วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
แนวหน้าTalk : ‘วัชระ เพชรทอง’ จาก‘รัฐสภา’ถึง‘ชั้น14รพ.ตำรวจ’ ภาพสะท้อน‘นิติรัฐ’สังคมไทย

แนวหน้าTalk : ‘วัชระ เพชรทอง’ จาก‘รัฐสภา’ถึง‘ชั้น14รพ.ตำรวจ’ ภาพสะท้อน‘นิติรัฐ’สังคมไทย

วันจันทร์ ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 07.15 น.
Tag : วัชระ เพชรทอง
  •  

“รัฐสภา (Parliament)” เป็นสถานที่กำเนิดของ “กฎหมาย” โดยกระบวนการพิจารณาในที่ประชุม หากเสียงส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบจึงได้ออกมาประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ดังนั้นรัฐสภาจึงถูกคาดหวังในฐานะองค์กรที่ต้องเป็นแบบอย่างโดยเฉพาะเรื่อง “ความโปร่งใสและเป็นธรรม” ทั้งแก่องค์กรอื่นๆ รวมถึงประชาชน “แต่จะเป็นอย่างไรหากแม้แต่ในรัฐสภายังมีปัญหาเสียเอง” ดังตัวอย่างเรื่องราวที่ วัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำมาบอกเล่าในรายการ“แนวหน้าTalk” เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา

เรื่องแรกที่ วัชระ หรือ “เดอะแจ็ค” หยิบยกมาพูดถึงคือ “การคุกคามทางเพศ” กรณีข้าราชการหญิงท่านหนึ่งสังกัดกองคลัง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถูกเลขาธิการฯ ท่านหนึ่ง ส่งข้อความคุกคามทางเพศอยู่หลายปี เพราะอยากได้ข้าราชการหญิงท่านนี้เป็นอนุภรรยา รวมถึงระบุเจาะจงให้ไปงานสัมมนาต่างจังหวัดทั้งที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ไม่มีความจำเป็นต้องร่วมเดินทางไปด้วยแต่อย่างใด


ซึ่งจากข้อความจำนวนมากที่เห็น ตนมองว่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไม่ควรทำเช่นนี้ เมื่อทราบเรื่องจึงได้ร้องเรียนไปยัง ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ในขณะนั้น มีการตั้งกรรมการสอบสวนและพบว่ากระทำผิดจริง แต่ไม่มีการลงโทษเนื่องจากเวลานั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรท่านดังกล่าวเกษียณอายุราชการไปแล้ว ขณะที่ชะตากรรมของข้าราชการหญิงท่านนี้ ท้ายที่สุดถูกกลั่นแกล้งจนอยู่ไม่ได้ต้องลาออกไป ถามว่าแบบนี้ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหน

“ในขณะที่สุภาพสตรีท่านนี้ร้องเรียนเรื่องการคุกคามทางเพศ มีข้าราชการที่ตอนนี้ต้องเรียกว่าระดับที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเป็นภรรยาของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในสภาด้วย ก็ไปรับข้าราชการคนนี้ไปเจรจาที่ร้านกาแฟหลังกระทรวงการคลัง ขอให้ถอนการร้องเรียนเลขาธิการคนนี้เรื่องคุกคามทางเพศ ถ้าถอน เรื่องข้าราชการผู้หญิงที่ถูกร้องเรียนที่มีการแต่งตั้งและปั้นเรื่องร้องเรียนก็จะยกเลิก แต่สุภาพสตรีท่านนี้มีศักดิ์ศรี ไม่ยอม” วัชระ กล่าว

วัชระกล่าวต่อไปว่า จริงๆ หากข้าราชการหญิงท่านนี้ยอมตั้งแต่ไปสัมมนาต่างจังหวัด ได้ทั้งหมดทั้งขั้นและอะไรต่ออะไร คือมีการให้ขั้นเพื่อจูงใจด้วย แต่เพราะไม่ยอมทำตามเงื่อนไขของที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในที่สุดข้าราชการหญิงท่านนี้ก็ต้องออกจากราชการ ซึ่งปัจจุบันยังต่อสู้คดีอยู่ในศาลปกครอง รวมถึงไปร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยตนเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้ และไปให้การกับ ป.ป.ช. ในฐานะพยานด้วย

โดยขณะนี้ผ่านมาราว 2 ปีแล้ว เรื่องก็ยังไม่จบ ซึ่งตนคิดว่าข้าราชการหญิงท่านนี้ต้องได้รับความเป็นธรรมเรื่องถึงจะจบ “ลองคิดดู..หัวหน้าส่วนราชการอยากได้ผู้หญิงคนนี้เป็นอนุภรรยา พอเขาไม่ยอมก็กลั่นแกล้งสารพัด พอไปร้องเรียนว่าถูกคุกคามทางเพศก็ยิ่งถูกกลั่นแกล้งหนักถึงขั้นออกจากราชการ” แถมข้าราชการยังช่วยผู้มีอำนาจ แต่คนในสภาเขามองว่าเป็นเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ คนมีอำนาจรังแกเด็กชั้นผู้น้อย เขาก็เห็นใจเพราะเป็นการละเมิดสิทธิสตรี ซึ่งตนก็นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ด้วยอีกหน่วยงานหนึ่ง

เรื่องต่อมาคือ “การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่”ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่สมัยที่ ชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ ที่มีการผลัดผ่อนอ้างปัญหาต่างๆ ทำให้การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ตนจำตัวเลขวันที่แน่นอนไม่ได้ แต่นับจนถึงปัจจุบัน เดือน พ.ย.2566 แล้วก็ประมาณ 10 ปี ก็ยังไม่เสร็จ อีกทั้งในวัสดุไม่ตรงตามสเปก เช่น หินทราเวอร์ทีน (Travertine) คือหินสีไข่ไก่ ใช้สำหรับทำฉากแนวตั้ง ในสัญญากำหนดว่าหากเป็นภายในอาคารความหนาของหินต้องไม่ต่ำกว่า 20 มม.หากเป็นภายนอกอาคารจะอยู่ที่ 25 มม.

“ผมก็ไปวัด ไม้บรรทัดอันละ 5 บาท ปรากฏว่าในอาคารได้แค่ 17 มม. มีคนกินหินแผ่นละ 3 มม. ข้างนอกตรงหรือไม่ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ คือปัญหาการใช้วัสดุไม่ตรงสเปกไม่ใช่มีเฉพาะหินทราเวอร์ทีนหินวิทิตา คือหินที่เป็นสีๆ ที่ปูรอบๆ ก็ไม่ตรงตามขนาดไม้ตะเคียนทอง ซึ่งต้องใช้จำนวนมาก ก็ปรากฏว่ามีไม้กระยาเลยถึง 700 แผ่น ตะเคียนทองต้องแผ่นยาว 3 เมตรไปวัดดูเถอะครับว่ามีไม้ยาว 3 เมตร กี่ท่อน และเมื่อปูแล้วความห่างระหว่างแผ่นต้องไม่เกิน 2 มม.ต่อแผ่นไปดูเถอะครับ ขนาดปากกาเสียบลงไปยังวางแนวตั้งได้เลย รองเท้าส้นสูงของสุภาพสตรี ตกลงไปก็จะหกล้มทันที” วัชระ ระบุ

สำหรับอาคารรัฐสภาแห่งนี้มีมูลค่า 12,280 ล้านบาท เฉพาะตัวอาคารไม่นับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ซึ่งเดิมคือ 3 พันล้านบาท ต่อมาในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัวเลขเป็น 8 พันกว่าล้านบาท เช่น ไมโครโฟนตัวละ 1.2 แสนบาท ซึ่งตนก็ไปยื่นคัดค้านจนสำเร็จ ซึ่งแม้ขณะนั้นนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นหัวหน้า คสช. ด้วย แต่ตนก็กล้าคัดค้าน โดยการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้ ตนทำร่วมกับ วิลาศ จันทร์พิทักษ์ ซึ่งก็เป็นอดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ เช่นกัน

ปัจจุบันเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. รวมถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รวมถึงมีคดีอยู่ในศาลซึ่งผู้รับเหมาก่อสร้างฟ้องตน 2 คดี แต่สุดท้ายศาลก็ยกฟ้องทั้ง 2 คดี เช่นเดียวกับที่ วิลาศ ถูกฟ้องถึง 4 คดี ก็ยกฟ้องทั้งหมด แน่นอนว่าผู้ที่คิดว่าตนเองเสียหายก็มีสิทธิ์ฟ้องได้ แต่การที่ตนเป็นนักกฎหมาย ตนไม่ก้มหัวให้กับความอยุติธรรม จะฟ้องคดีไหนตนก็ไม่เคยกลัวและพร้อมต่อสู้ และตนเชื่อว่าศาลทุกศาลจะให้ความเป็นธรรม

ในงบประมาณก่อสร้างราว 1.2 หมื่นล้านบาท วัชระระบุว่า มีการจ้างเหมาช่วงประมาณ 3 พันล้านบาท และมีคณะกรรมการตรวจการจ้างซึ่งเป็นข้าราชการทั้งชุด ตนมีคำถามว่า “คณะกรรมการตรวจการจ้างได้ตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างว่าเป็นไปตามสเปกหรือไม่?” โดยหากตนชนะคดี บริษัทต่างๆ ที่เข้ามารับงานก่อสร้างก็ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดในสัญญา ส่วนการลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจะเป็นอำนาจของ ป.ป.ช.

โดยตนได้ยื่นเรื่องไปถึง วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯคนปัจจุบัน และยื่นไปกี่เรื่องท่านก็ตั้งกรรมการตรวจสอบทุกเรื่องไม่มีเก็บไว้ คู่ขนานไปกับการตรวจสอบของ ป.ป.ช. และหากสุดท้าย ป.ป.ช. ชี้มูล เจ้าหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย เช่น ในสัญญาระบุให้ใช้ไม้ตะเคียนทองและเป็นไม้สัก แต่หากไม่ได้ตามนั้น มีการนำไม้กระยาเลยแทรกเข้ามาถึง 7,500 แผ่น คนอนุมัติงวดงานก็ต้องรับผิดชอบ

หรือห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) มี 113 ห้อง ฝั่ง สส. กั้นเพียงชั้นเดียว ขณะที่ฝั่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.)จะกั้น 2 ชั้น ซึ่งเป็นการไม่ทำตามสเปก แต่ผู้มีอำนาจภายในสภาฯ กลับอนุมัติงาน แต่เรื่องนี้ไม่ถึงขั้นประธานสภาฯ เพราะผู้รับผิดชอบสัญญาคือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ว่าจ้าง โดยมีบริษัทเอกชนเป็นผู้ว่าจ้าง แต่ต่อมาพบการรับเหมาช่วง มีบริษัทที่ปรึกษา บริษัทควบคุมงาน ก็ต้องถามว่าบริษัทที่ปรึกษาและบริษัทควบคุมงาน ได้ตรวจควบคุมการก่อสร้างให้ตรงตามแบบหรือไม่

“ผมเห็นว่าเมื่อเราสร้างอาคารรัฐสภา มันเป็นหน้าตาของประเทศ มันก็ต้องมีมาตรฐาน ไม่ใช่ฝนตกทีไรรั่วทุกที แม้แต่ฤดูฝนที่ผ่านมา ถ้าไปที่ชั้น 8 จะเป็นปล่องสี่เหลี่ยมแนวตั้ง 2 ปล่องอยู่ด้านขวา และด้านซ้ายอีก 2 ปล่อง ปล่องสี่เหลี่ยมทั้ง 4 เวลาฝนตกทีไรน้ำจะรั่วลงมาเหมือนน้ำตกทุกครั้ง แล้วจะเป็นภาระกับแม่บ้านที่จะต้องเอาไม้ไปดันน้ำ-ซับน้ำ และมีน้ำตกประจำที่ชั้น 4 ตรงระเบียงที่นั่งพักของข้าราชการ ระหว่างสำนักกรรมาธิการ 1-3 เปิดไปดูจะมีถัง 20 บาทสีดำรองรับน้ำอยู่ตลอดเวลา

อาคารหมื่นล้านแต่ใช้ถัง 20 บาทรองน้ำ ก็ถือว่าประหยัดคุ้มค่า แต่ปัญหาน้ำรั่วมันไม่ได้หมดไป ถามว่าทำไมท่านไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำรั่วได้เชียวหรือ? เมื่อสร้างอาคารเป็นหมื่นล้านทำไมบกพร่องถึงขนาดนี้ แล้วคณะกรรมการตรวจการจ้างได้ตรวจสอบแล้วหรือยัง? และ ณ วันนี้ (เดือน พ.ย. 2566) ปีที่ 10 ของการก่อสร้างอาคารรัฐสภา ผมยืนยันว่าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นั้นยังไม่แล้วเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ตามสัญญาจ้างทุกประการ” วัชระ กล่าว

จากรัฐสภา “เดอะแจ็ค-วัชระ” พาออกไปมองเรื่องใหญ่ๆ ภายนอกกันบ้าง เช่น กรณี “นักโทษที่ชั้น 14” เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศเดินทางกลับประเทศไทยมารับโทษในคดีทุจริตที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว โดยเบื้องต้น อดีตนายกฯ ทักษิณ จะต้องถูกจำคุกรวม 8 ปี แต่ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ ลดเหลือจำคุก 1 ปี แต่เมื่อกลับมาในช่วงเช้าของวันที่ 22 ส.ค. 2566 เอาเข้าจริงก็แทบไม่ได้อยู่ในเรือนจำ เพราะถูกส่งตัวไปอยู่ห้องพักชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ตั้งแต่คืนแรก

วัชระ ให้ความเห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า “เป็นภาพสะท้อนของประเทศไทย” หมายถึงประเทศไทยมีลักษณะแบบนี้ “คนทั่วโลกที่ยึดหลักนิติรัฐ-นิติธรรม จะมองเห็นว่าประเทศไทยมีข้อยกเว้นได้” ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยมีนักธุรกิจจากแดนมังกรประเภท “จีนเทา” รายหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “ถ้ามีเงินจะซื้ออะไรก็ได้ในประเทศนี้” ขณะที่ตนก็มีโอกาสได้พูดคุยกับประชาชนในหลายจังหวัด ส่วนใหญ่เท่าที่ฟังดูประชาชนก็ยังไม่เชื่อว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ และด้วยข้อสงสัยนี้ ตนจึงไปยื่นเรื่องต่อ กมธ.ตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบว่าอยู่จริงที่นั่นหรือไม่

และเรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ ป.ป.ช. ควรไต่สวนในอนาคต เพราะข้าราชการที่ทำตามผู้มีอำนาจโดยไม่สนใจกฎระเบียบก็ต้องได้รับผลกรรม รวมถึง วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาชี้แจง เพราะมีข่าวว่าวันแรกที่ทักษิณ กลับมาประเทศไทย ได้เดินทางไปที่เรือนจำด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เรือนจำได้ชี้แจงว่า มีการถ่ายภาพและทำประวัติของทักษิณไว้แล้ว ซึ่งก็เป็นกรณีประวัติศาสตร์เพราะเป็นบุคคลหนึ่งที่คนทั้งโลกจับจ้อง เพียงแต่ใครจะรู้จักในแง่มุมไหนเท่านั้น

นอกจากอดีตนายกฯ ทักษิณ แล้ว ยังมีกรณี “กำนันนก”ก่อเหตุร่วมกันยิงตำรวจเสียชีวิตในงานเลี้ยง ปัจจุบันถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดี รวมถึง “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นักโทษที่หลบหนีระหว่างถูกส่งตัวจากเรือนจำไปรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่ง วัชระ มองว่า “เรื่องราวทำนองนี้เป็นการสะท้อนอัตลักษณ์ของข้าราชการไทย” หมายถึง “ข้าราชการนอกจากจะได้รับเงินเดือนจากรัฐ ยังมีรายได้ทางอื่นจากส่วยและผู้มีอิทธิพล” และตนบอกได้ว่ามีแทบทุกกระทรวง ทบวง กรม โดยจะมีผู้ที่ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายมาจ่ายให้ หรือใช้เงินช่วยซื้อตำแหน่งให้เจ้าหน้าที่ด้วย

ในตอนท้าย วัชระกล่าวถึงบทบาทของตนในฐานะนักการเมือง ว่า ใจของตนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์เพียงพรรคเดียว และแม้พรรคจะมีปัญหาก็เป็นเรื่องของภาวะการณ์ของสังคมช่วงนั้นๆ แต่เมื่อตนยึดมั่นในแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์และเดินไปในแนวทางนี้ ก็คงจะเป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ไม่มากก็น้อย แม้ไม่ได้เป็น สส. ก็ยังเป็นผู้แทนนอกสภา การไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎร ตนยอมรับมติของประชาชน แต่ตราบที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะทำหน้าที่ที่พึงกระทำ คือไม่ได้ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย และทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชน เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน

“ถ้าท่านเกิดปัญหาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ท่านควรติดต่อถึงผู้แทนราษฎรของท่านก่อน ยกตัวอย่างผมไปจังหวัดหนึ่งใกล้ๆ กรุงเทพฯ เขาบอกอยากให้ผมมาช่วยเรื่องนี้ ผมก็ยกมือไหว้ท่วมหัวแล้วบอกว่า พี่!..บอก สส.ในเขตของเขาก่อน ถ้า สส. ในเขตของเขาไม่ทำแล้วค่อยมาบอกผม คือเมื่อท่านมี สส. ที่อาสาตัวไปรับใช้และกินเงินเดือนภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ นั่งเครื่องบินฟรีทั่วประเทศ กาแฟฟรีทุกมื้อ ข้าวก็ฟรีทุกวัน ฉะนั้นใช้ผู้แทนของท่านก่อน ถ้าท่านใช้ผู้แทนของท่านไม่ได้แล้วค่อยมาบอกผม” วัชระกล่าวทิ้งท้าย

หมายเหตุ : สามารถติดตามรายการ “แนวหน้า Talk” ดำเนินรายการโดย บุญยอด สุขถิ่นไทย ได้ผ่านทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงหัวค่ำโดยประมาณ!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

อะไรก็ของเขา? 'วันชัย'จวกสังคมไร้ความเมตตา 'ทักษิณ'วัย 75 ป่วย เอากันถึงขั้นวิกฤตเลยหรือ

จบที่ศาลดีที่สุด! 'หนุ่ม กรรชัย'ตอบชัดปมฟ้อง'นักร้องสาว' หากอยากเคลียร์ก็ยินดี

'ณัฐวุฒิ'บ่นยับ! บอกเสียดายโอกาส! 'ทักษิณ'พลาดบินกาตาร์พบ 'โดนัลด์ ทรัมป์'

บุกทลายปาร์ตี้สระน้ำ ชาวอินเดียกว่า 200 คน สร้างความเดือดร้อนชาวบ้านในพื้นที่

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved