วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปแนวหน้า : ‘ออนไลน์’ต้องรู้เท่าทัน  ‘โจรไซเบอร์’หลงเชื่อ‘สูญเงิน’

สกู๊ปแนวหน้า : ‘ออนไลน์’ต้องรู้เท่าทัน ‘โจรไซเบอร์’หลงเชื่อ‘สูญเงิน’

วันเสาร์ ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
Tag : สกู๊ปแนวหน้า
  •  

“อันนี้เป็นคู่มือ เขียนว่ากลยุทธ์ในการฆ่าหมู หมูก็คือพวกที่โดนหลอก เปลือกนอกใช้ Profile (ประวัติ) ดูดีน่าเชื่อถือพูดคุยสร้างความสนิทสนม อันนี้เป็นเหมือนดัชนีหัวข้อข้างในมีอีก ตกปลาใหญ่ ลงมือหลอกล่อให้ลงทุน ภาคผนวกคุณสมบัติที่เราจะหาพิเศษ รักร่วมเพศ พวกนี้หวั่นไหว คุณสมบัติผู้หญิงที่อายุมากกว่า ผู้ชายที่หิวทางเพศ อันนี้เมื่อปี 2562 จัดพิมพ์ครั้งที่ 4 ที่เราจับได้”

พ.ต.ท.ดร.ปุริมพัฒน์ ธนาพันธ์สิริ รองผู้กำกับการกองกำกับการ 4 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวในการบรรยายเรื่อง “วัคซีนไซเบอร์ (Vaccine Cyber)” ที่สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จ.นครปฐม เมื่อช่วงปลายเดือน ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา เล่าถึง “คู่มือฝึกอบรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ซึ่งตำรวจยึดได้ โดยคู่มือเล่มนี้จัดทำขึ้นในปี 2562 ใช้ภาษาต่างประเทศภาษาหนึ่ง ทำให้น่าคิดว่า วันนี้ผ่านไปแล้ว 4 ปี กลยุทธ์ของ “มิจฉาชีพออนไลน์” เปลี่ยนแปลงไปมาก-น้อยเพียงใด


“มิจฉาชีพออนไลน์นั้นมีวิวัฒนาการไปตามยุคสมัย”ไล่ตั้งแต่ 1.ยุคหลอกให้ติดตั้งโปรแกรม TeamViewer Remote Control โดยโปรแกรมดังกล่าวเดิมทีถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งสามารถอนุญาตให้บุคคลอื่นในทีมเข้ามาควบคุมอุปกรณ์ (เช่น โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนหรือเครื่องคอมพิวเตอร์) จากระยะไกลได้ ทำให้ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ผิดด้วยการหลอกให้เหยื่อติดตั้งโปรแกรมนี้แล้วอนุญาตให้มิจฉาชีพเข้าถึงอุปกรณ์ของเหยื่อ

2.ยุคหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นปลอม ปัจจุบันกิจกรรมต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์มักทำผ่านแอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ทำให้มิจฉาชีพลงทุนสร้างแอปพลิเคชั่นปลอมที่หน้าตาคล้ายกับแอปพลิเคชั่นจริงของหน่วยงานไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อดาวน์โหลดแล้วกรอกข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะที่ต้องใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ก็ทำให้มิจฉาชีพสามารถดึงเงินออกจากบัญชีเงินฝากของเหยื่อได้

และ 3.ยุคทุ่มซื้อแอปพลิเคชั่นที่ถูกกฎหมาย เป็นยุคล่าสุดที่มิจฉาชีพทุ่มเงินซื้อแอปพลิเคชั่นที่เปิดให้ดาวน์โหลดอย่างถูกต้องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะเป็น “แอปพลิเคชั่นชมโชว์สด (Live) ในเนื้อหาบางประเภท” แต่แอปฯ ประเภทนี้จะมีการแฝง “สปายแวร์ (Spyware)” หรือโปรมแกรมที่ใช้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในอุปกรณ์ของผู้ดาวน์โหลด หรือแม้แต่การเปิดกล้องโดยที่เจ้าของอุปกรณ์ไม่รู้ตัว ทำให้มิจฉาชีพอาจได้ภาพที่คนคนนั้นไม่อยากเผยแพร่แล้วนำกลับมาขู่กรรโชกทรัพย์ (Blackmail) เหยื่อได้ในภายหลัง

นอกจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีแล้ว “มิจฉาชีพยังลงทุนจัดฉากให้เหมือนกับหน่วยงานของจริงมากที่สุด” เช่น มิจฉาชีพอาจบอกให้เหยื่อเข้าร่วมการประชุมทางไกลผ่านโปรแกรมซูม (Zoom) หรือสนทนาแบบเห็นหน้า(วีดีโอคอล) ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ (Line) แล้วเหยื่ออาจหลงเชื่อว่าบุคคลที่เห็นเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานจริงๆ เพราะมิจฉาชีพมีการแต่งเครื่องแบบตำรวจหรือเครื่องแบบข้าราชการหน่วยงานต่างๆ นั่งอยู่ในห้องที่ดูเหมือนเป็นห้องทำงานของผู้บังคับบัญชาระดับสูงบ้าง หรือเหมือนกับเป็นสถานีตำรวจบ้าง

พ.ต.ท.ดร.ปุริมพัฒน์ กล่าวต่อไปถึงหนึ่งในกลโกงของมิจฉาชีพออนไลน์ที่อาจพบได้บ่อยๆ คือ “การปลอมเพจเฟซบุ๊ก” เพื่อใช้หลอกเหยื่อทั้งการขายสินค้าออนไลน์และการหลอกให้ลงทุน (เช่น หุ้นหรือสกุลเงินดิจิทัล) โดยเพจปลอมจะหน้าตาคล้ายกับเพจจริงของบริษัทห้างร้านต่างๆ อย่างมาก ซึ่ง พ.ต.ท.ดร.ปุริมพัฒน์ แนะวิธีสังเกตว่าเพจใดเป็นเพจจริง หรือเพจใดน่าจะเป็นเพจต้องสงสัยว่ามิจฉาชีพตั้งขึ้น ดังนี้

1.เครื่องหมายถูกสีฟ้าที่ชื่อเพจ โดยองค์กรที่เป็นเจ้าของเพจต้องเสียค่าบริการเดือนละ 349 บาท ให้กับทางเฟซบุ๊กเพื่อยืนยันว่าเป็นเพจจริง 2.จำนวนคนกดถูกใจ (Like) กดติดตาม (Follow) หรือแสดงความคิดเห็น (Comment) หากเป็นเพจจริงของบุคคลหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงแล้วโดยปกติยอดผู้ติดตามมักจะสูง แต่หากเพจใดมียอดเหล่านี้น้อยอย่างน่าสงสัย เช่น กดถูกใจเพียง 2 คน ก็ให้คิดไว้ก่อนว่าเพจนั้นไม่น่าไว้ใจ 3.ประวัติการตั้งเพจ สามารถดูได้ในหมวด “เกี่ยวกับ” และ “ความโปร่งใสของเพจ” โดยหากเป็นเพจที่สร้างมานานแล้วก็ค่อนข้างน่าเชื่อถือ

ถึงกระนั้นก็ต้องดู “การเปลี่ยนชื่อเพจ” ด้วย เพราะบางเพจมีการเปลี่ยนชื่ออย่างน่าสงสัย อาทิ ตั้งเพจครั้งแรกเป็นเพจนาฬิกา ต่อมาเปลี่ยนเป็นเพจทุเรียน จากนั้นก็พบว่าเปลี่ยนเป็นเพจอุปกรณ์เล่นวีดีโอเกม รวมการเปลี่ยนชื่อเพจ 3 ครั้งเป็นสินค้าคนละอย่าง ลักษณะนี้ก็ดูไม่ปกติ และ 4.คนดูแลเพจ (แอดมิน) อาทิ ชื่อเพจเป็นแม่ค้าออนไลน์ชื่อดังท่านหนึ่งในประเทศไทย แต่แอดมินเพจอยู่ที่ประเทศจีน 4 คน อาร์เจนตินา 1 คน กัมพูชา 1 คน ไม่มีอยู่ในไทยแม้แต่คนเดียว แบบนี้ก็น่าคิดว่าจะไว้วางใจได้หรือไม่

“พวกนี้จะซื้อเพจปลอมต่อกันมาเรื่อยๆ และทุกครั้งที่เขาซื้อมันจะมีคนเข้ามาติดตามเยอะขึ้นเรื่อยๆ อย่างเพจนี้ถ้าเราอยากจะรู้ว่ามันจริงหรือเปล่า เราดูอันแรกไม่มีติ๊กถูกก็เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่ามันเป็นเพจอะไรกันแน่ เข้ามาดูความโปร่งใสของเพจ กดเลยครับทั้งหมด สร้างเมื่อปี 2022 ใช่ไหม ดูเลย คุณเทรดเก่งนักใช่ไหม เหมือนเดิมเลยครับ สร้างเมื่อปี 2022 คนดูแล กัมพูชา ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อินเดีย เวียดนาม ไม่ใช่ของไทยแน่ครับ อันนี้อันตรายแน่” พ.ต.ท.ดร.ปุริมพัฒน์ ระบุ

อีกกลโกงที่น่าเป็นห่วงคือ “ตีเนียนเป็นคนรู้จักหลอกขอเงินหรือยืมเงิน” ในยุคแรกๆ มิจฉาชีพอาจใช้วิธีปลอมบัญชีเฟซบุ๊กหรือไลน์แล้วทักไปยืมหรือขอเงินจากญาติสนิทมิตรสหายของบุคคลที่ถูกสวมรอยนั้น แต่ระยะหลังๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศพบรายงานการใช้เทคโนโลยี “ปัญญาประดิษฐ์ (AI)” เพื่อทำการ “สังคราะห์เสียง (หรือแม้แต่ภาพเคลื่อนไหว) ของบุคคลที่ต้องการสวมรอยให้เหมือนของจริง” จนยากจะแยกแยะได้ว่าสิ่งที่เห็นหรือได้ยินเป็นความจริงหรือการหลอกลวง

“1.เราต้องคิดไว้ก่อนเลยว่าหน่วยงานราชการไม่มีใครขยันขนาดนั้น ไม่มีใครหวังดีจะคืนเงินค่าไฟ คืนเงินภาษี เราไม่ต้องคิดเลยครับ ถ้าเราไม่โลภ ไม่คิดว่าเป็นแนวทางที่ดีถ้าบอกว่าเป็นราชการติดต่อมา เรารับสายปุ๊บเราวางแล้วโทรกลับไป ถ้ามันเป็นเบอร์ที่มีคนรับก็บอกว่าไม่เป็นไร ถ้าฉันจะได้เงินฉันจะไปติดต่อเอง จะเอาบัตรประชาชนไปยื่นเองที่สาขา ไม่มีใครอำนวยความสะดวกขนาดนั้น ฉะนั้นการจะให้เงินเราคืนเขาไม่แน่นอน

2.ชิงโชค ได้ของฟรีอื่นๆ เราโทรเข้าไปเช็คดีกว่า ถ้ามีคนติดต่อมาผมว่าอันตรายมาก และ 3.เป็นเพื่อนเราเอง คนที่เรารู้จัก ที่มีเสียงเหมือนมาก ที่วีดีโอคอลแล้วมันใช่มาก ถ้าใครจะมายืมเงินจากกระเป๋าเรา คิดไว้อย่างเดียว เงินของฉันถ้าฉันไม่โอนใครก็เอาไปไม่ได้ ถ้าลำบากเดือดร้อนมากแล้วอยากให้ยืมก็เช็คให้แน่ใจ เฮ้ย! ถ้าเป็นเพื่อนเก่าเราจริงจำเรื่องสมัยก่อนได้หรือเปล่า ตอนที่เราไปก๋ากั่นกัน ตอนที่มีความลับกัน” พ.ต.ท.ดร.ปุริมพัฒน์ สรุปแนวทางป้องกันการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์

ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมประเด็นการรับรองเพจเฟซบุ๊ก ว่า การมีเครื่องหมายถูกที่เพจแสดงว่าเพจนั้นเป็นเพจจริง แต่ก็มีบริษัทหรือองค์กรอีกมากที่ไม่ลงทุนให้มีเครื่องหมายถูกบนเพจของตนเอง จึงแนะนำประชาชนให้ดูยอดคนกดถูกใจ กดติดตาม หรือแสดงความคิดเห็น ตลอดจนประเทศที่อยู่ของแอดมินเพจประกอบด้วยว่าเพจนั้นน่าเชื่อถือหรือไม่

ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค. 2566 เพียงเดือนเดียว เท่าที่มีการมาแจ้งความพบความเสียหายรวมคิดเป็นจำนวนเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท และข้อมูลของวันที่ 21 ส.ค. 2566เพียงวันเดียว มียอดความเสียหายในระบบการแจ้งความถึง 56 ล้านบาท อีกทั้ง กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) เพียงหน่วยเดียวจากทั้งหมด 5 กองบังคับการ แต่ละวันรับแจ้งความจากประชาชน 50-60 คน ยอดความเสียหายอยู่ที่10 ล้านบาท

“เวลาเกิดเหตุแก๊งดูดเงิน แก๊งคอลเซ็นเตอร์โรแมนซ์สแกม ไฮบริดสแกม อะไรก็แล้วแต่ แล้วรู้ว่าโดนดูดเงินไป โดนโกงไป ท่านยังไม่ต้องรีบหาตำรวจ ท่านโทร.ไปที่เบอร์โทรศัพท์ด่วนของแต่ละแบงก์ โทร.ไปเลยครับ เพื่อรีบระงับบัญชี แต่การระงับบัญชีของเราเขาจะระงับได้ไม่เกิน 72 ชั่วโมง จากนั้นท่านไปโรงพักที่ใกล้บ้านตรงไหนก็ได้ ขอเลขเคสไอดีแบงก์มาให้แล้วแจ้งความเลย แล้วเอาตราครุฑมาให้แบงก์ เพื่อใช้คำว่าอายัดบัญชี ของพนักงานธนาคารศูนย์กลางเขาจะใช้คำว่าระงับบัญชี” พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าว

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย
  • สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’ สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง
  • สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  • สกู๊ปแนวหน้า : เส้นทางสู่ความยั่งยืน  อุตสาหกรรมการบินของไทย สกู๊ปแนวหน้า : เส้นทางสู่ความยั่งยืน อุตสาหกรรมการบินของไทย
  •  

Breaking News

'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.

'รมว.ยุติธรรม'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม

ตลาดสี่มุมเมืองจัดงานเอ็กซ์โป ขายทุเรียนเริ่มต้นพูละ 5 บาท แจกทุเรียนกว่า 200 ลูก

ตัวมัมพันธุ์ใหม่!!! ได้ทีกระทืบซ้ำ‘สายสีน้ำเงิน’ สอนมารยาททางการเมือง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved