ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปลูกพืชสมุนไพร ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของ “ยาตำรับไทย” เพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ซึ่ง ผศ.ดร.ภญ.นิศารัตน์ศิริวัฒนเมธานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงยาตำรับไทย 2 ขนาน ที่เป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ และมีใช้ในโรงพยาบาลสำหรับบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และฝุ่น PM2.5 ซึ่งกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้
ได้แก่ ยาตำรับไทย “ปราบชมพูทวีป” ประกอบด้วยสมุนไพรไทยที่มีรสเผ็ดร้อน ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลของธาตุต่างๆ ลดอาการอักเสบที่ผิวหนังและทางเดินหายใจ บรรเทาอาการภูมิแพ้ได้ใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบันที่ชื่อ “Loratadine” ที่มีสรรพคุณในการแก้แพ้ แก้หวัด ลดน้ำมูก กับ ยาตำรับไทย “ประสะเปราะใหญ่” ซึ่งประกอบไปด้วย “เปราะหอม” ครึ่งหนึ่งของตำรับ (คำว่า“ประสะ” หมายถึง “ครึ่งหนึ่ง”) ก็มีสรรพคุณใกล้เคียงกัน แต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า สามารถใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
ยาตำรับไทย ปราบชมพูทวีป นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้จากมลพิษฝุ่น PM2.5 ได้แล้ว ยังใช้บรรเทาอาการหวัด แก้ไข้ ในขณะที่ยาตำรับไทยประสะเปราะใหญ่ ใช้ได้ทั้งบรรเทาอาการภูมิแพ้จากมลพิษ PM2.5 อาการหวัด แก้ไข้ ท้องอืด ถ่ายเหลว อย่างไรก็ตาม “ข้อควรระวัง” คือ ยาตำรับไทยทั้ง 2 ขนาน “ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีไข้จากการติดเชื้อไข้เลือดออก” ซึ่งการรับประทานยาสมุนไพรดังกล่าวเพื่อลดไข้จะบดบังอาการไข้เลือดออกทำให้ยากต่อการวินิจฉัยติดตามอาการของโรคไข้เลือดออก
นอกจากนี้ การรับประทานสมุนไพรต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับได้เช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบัน จึงควรพิจารณาใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ดี การรับประทานยาสมุนไพรเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ ในต่างประเทศก็จะมียาสมุนไพรเอกซ์ไคนาเซีย(Echinacea) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและนิยมใช้ในการบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แต่สมุนไพรชนิดนี้นิยมปลูกในประเทศเขตหนาว ไทยต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ซึ่งยาสมุนไพรนำเข้าจากต่างประเทศมีกลไกราคาที่ขึ้นอยู่กับระยะทางและมูลค่าภาษีนำเข้าเป็นสำคัญ จะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค มากกว่าการพิจารณาใช้ยาสมุนไพรที่ปลูกขึ้นได้เองภายในประเทศ เพื่อการดูแลตัวเองและสนับสนุนเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน!!!
มหาวิทยาลัยมหิดล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี