ญาติสาวถูกแฟนหนุ่มซ้อมเสียชีวิต ร้องตำรวจนนทบุรีติดตามคดี
จากกรณีเพจ “สายไหมต้องรอด” โพสต์ภาพและข้อความกรณีน้องสาว ร้องเรียนว่าพี่สาวถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567 ทีมงานสายไหมต้องรอด พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต เดินทางเข้ารับศพที่ รพ.พระนั่งเกล้า เพื่อขอรับเอกสารการเสียชีวิต ก่อนนำไปรับร่างที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระพิเรนทร์ สำหรับทางด้านคดีทางเพจสายไหมต้องรอด ได้ประสาน พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และ พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง เพื่อขอให้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ขณะที่บรรยากาศที่ห้องพักศพ รพ.พระนั่งเกล้า ถนนนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี นายพนธกร อายุ 26 ปี น้องชายซึ่งเป็น LGBTQ เดินทางมาพร้อม น.ส.อินทร์ชญาร์ สีสังข์ ทีมงานสายไหมต้องรอด เพื่อขอรับเอกสารการเสียชีวิต ของ น.ส.เพชรรัตน์ อายุ 32 ปี จากเจ้าหน้าที่พ้องพักศพ รพ.พระนั่งเกล้า จากนั้นได้เดินทางไป สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อรับเอกสารประจำวันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อไปรับร่างผู้เสียชีวิตที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปบำเพ็ญกุศล
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 16.58 น.วันที่ 31 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง รับแจ้งความจาก น.ส.เข็มพร อายุ 52 ปี ชาวอุบลราชธานี ว่าเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 17.54 น. ได้มีนายธนวัฒน์ หรือโบ้ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.เพ็ชรรัตน์ บุตรสาวของตน ได้โทรมาหาและแจ้งว่าบุตรสาวของตนมีอาการชัก ตนจึงให้พาไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นตนได้ทราบจากแพทย์ รพ.พระนั่งเกล้า ว่า บุตรสาวของตนมีลักษณะคล้ายกับถูกทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลร่องรอยซี่โครงหัก เลือดออกในสมอง และ ขาดอากาศหายใจ ขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว จึงเชื่อว่า น.ส.เพ็ชรรัตน์ ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำร้ายร่างกายบุตรสาวของตน จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่นายพนธกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 ตนได้รับโทรศัพท์จากนายโบ้ แฟนของพี่สาว ถามว่าพี่สาวมีโรคประจำตัวไหม ตนจึงตอบไปว่าไม่มี ซึ่งเขาแจ้งว่าพี่สาวตนไม่รู้เป็นอะไรชักจนตัวเขียว ตนจึงบอกให้รีบพาส่งโรงพยาบาล เขาก็ตัดสายโทรศัพท์ไป เมื่อถึงโรงพยาบาลเขาได้โทรกลับมาอีก ตนได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่แจ้งว่าคนไข้เป็นอะไรมาทำไมไม่มีชีพจร พอตนได้ยินแบบนั้นก็ใจสั่น และแจ้งไปว่าทำอะไรก็ได้ให้พี่ตนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทางเจ้าหน้าที่จึงนำพี่สาวตนไปปั้มหัวใจ จากนั้นตนกับแม่จึงนั่งรถไปที่ รพ.พระนั่งเกล้า
นายพนธกร กล่าวต่อว่า เมื่อตนกับแม่ถึงโรงพยาบาลพบว่าตามร่างกายพี่สาวมีร่องรอยเขียวช้ำ นอนนิ่ง ตนคิดได้เลยว่าตนจะไม่ได้พี่สาวกลับมาแล้ว แพทย์ได้แจ้งว่าพี่สาวถูกทำร้ายร่างกายมา ซี่โครงหักหลายซี่ มีเลือดออกในสมอง ขาดอากาศหายใจตั้งแต่ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ตอนที่อยู่โรงพยาบาลอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจและยากระตุ้นหัวใจ จนในที่สุดเมื่อวาน (31 ธ.ค.66) พี่สาวตนก็เสียชีวิต ส่วนตัวนายโบ้ หายไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น
ทั้งนี้ หลังจากแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่บ้านฝ่ายชาย แต่ไม่พบตัวนายโบ้แล้ว ก่อนหน้านี้ ตนเคยถามนายโบ้ซึ่งเขายอมรับว่าตบพี่สาวตนไป 2 ที ตนไม่เชื่อว่าตบ 2 ทีจะทำให้พี่สาวตนขาดอากาศหายใจ เขายังหาว่าพี่สาวตนแกล้งสลบไป ทางแพทย์ก็แจ้งว่าพี่สาวตนมีร่องรอยถูกทุบตีมาก่อน ซึ่งเป็นรอยเก่า พี่สาวตนไม่เคยบอกว่าถูกทำร้ายมาก่อน
นายพนธกร กล่าวว่า ครอบครัวเจอกับพี่สาวครั้งสุดท้ายวันเกิดพี่สาว 19 ก.ย.66 จากที่ตนสอบถามนายโบ้ เขาบอกว่าหึงหวงพี่สาวตน เหมือนพี่สาวตนคุยโทรศัพท์กับคนอื่น เคยมีเหตุทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนมีเลิกรากันไป และเพิ่งกลับมาคบกันช่วงหลังวันเกิด พี่สาวคบกับนายโบ้มาได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น นายโบ้ดูเหมือนเป็นคนดี ตนเห็นว่าเขามาดูแลพี่สาวตน แต่สุดท้ายเขามาพรากหัวใจตนไป เบื้องต้นตอนนี้แม่ของนายโบ้ติดต่อมาหาแม่ตน แจ้งว่าติดต่อลูกชายไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้นายโบ้ทักมาหาตนว่าอยากบวชให้พี่สาว ตนอยากให้เขาออกมารับผิดชอบสิ่งที่เขาทำลงไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน และผลการชันสูตรจากแพทย์ หากพบว่าถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จะทำการขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี