เหลือเชื่อ! ยายวัย 72 ปีชาวสุรินทร์นอนอยู่ในห้อง ICU หลายวันฝันเห็นพี่สาววัย 83 ปีมาบอกให้กลับบ้านไปดูวัวดูควายและลูกหลานที่อยู่ทางบ้านพี่จะไปแทนเอง สุดท้ายเป็นจริง

ที่อําเภอรัตนบุรี สุดชวนขนหัวลุกด้วยคําพูดต่อๆ กันมาจากปากชาวบ้านที่ดังกระฉ่อนไปทั่วตําบลรัตนบุรี จากปากของนางรจนา บุตรนิตย์ อายุ 72 ปี ชาวบ้านน้อยสนาม หมู่ 10 ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ที่ตนเองล้มกระป่วยทันหัน เนื่องจากป่วยติดเชื้อในกระแสเลือดด้วยฤทธิ์ยาฆ่าหญ้า แพทย์จากโรงพยาบาลรัตนบุรีต้องปั๊มหัวใจเยื้อชีวิตและได้ส่งรักษาตัวต่อที่ห้อง ICU โรงพยาบาลสุรินทร์มานานหลายวัน จนแพทย์บอกญาติให้ทําใจเพราะสารเคมีสะสมในร่างกายจนติดเชื้อในกระแสเลือดทําให้อวัยวะในร่างกายได้รับความเสียหายหนัก โอกาสรอดยาก จนญาติๆ และลูกๆ หลานๆ ต้องจัดเตรียมงานไว้รอ ก่อนจะมีปฏิหาริย์หรือบุญเก่าที่ทําไว้หรืออย่างไรไม่ทราบ 

เมื่อนางรจนา ซึ่งนอนอยู่ในห้อง ICU ในโรงพยาบาลสุรินทร์ในตัวเต็มไปด้วยสายระโยงระยางเต็มไปหมดและจิตสำนึกในฝันนั้นได้เห็นพี่สาวคือนางบัวลิน เกษรจันทร์ อายุ 83 ปีเอาไม้มาตีและดึงขานางรจนา ในเตียงผู้ป่วยหมายเลข 28 ที่นอนอยู่ในห้อง  ICU โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยในจิตสํานึกหรือในฝันพี่สาวคือนางบัวลินบอกได้นางรจนากลับบ้านได้แล้ว ให้รีบไปดูวัวควาย และลูกหลานอยู่ทางบ้าน เดี๋ยวพี่จะไปแทนเอง สุดท้ายนางรจนา รอดแต่พี่สาวมาตายแทน

ต่อมาวันนี้ (17 ต.ค.66) หลังผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ทราบเรื่องดังกล่าวจึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 10 ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ชึ่งญาติๆ และลูกๆ หลานๆ ต่างกําลังจัดงานศพของนางบัวลิน เกษรจันทร์ อายุ 83 ปี ที่ล้มป่วยและเสียชีวิตกะทันหัน หลังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์เพียง 2 คืนก็จากโลกใบนี้ไปโดยไม่มีวันคืนหวนกลับและเต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนเศร้า ชาวบ้านที่มาร่วมงานต่างจับกลุมพูดคุยกันและเข้ามาสอบถามนางรจนา ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทําไม่ฝันเป็นจริงเช่นนี้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางรจนา บุตรนิตย์ อายุ 72 ปี ชาวบ้านหมู่10 บ้านน้อยสนาม ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้ย นางรจนา เล่าว่า หลังจากตนนอนในห้อง ICU ในโรงพยาบาลสุรินทร์มาตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมหลายวันมานั้นจิตของตนได้ล่องลอยออกจากร่างและเหมือนฝันไปว่า "ตัวตายตัวแทน" คือในฝันนั้นตนเห็นพี่สาวคือนางบัวลิน เดินเอาไม้มาตีตนให้ออกจากเตียงโรงพยาบาลสุรินทร์ให้กลับบ้านซะให้ไปดูวัวควายที่เลี้ยงไว้ และไปดูลูกๆ หลานๆ ที่บ้านของตนในวันจันทร์นี้เดี๋ยวพี่จะไปแทนตนเอง แต่พอตนฟื้นคืนชีพมาและได้นอนรักษาตัวจนถึงวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2566 หมอให้ตนกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แต่พอมาถึงเช้าของวันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2566 ตนก็มาทราบข่าวว่าพี่สาวคือนางบัวลิน เกษรจันทร์ อายุ 83 ปี ได้ล้มป่วยกระทันหันเช่นกันจนแพทย์จากโรงพยาบาลรัตนบุรียื้อชีวิตปั๊มหัวใจแล้วส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ได้เพียง 2 วันพี่สาวนางบัวลิน ก็มาเสียชีวิตไป

นางรจนา ยังเล่าว่า ในจิตสํานึกที่ฝันไปนั้นพี่สาวนางบัวลิน ได้บอกให้ตนกลับบ้านไปเสียเดี๋ยวพี่จะไปแทนตนเอง ตนเห็นเมืองของผี หรือนรกใครตายไปเงินทองที่ติดตัวไปเหล่าบันดาลพวกผีทั้งหลายจะมาแย่งเอาไปหมด แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่ใส่ติดตัวไปและตนก็ได้เห็นผีชาวบ้าน ญาติพี่น้องที่ตายไปก่อนหน้านี้มาคอยรับตนและได้พาตนไปที่วัดบ้านน้อยสนาม แต่ตนไม่สามารถเดินข้ามตอต้นยางขนาดใหญ่หน้าวัดไปได้สักที่จนล่วงเลยมาถึงตี 4-5 ได้มีอดีตหลวงพ่อรูปก่อนของวัดบ้านน้อยสนามมาตีระฆัง 3 ครั้งจนดังก้องในหูของตนก่อนที่ตนจะรู้สึกตัวขึ้นมา - 003