and in favour of the public interest”
ขออนุญาตแปลไทย เผื่อสำหรับคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษนะครับ
“ข้อสอง สมาชิก (สภาฯ) ต้องทำการประพฤติตนโดยพิจารณาถึงผลประโยชน์สาธารณะ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์สาธารณะ และแก้ไขความขัดแย้งระหว่างทั้งสองอย่างทันที โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์สาธารณะเป็นหลัก”
ผมว่า กรณีคำพูดในคลิปของคุณแพฯ ก็ต้องสงสัยตามข้อสองนะครับว่า คุณแพฯกำลังแลกผลประโยชน์สาธารณะกับผลประโยชน์ส่วนตัวและครอบครัวหรือไม่ ?
การขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจถือเป็นหน้าที่สำคัญของสมาชิกสภาฯฝ่ายค้านในการค้นหาความจริงในเรื่องนี้ ถ้าคุณไอติมบอกว่าจะรอให้แน่ใจว่า สามารถใช้อาวุธการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างมีผลแม่นยำและมีประสิทธิภาพ เพราะการขอเปิดนั้น เปิดได้หนเดียวในการประชุมสภาแต่ละปี
ถามว่า คุณและผมจะรู้ได้อย่างไรว่า ในอนาคตหลังจากนี้ จะมีเหตุสำคัญที่รุนแรงกว่าคลิปหลุด ที่สมควรกว่าในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเกิดไม่มีอะไรที่ร้ายแรงไปกว่านี้ การไม่ขอเปิดคราวนี้ จะไม่เป็นการทำให้ประชาชนเสียโอกาสไปหรือครับ ?
จากประสบการณ์ของผม ผมไม่เคยเจอกรณีที่ร้ายแรงแบบนี้นะครับ ที่ผู้นำบ้านเราพูดแบบนั้นกับผู้นำประเทศที่เป็นคู่กรณี หรืออาจจะมีก็ได้ แต่บังเอิญคลิปไม่หลุด แต่เมื่อมันหลุด มันก็ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่หรือครับ ?
ดังนั้น การเลือกที่จะไม่ดำเนินการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาชนของคุณไอติม ก็ดันพาให้ผู้คนสงสัยว่าเข้าข่ายข้อสองได้อีกด้วยครับว่า พรรคคุณกำลังให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคมากกว่าผลประโยชน์สาธารณะของประชาชน
คุณไอติมใช้เวลาศึกษาในอังกฤษอยู่นาน และศึกษาจนจบหลักสูตร PPE อันเป็นหลักสูตรที่คนที่อยากจะเป็นนักการเมืองทั่วโลกนิยมไปเรียน ผมไม่เชื่อว่า คุณไอติมจะไม่รู้เรื่องจรรยาบรรณของสมาชิกสภาฯที่อยู่ในเวปไซต์ของรัฐสภา สหราชอาณาจักร นะครับ แต่กันเหนียว ผมจึงแนบลิงก์มาให้ในคอมเมนต์ครับ
คราวหน้า ผมจะนำแนวทางของสิ่งที่เรียกว่า จรรยาบรรณของสมาชิกสภาฯ และ จรรยาบรรณของรัฐมนตรี มาขยายความในรายละเอียด และเชื่อว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ย่อมจะเข้าใจในกรอบและรายละเอียดของจรรยาบรรณของสมาชิกสภาฯและรัฐมนตรี และไม่ตัดสินวินิจฉัยที่เป็นการผูกขาดความหมายตามอำเภอใจ แต่อยู่ภายใต้กรอบกติกาสากล หรือถ้าไม่สากล อย่างน้อยก็เป็นไปตามกรอบความหมายของรัฐสภา สหราชอาณาจักร ครับ
ด้วยความนับถือ
ไชยันต์ ไชยพร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี