22 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน บริเวณสามแยกไฟแดงตลาดสดย่านตาขาว หรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่าสามแยกไฟแดงลัคกี้วัน ภายในเขตเทศบาล ต.ย่านตาขาว ต้องพบเห็นกับร้านขายขนมกล้วยทอดที่ใช้ชื่อว่า “กล้วยทอดลืมผัว”
โดยมีชื่อร้านแปลกแหวกแนวจากร้านปกติทั่วไป โดยร้านตั้งโต๊ะขายอยู่บริเวณริมถนน มีป้ายร้านสีเหลือง ตัดด้วยตัวหนังสือสีแดงขนาดใหญ่ติดอยู่อย่างมองเห็นได้ชัด ซึ่งมีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรทยอยกันสั่งซื้ออย่างไม่ขาดสาย
เจ้าของร้านคือนางวรรณี จิตรหลัง หรือจ๊ะย๊ะ อายุ 55 ปี ชาว ต.ย่านตาขาว กำลังขะมักเขม้น ใจจดจ่ออยู่กับการใช้มีดปอกกล้วยออกจากหวี และบรรจงตัดเป็นชิ้นๆ ลงในแป้งสีขาว ที่จัดเตรียมไว้ในหม้อสแตนเลส ก่อนจะหย่อนลงในกระทะที่น้ำมันร้อนจัด
เมื่อสุกได้ที่จึงค่อยๆตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน และบรรจุใส่ถุงกระดาษ ยื่นซื้อขายให้กับลูกค้าที่ยืนรออยู่บริเวณหน้าร้าน ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อต่างก็ไม่พลาดที่จะสอบถามถึงเหตุผลในการตั้งชื่อร้านแห่งนี้จากเจ้าของร้าน
ร้าน “กล้วยทอดลืมผัว” ของ “จ๊ะย๊ะ” นั้น ไม่ได้ขายเพียงแค่กล้วยทอด แต่มีทั้ง มันทอด เผือกทอด จำปาดะทอด ข้าวเม่าทอด ขนมงาทอด ขนมใส่ไส้ทอด ถั่วเขียวทอด
จ๊ะย๊ะ บอกว่า ก่อนหน้าจะมาขายกล้วยทอด ได้ทำอาชีพเป็นแม่ค้าขายปลาสดอยู่ในตลาดย่านตาขาว จนมาประสบกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ประกอบกับปัจจัยอื่นๆ จึงตัดสินใจเลิกขายไป และครุ่นคิดอยู่ว่าจะทำอะไรต่อดี จึงได้ตัดสินใจสั่งทำรถ จยย.สามล้อพ่วงข้าง เพื่อขายกล้วยทอดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 หรือประมาณ 6 ปีที่ผ่านมา
โดยตอนนั้นจะขายอยู่กับลูกสาว ซึ่งร้านก็เป็นรถ จยย.สามล้อพ่วงข้าง จอดขายริมไหล่ทางถนนห่างออกไปจากจุดนี้แค่เพียงประมาณ 50 เมตรเท่านั้นก่อนจะย้ายมาเปิดขายตรงนี้ โดยตอนนี้ขายอยู่เพียงแค่คนเดียว เนื่องจากลูกสาวที่ช่วยขายอยู่ในอดีตได้ไปทำธุรกิจอื่นแล้ว ซึ่งสูตรก็ถามจะคนที่รู้จัก และลองผิดลองถูกอยู่นาน
ช่วงที่ทดลองทำเพื่อนบ้านกินกล้วยทอดที่ตนทดลองทำกันแทบทุกวัน จนเพื่อนบ้านบอกว่าให้ไปขายได้แล้ว จึงขายมาตั้งแต่นั้น ส่วนเรื่องรายได้ก็ตกวันละ 2 พันกว่าบาท กล้วยประมาณวันละ 15 หวี มัน 5 กิโล ขายหมดทุกวัน ก็สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้
สำหรับสาเหตุที่ได้ตั้งชื่อร้านว่า “กล้วยทอดลืมผัว” ต้องบอกก่อนว่าตอนที่เริ่มขายแรกยังไม่ได้ตั้งชื่อ พอขายไปได้สักพักก็ขายดี จนเพื่อนข้างๆบ้านแซวว่า “ขายกล้วยทอด ขายดี ขายเพลินจนลืมผัวแล้ว” ก็เลยเอาคำแซวของบรรดาเพื่อนบ้านมาตั้งนับแต่นั้นมา แต่จริงๆตนเองเป็นโสด หย่ากับสามีมาเกือบจะ 10 ปีแล้ว หลังจากติดป้ายนี้ก็ปรากฏว่าขายดีเพิ่มขึ้น มีคนมาขอถ่ายรูปลงโซเซียล จนกลายเป็นที่ฮือฮา และเคยปรากฏเป็นข่าวมาครั้งหนึ่งแล้ว.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี