ชาวบ้านชัยภูมิเข้าชื่อร้องเรียน วอนยุติปัญหาพิพาทรุกที่สาธารณะ
27 สิงหาคม 2566 นางอัมพิการ์ ภาษีงาม พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ตำบลโอโล อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ร่วมเข้าชื่อ วอนขอความช่วยเหลือ ติดตามความคืบหน้า ผ่านสมาคมนักข่าวสื่อมวลชนจังหวัดชัยภูมิ หลังเกิดกรณีปัญหามีการเข้ามารุกล้ำพื้นที่ป่าเส้นทางสาธารณะในพื้นที่มานานตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา
นางอัมพิการ์ พร้อมตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ตำบลโอโล 28 คน พร้อมกันออกมาเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมานานตั้งปี 2562 ที่ชาวบ้านในพื้นที่เคยได้มีพื้นที่ป่าเส้นทางสาธารณะได้ใช้ร่วมกันของคนในชุมชนมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย เส้นทางสาธารณะผ่านไปประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา ทำสวน รวมทั้งได้ใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนแห่งนี้ เป็นแหล่งสร้างอาชีพเก็บหาของป่าในชุมชนไปขายสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนได้อีกทาง แต่ได้มีบุคคลที่อ้างว่ามีที่ดินติดกันมีโฉนดครอบครองที่ดินใกล้พื้นที่ป่าเส้นทางสาธารณะประโยชน์ของชุมชน มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดินสาธารณะที่ถูกต้อง และได้เข้ามาดำเนินการก่อสร้างกั้นรั้วไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่ผ่านเข้าออกพื้นที่สาธารณะของชุมชนได้อีกต่อไป
ชาวบ้านจึงมีการเข้าชื่อยื่นหนังสือร้องทุกไปทาง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโอโล และ นายอำเภอภูเขียว รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐสภา และวุฒิสภา ให้เร่งช่วยตรวจสอบ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจาการถูกรุกล้ำครอบครองพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชุมชน ไม่สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้เหมือนเดิม
ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าบุกรุก ยังอ้างว่ามีสิทธิ์ครอบครอบที่ถูกต้อง และมีการขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย มีการดำเนินการฟ้องร้องทั้งนายอำเภอ และ นายก อบต. มาตั้งแต่ประมาณช่วงปี 2563 จนล่าสุดทางศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำพิพากษายกคำร้องไม่รับฎีกาของผู้ที่ถูกอ้างว่าไม่มีการรุกล้ำที่สาธารณะ เมื่อช่วงประมาณปลายปี 2564 ที่ผ่านมา
จนมาถึงปี 2565 และในปัจจุบัน ทางบุคคลที่รุกล้ำที่สาธารณะดังกล่าว ก็ยังไม่ยอมรื้อรั้วที่ล้อมรุกล้ำที่สาธารณประโยชน์ของชุมชนออกเช่นเดิม ซึ่งชาวบ้านไม่รู้จะไปพึ่งใครต่อไปได้ และจึงอยากฝากร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนในครั้งนี้ด้วย
ด้านนายสนอง มะลัยขวัญ นายอำเภอภูเขียว กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นมีการขอใช้สิทธิ์ทางกฎหมายของผู้อ้างครอบครองรุกล้ำที่ทางสาธารณประโยชน์ของชุมชน จึงเกิดกรณีพิพาทขึ้น พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และล่าสุดทางผู้อ้างสิทธิ์ครอบครองดังกล่าวเองยังยืนยันจะใช้สิทธิตามกฎหมาย ที่ทางฝ่ายปกครองอำเภอ และเจ้าของพื้นที่ทางด้าน นายก อบต. ก็ต้องใช้สิทธิ์การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของท้องถิ่น ที่จะให้ต้องศาลเป็นผู้ตัดสินให้มีคำสั่งศาลเป็นผู้พิจารณา เพื่อให้มีการแก้ปัญหาในกรณีที่เกิดขึ้น ที่ชัดเจนออกมาอีกครั้งตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
“ขอให้ประชาชนพื้นที่เข้าใจทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนกฎหมายที่มีกรณีพิพาทเกิดขึ้นโดยรอบครอบ และเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อนำไปสู่การไม่ให้เกิดปัญหาการใช้ความรุนแรงขัดแย้งต่อกันต่อไป” นายอำเภอภูเขียว กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี