วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปพิเศษ : กสศ.จับมือกรมพินิจฯและ20เครือข่าย  สร้างโอกาสการศึกษา เปิดเส้นทางชีวิตใหม่

สกู๊ปพิเศษ : กสศ.จับมือกรมพินิจฯและ20เครือข่าย สร้างโอกาสการศึกษา เปิดเส้นทางชีวิตใหม่

วันอาทิตย์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : สกู๊ปพิเศษ
  •  

มากกว่า 60% ของเด็กในกระบวนการยุติธรรมเป็นเด็กยากจนและไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา กสศ. ร่วมกับ กรมพินิจฯและ 20 เครือข่าย ร่วมกันผลักดัน “โอกาสใหม่การศึกษาเพื่อเปลี่ยนชีวิต คืนคนคุณภาพสู่สังคม” โดยล่าสุด สถิติเยาวชนกระทำผิดซ้ำลดลงต่อเนื่องโดยมีเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา จำนวน 1,958 คน ได้กลับสู่การศึกษาอีกครั้งด้วยการศึกษาทางเลือกในรูปแบบศูนย์การเรียนรู้ ขณะที่ตัวเลขการกระทำผิดซ้ำในปีแรกของเด็กและเยาวชนลดลงอย่างต่อเนื่อง จากร้อยละ 22.33 ในปี 2563 เป็นร้อยละ 15.78 ในปี 2565

กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยข้อมูลระหว่างปี 2561-2565 พบว่า มีเด็กและเยาวชนช่วงอายุ12-18 ปี กระทำความผิด 134,747 คดี โดยเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดมีการศึกษาในระดับมัธยมศึกษามากที่สุดร้อยละ 51.72 รองลงมามีการศึกษาในระดับประถมศึกษาร้อยละ 17.57


นอกจากนี้ ร้อยละ 68.67 ของคดีทั้งหมด ผู้กระทำความผิดไม่ได้อยู่กับบิดา มารดา หรือบิดา มารดา แยกกันอยู่ ร้อยละ 66.89 เป็นเด็กยากจนและไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา โดยมีทั้งทำงานและว่างงาน  

แม้รัฐบาลจะมีนโยบายเรียนฟรี 15 ปี แต่โดยส่วนใหญ่เด็กและเยาวชนเหล่านี้ เป็นกลุ่มที่ถูกปฏิเสธจากชั้นเรียนในระบบโรงเรียน ส่วนใหญ่ออกกลางคันในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และไม่สามารถกลับมาเรียนต่อในระบบโรงเรียนได้ส่งผลให้ “หลุดออกจากระบบการศึกษา” เพราะระบบการศึกษาไม่มีทางเลือกที่ครอบคลุมเพียงพอ

ล่าสุด กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มูลนิธิปัญญากัลป์ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายการศึกษากว่า 20 องค์กร จัดงาน “โอกาส Open House สร้างโอกาสการศึกษา เปิดเส้นทางชีวิตใหม่”ผลักดันวาระการศึกษาทางเลือกในระบบการศึกษาที่ไม่ทิ้งเด็กและเยาวชนคนใดไว้ข้างหลัง (Education For All) ระหว่างวันที่ 8-10 กันยายน 2566 ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ กรุงเทพฯ

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการบริหาร กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า เด็กและเยาวชนทุกคนมีศักยภาพ ไม่ว่าจะกำลังเผชิญกับปัญหาใดก็ตาม ระบบการศึกษาต้องสร้างโอกาสและไม่ละทิ้งใครไว้ข้างหลัง กสศ. จึงริเริ่มโครงการพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางเลือกสำหรับเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมร่วมกับกรมพินิจฯ มูลนิธิปัญญากัลป์ มูลนิธิซีวายเอฟ และเครือข่ายศูนย์การเรียนอีก 6 แห่ง เพื่อเป็นโอกาสใหม่ทางการศึกษาเพื่อเปลี่ยนชีวิต คืนคนคุณภาพสู่สังคม เรามุ่งให้การศึกษาเป็นทั้งเกราะป้องกัน และเป็นโอกาสเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม

เด็กและเยาวชนเหล่านี้ เป็นกลุ่มที่ถูกปฏิเสธจากชั้นเรียนในระบบโรงเรียน ส่วนใหญ่ออกกลางคัน ในช่วงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และจำนวนมากไม่สามารถกลับมาเรียนต่อได้ทั้งในระบบโรงเรียนและ กศน. หรือ สกร. ตามกฎหมายใหม่ เป็นกลุ่มที่มีทักษะพิเศษในการเรียนแบบปฏิบัติการ กสศ. จึงสนับสนุนให้มีการจัดการศึกษาทางเลือก รูปแบบของศูนย์การเรียนรู้ ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนรวมถึงสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

ศูนย์การเรียนรู้ เป็นการจัดการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น สามารถเทียบโอนประสบการณ์เพื่อแปลงเป็นหน่วยกิต และเข้าศึกษาต่อเนื่องตามระดับชั้นที่เรียนค้างไว้ สามารถออกแบบหลักสูตร กิจกรรมการเรียนการสอนตามความสนใจและความถนัดของผู้เรียนรายคน เรียนรู้แบบโครงงานฐานอาชีพ และเรียนจากประสบการณ์ตรง (Experiential Learning) ร่วมกับสถานประกอบการ ได้ฝึกทักษะวิชาชีพตามความสนใจและความถนัด รวมถึงพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ ควบคู่กับการส่งเสริมทักษะชีวิตให้ผู้เรียนมีความพร้อมในการกลับไปใช้ชีวิตในสังคม

 

นอกจากนี้ กำลังพัฒนาให้เกิด “ชุมชนโอบอุ้มคุ้มครองเด็ก” ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง นักสังคมสงเคราะห์ ครอบครัว ชุมชน ท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ ไม่กระทำผิดซ้ำอีก

“การจะทำให้การศึกษาทะลุฝ่ากำแพงหนาทึบและปิดสนิทเข้าไปได้ เป็นโจทย์ที่ยากด้วยข้อจำกัดนานัปการ ดังนั้นต้องมีความร่วมมือ มีนวัตกรรมที่เหมาะสมและทรงพลัง เพื่อให้การศึกษาเข้าไปทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงเด็กๆ ให้กลับมาเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ และไม่ใช่แค่การศึกษา แต่ต้องมีกระบวนการที่ครอบคลุมทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ ทักษะวิชาการ เพื่อรู้เท่าทันความซับซ้อนในสังคม มีการดูแลติดตามต่อเนื่องหลังกลับออกไปใช้ชีวิต เพื่อให้มั่นใจว่าน้องๆ ทุกคน จะพบที่ทางของตนในสังคม ไม่เวียนซ้ำกลับไปที่จุดเดิมอีก” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว

พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ระบุว่า กรมพินิจฯ ได้กำหนดนโยบายให้กับทุกศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนทุกแห่ง
ทั่วประเทศ สามารถจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบท ตัวตน และความสามารถของเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมตามแนวทางของการจัดการศึกษาทางเลือก การจัดการศึกษาบนฐานของกิจกรรมหรือกลุ่มประสบการณ์ โดยดำเนินการคู่ขนานไปกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบอื่นๆ และเปลี่ยนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเป็น Community of Learning  ใช้โอกาสของวันเวลาภายในศูนย์ฝึกฯ เป็นพื้นที่ฝึกกระบวนการเปลี่ยนวิธีคิด วิธีตัดสินใจแบบใหม่

บุคลากรของเราเปลี่ยนบทบาทครู เป็น “โค้ชชีวิต” ที่เชื่อมั่นในตัวเด็ก ให้โอกาสพวกเขาปล่อยพลังและความสามารถออกมา และคอยเติม เสริม แก้ไข ในสิ่งที่เด็กและเยาวชนต้องการ เรียกว่าเป็นทั้งครูต่อยอด ครูเสริมพลัง ครูนักจัดการเรียนรู้ ขณะที่ผู้บริหารสถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกฯ เป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ที่สามารถออกแบบการศึกษาให้เหมาะสมและมองภาพรวมการจัดการศึกษาได้ในทุกมิติ ครูเปลี่ยน เด็กเปลี่ยน บรรยากาศเปลี่ยน  

จากการทำงานมีเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา จำนวน 1,958 คน ได้กลับสู่การศึกษาอีกครั้งด้วยการศึกษาทางเลือกในรูปแบบศูนย์การเรียน ที่ร่วมกับ กสศ. และสามารถเรียนจบการศึกษาแล้ว 685 คน ขณะที่ตัวเลขการกระทำผิดซ้ำในปีแรกของเด็กและเยาวชนลดลงอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 22.33 ในปี 2563 ร้อยละ 19.66 ในปี 2564 และร้อยละ 15.78 ในปี 2565 โดยสาเหตุของการกระทำผิดซ้ำมาจากการคบเพื่อน คึกคะนอง รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และครอบครัว

“กสศ.ได้เห็นความสำคัญและศักยภาพเด็กกลุ่มเสี่ยงกลุ่มเปราะบางที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม จึงได้ออกแบบการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาเด็กกลุ่มนี้ให้เป็นคนที่มีคุณภาพและเป็นบุคลากรที่ดี กรมพินิจได้ร่วมโครงการฯ นี้กับ กสศ.มาประมาณ 2-3 ปี เห็นได้ชัดว่าตัวเลขการกระทำผิดซ้ำของเด็กและเยาวชนลดลง ซึ่งที่ผ่านมาทางกรมพินิจฯ ไม่เคยทำตัวเลขลดลงได้มาเกือบ 10 ปีแล้ว” อธิบดีกรมพินิจฯ กล่าว

อธิบดีกรมพินิจฯ กล่าวว่า รอยต่อของเด็กที่พ้นจากสถานพินิจเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น การให้โอกาสทางการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ และถือเป็นประวัติศาสตร์ของกรมพินิจฯ เหมือนกัน การส่งเสริมและให้โอกาสทางการศึกษาเพื่อให้เขามีวุฒิภาวะและสามารถนำความรู้ไปสร้างอาชีพเพื่อดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า 2 สิ่งนี้จะช่วยแก้ปัญหาแรกของเด็กกลุ่มนี้คือปัญหาครอบครัวได้ เนื่องจากการได้รับโอกาสทางการศึกษาและมีงานทำที่ดีเขาจะเติบโตไปมีครอบครัวที่มีคุณภาพทำให้ตัดวังวนเดิมได้ หรือเด็กไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำได้ในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ภายในงาน “โอกาส Open House สร้างโอกาสการศึกษา เปิดเส้นทางชีวิตใหม่” มีนิทรรศการร้านไอศกรีมโอกาสรวมมิตร ถ่ายทอดเรื่องราวทางเลือกการศึกษาของเยาวชนผ่านรสชาติของไอศกรีม, การแข่งขันทักษะดนตรี DJOP Music Contest 2023, กิจกรรมห้องเปิดโอกาสจัด Talk Event หัวข้อ Wayfinder : เส้นทาง-โอกาส-จุดเปลี่ยนและ เรียนผ่านหนัง ชวนดูหนังตั้งวงคุยกับ กสศ. และ doc clubและมีกิจกรรมการแข่งขันทักษะความสามารถของเด็กและเยาวชนRise and Shine ปล่อยของประลองอาชีพ

ถือเป็นมหกรรมความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ร่วมผลักดันวาระการศึกษาทางเลือกในระบบการศึกษาที่ไม่ทิ้งเด็กและเยาวชนคนใดไว้ข้างหลัง (Education For All)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปพิเศษ : ‘บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่’ร้ายกว่าที่คิด! ตัวการดึง‘เด็ก-เยาวชน’สู่วงจรอันตราย สกู๊ปพิเศษ : ‘บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่’ร้ายกว่าที่คิด! ตัวการดึง‘เด็ก-เยาวชน’สู่วงจรอันตราย
  • สกู๊ปพิเศษ : สสส.ชูโมเดล‘ชุมชนหัวชุกบัว’ นำร่องรับมือ 3 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ สกู๊ปพิเศษ : สสส.ชูโมเดล‘ชุมชนหัวชุกบัว’ นำร่องรับมือ 3 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ
  • สกู๊ปพิเศษ : ​นำร่อง ‘1 โรงเรียน 3 รูปแบบ online’ แก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา สกู๊ปพิเศษ : ​นำร่อง ‘1 โรงเรียน 3 รูปแบบ online’ แก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา
  • สกู๊ปพิเศษ : รู้จัก!‘ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์’ ผู้อำนวยการ บพค.คนใหม่ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นเลิศ ด้าน ววน. สกู๊ปพิเศษ : รู้จัก!‘ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์’ ผู้อำนวยการ บพค.คนใหม่ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเป็นเลิศ ด้าน ววน.
  • สกู๊ปพิเศษ : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ  เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สกู๊ปพิเศษ : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  • สกู๊ปพิเศษ : สานต่อปีที่ 7 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานฯ 2025  ‘เพื่อนกัน มันส์โนแอล ไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน’ สกู๊ปพิเศษ : สานต่อปีที่ 7 ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานฯ 2025 ‘เพื่อนกัน มันส์โนแอล ไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน’
  •  

Breaking News

'DSI'ลงนามด่วนถึง'ผบ.ตร.-ปลัด มท.' ร่วมมือสอบสวนเอาผิดฟอกเงินคดีฮั้วเลือก สว.

'รมว.ยุติธรรม'เป็น ปธ.มอบเงินเยียวยาให้เหยื่อตึก สตง.ถล่ม

ตลาดสี่มุมเมืองจัดงานเอ็กซ์โป ขายทุเรียนเริ่มต้นพูละ 5 บาท แจกทุเรียนกว่า 200 ลูก

ตัวมัมพันธุ์ใหม่!!! ได้ทีกระทืบซ้ำ‘สายสีน้ำเงิน’ สอนมารยาททางการเมือง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved