ส่องชุดทำงาน “เดือน มนพร” รมช.คมนาคม สวยล้ำค่าผ้าไหมไทย ฝีมือกลุ่มหัตถกรรมทอผ้าไหม “นาหว้าโมเดล” สืบสานพระราชปณิธาน พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  หนุนรัฐบาลส่งเสริมงานฝีมือพื้นบ้าน

กลายเป็นที่ชื่นชมอย่างมาก โดยเฉพาะชาวจังหวัดนครพนม หลัง ดร.มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม หรือชาวบ้านจะเรียกกันติดปากว่า ส.ส.เดือน ส.ส.นครพนม เขต 2 ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (รมช.คมนาคม) ถือเป็นผู้แทนตลาดล่าง หญิงแกร่งขวัญใจชาวนครพนม

รวมถึงยังเป็นที่ฮือฮาของประชาชน และแวดวงสังคมการเมือง ที่ ส.ส.เดือน มนพร สร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองอีสาน นอกจากชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้นหลายสมัย อีกทั้งเป็นนักการเมืองที่มีบทบาทโดดเด่น เป็นที่พึ่งของประชาชนมายาวนานกว่า 30 ปี โดยแจ้งเกิดครั้งแรกเป็น ส.อบจ.นครพนม จากนั้นก็ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายก อบจ.นครพนม กระทั่งได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.นครพนม ก่อนก้าวสู่สนามการเมืองระดับประเทศ รับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรติดต่อกันแล้ว 3 สมัย จนถึงตำแหน่งรัฐมนตรีหญิงคนแรกของภาคอีสาน

โดยเฉพาะได้ผุดโครงการราชรถยิ้ม ถือเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน ด้วยการเน้นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ยึดหลักบริการ เข้าถึงใกล้ชิดประชาชน ทำงานเชิงรุกแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชนเป็นหลัก และต้องทำงานด้วยความโปร่งใส ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ รวมถึงการพัฒนาคมนาคมขนส่ง การค้า การท่องเที่ยว ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ล่าสุดหลังจาก ส.ส.เดือน-มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม รับตำแหน่งเป็น รมต.ป้ายแดง ก็เริ่มทำงานทันที ไม่เพียงสร้างโครงการราชรถยิ้ม เปิดให้ประชาชนเข้าถึงหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม รับทราบปัญหาแบบใกล้ชิดเข้าถึงแล้ว ยังเป็นรัฐมนตรี ต้นแบบในการสนับสนุนส่งเสริมการสวมผ้าไทย ที่ตัดเย็บมาจากฝีมือของกลุ่มหัตถกรรมทอผ้าพื้นเมือง รวมถึงผ้าไหม ผ้าฝ้าย เพราะอยากมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพของชุมชน

โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นครพนม มีที่ตั้งของศูนย์หัตถกรรมวัดพระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า จ.นครพนม ในโครงการพระราชดำริ ในสมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2515 ได้สร้างงานสร้างรายได้จากรุ่นสู่รุ่นมาถึงปัจจุบัน และเป็นผลงานผ้าไหมไทยขึ้นชื่อ ภายใต้ผลิตภัณฑ์นาหว้าโมเดล

ทั้งนี้ ดร.มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ตนได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมกลุ่มหัตถกรรมทอผ้าพื้นเมือง อาทิ ผ้าไหมไทย ผ้าฝ้ายพื้นบ้าน รวมถึงมีความชื่นชอบชุดผ้าพื้นเมือง ที่ตัดเย็บจากผ้าฝ้าย และ ผ้าไหม ด้วยฝีมือปราณีต จึงถือโอกาสสวมชุดผ้าไทย ในการทำงานทุกวัน และสวมใส่ในชีวิตประจำวัน เป็นการสนับสนุนส่งเสริมอาชีพหัตถกรรมทอผ้าไทยพื้นบ้าน

ด้วย จ.นครพนม มีศูนย์หัตถกรรมวัดพระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า ในโครงการพระราชดำริ สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง ส่วนตัวจึงอยากมีส่วนร่วม ในการสวมชุดผ้าไทย เพื่อเชิญชวนประชาสัมพันธ์ ให้คนไทยหันมาสวมชุดผ้าไทยมากขึ้น ยิ่งเป็นผ้าไทยตัดเย็บ และออกแบบแฟชั่นร่วมสมัย ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ว่า มีความสวยงาม สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย

อาทิ ชุดที่ตนสวมใส่ เป็นผ้าไหมไทยพื้นบ้าน งานฝีมือกลุ่มหัตกรรมผ้าไหม อ.นาหว้า เป็นการตัดเย็บแบบร่วมสมัย ทอออกมาเป็นลายผ้าขาวม้า  ตัดเย็บผสมผสานกับผ้าไหม มีลวดลายสีสันสวยงาม  เรียบง่าย สบายตา แต่มีคุณค่าอย่างมาก อย่างไรก็ตามฝากเชิญชวนคนไทย หันมาสนับสนุนผ้าไทย และพร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาลในการส่งเสริมผ้าไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน ไม่เพียงใน จ.นครพนม เท่านั้น จังหวัดไหนที่มีการทอผ้าพื้นเมือง ก็จะส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ถือเป็นการกระจายรายได้แก่กลุ่มทอผ้าไทยทั่วประเทศ - 003