วันอาทิตย์ ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
รายงานพิเศษ : ถอดบทเรียน ‘ญี่ปุ่น’  ‘แผ่นดินไหว’ ไทยอย่าประมาท

รายงานพิเศษ : ถอดบทเรียน ‘ญี่ปุ่น’ ‘แผ่นดินไหว’ ไทยอย่าประมาท

วันอาทิตย์ ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2567, 07.20 น.
Tag : รายงานพิเศษ
  •  

นักวิจัยศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติถอดบทเรียนแผ่นดินไหวญี่ปุ่น เตือนประเทศไทยต้องเตรียมรับมือ ห่วงชายฝั่งทะเลอันดามันยังเสี่ยงต่อการเกิดสึนามิซ้ำรอยปี 2547 ทั้งระบบเตือนภัยสึนามิและแผนที่หลบภัยสึนามิ รวมถึงมาตรการผลกระทบต่อการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่ประชาชนควรเรียนรู้เทคนิคการหลบภัยทั้งแผ่นดินไหวและสึนามิ

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และนักวิจัยศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ เผยถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.6 ที่จังหวัดอิชิกาวะ บนเกาะฮอนชู ทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ว่าเป็นธรณีพิบัติที่รุนแรงมากและอยู่ในระดับตื้นมาก เพียง 10 กิโลเมตร ทำให้เกิดความเสียหายกับอาคารบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิความสูง 1.2 เมตร ซัดเข้าหาชายฝั่งเมืองวาจิมะ จังหวัดอิชิกาวะ ซึ่งผลของแผ่นดินไหวดังกล่าวจะยังคงเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายวัน อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะห่างจากประเทศไทย 4,000-5,000 กิโลเมตร จึงไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย


ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2554 ได้เคยเกิดแผ่นดินไหวโตโฮคุขนาด 9.0-9.1 นอกชายฝั่งด้านตะวันออกของคาบสมุทรโอชิกะในเขตโตโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดคลื่นสึนามิมีความสูงถึง 40 เมตร พัดเข้าชายฝั่งจังหวัดเซ็นได เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตราว 20,000 คน และสูญหายอีกประมาณ 2,500 คน มีความรุนแรงมากกว่าแผ่นดินไหวที่อิชิกาวะในครั้งนี้เป็น 10 เท่า แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด

สำหรับสึนามิที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ยังถือได้ว่ามีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากจุดกำเนิดคลื่นแผ่นดินไหวในทะเลหรือวงแหวนไฟอยู่ห่างไกลค่อนข้างมาก แผ่นดินไหวและสึนามิจากประเทศญี่ปุ่นจึงจะไม่กระทบต่อประเทศไทย อย่างไรก็ตามได้มีการศึกษาแบบจำลองการเกิดสึนามิในอ่าวไทยกรณีเกิดแผ่นดินไหวที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ในแนววงแหวนไฟเช่นกันแต่อยู่ใกล้ประเทศไทยมากกว่า โดยสมมุติว่าหากเกิดแผ่นดินไหวระดับ 9 อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิมาถึงชายฝั่งทะเลไทยได้ แต่จะใช้เวลาเดินทางนาน 10-20 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงชายฝั่ง และด้วยสภาพทางกายภาพที่ค่อนข้างตื้นของชายฝั่ง ทำให้พลังงานจากคลื่นสึนามิสลายตัวไปส่วนใหญ่ ความสูงคลื่นสึนามิไม่น่าจะเกิน 20-30 เซนติเมตร จึงอาจกล่าวได้ว่าชายฝั่งทะเลอ่าวไทยค่อนข้างจะมีความเสี่ยงต่อสึนามิในระดับต่ำ และไม่น่าวิตกกังวล

อย่างไรก็ตาม ชายฝั่งด้านตะวันตกของไทยหรือชายฝั่งทะเลอันดามันยังคงมีความเสี่ยงต่อสึนามิอยู่ เนื่องจากแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกอยู่ห่างไปเพียงประมาณ 800-1,200 กิโลเมตร ซึ่งใกล้กว่าแนวรอยต่อทางฝั่งตะวันออกมาก แนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลอันดามัน คือแนวมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกอินโด-ออสเตรเลียกับแผ่นยูเรเซีย ดังที่ได้เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.1-9.3 ที่นอกชายฝั่งตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือมาแล้วเมื่อปี 2547 ทำให้เกิดคลื่นสึนามิความสูงถึง 11 เมตร ซัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายถึงเกือบ 9,000 คน ดังนั้น ความเสี่ยงต่อสึนามิในฝั่งทะเลอันดามันจึงเป็นเรื่องที่จะประมาทไม่ได้ การเตรียมความพร้อมรับมือเท่านั้นที่จะลดความเสี่ยงและความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ศ.ดร.อมร กล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการลดผลกระทบความเสี่ยงจากสึนามิ ประกอบด้วย 1) ระบบเตือนภัยสึนามิและแผนที่หลบภัยสึนามิ ปัจจุบันได้ติดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิและแผนที่หลบภัยสึนามิในชายฝั่งทะเลอันดามันแล้ว แต่ควรจะซักซ้อมเหตุการณ์เป็นระยะ และตรวจสอบสภาพให้ใช้งานได้ดีตลอดเวลา 2) มาตรการด้านอาคารและที่หลบภัยแนวดิ่ง เช่น การก่อสร้างอาคารหลบภัยสึนามิทั้งรูปแบบถาวรและแบบชั่วคราว หรือการปรับปรุงอาคารเดิมในพื้นที่ให้ต้านทานแรงสึนามิได้ 3)มาตรการบรรเทาผลกระทบหลังเกิดสึนามิ ซึ่งประเทศไทยไม่ควรประมาทภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเกิดเหตุแผ่นดินไหวหลายครั้งทั้งในและนอกประเทศที่ทำให้ประชาชนรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ชัดเจน

ปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีแจ้งเตือนแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ แต่สึนามิสามารถแจ้งเตือนภัยได้ โดยประเทศไทยสามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาเพียงพอที่จะหลบภัย ทั้งนี้ระบบแจ้งเตือนภัยต้องทำงานตามเกณฑ์ที่กำหนด และต้องซักซ้อมเพื่อมิให้เกิดโกลาหล อีกทั้งแผนที่เสี่ยงภัยที่แสดงเส้นทางหลบภัยจะต้องครอบคลุมพื้นที่และเข้าใจได้ง่าย เส้นทางหลบภัยควรอพยพประชาชนไปสู่ที่สูงตามธรรมชาติ หากเป็นพื้นที่ราบที่ไม่มีที่สูงตามธรรมชาติควรจัดให้มีอาคารหลบภัยในบริเวณนั้น โดยการก่อสร้างอาคารหลบภัยทางดิ่งทั้งแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร หรือการปรับปรุงอาคารหลายชั้นที่มีอยู่เดิมให้แข็งแรงต้านสึนามิได้ ขณะที่ประชาชนควรเรียนรู้เทคนิคการหลบภัยทั้งแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงการศึกษาแผนที่หลบภัยสึนามิ เพื่อจะได้ไม่ตระหนกและรู้เส้นทางหลบภัยเมื่อถึงคราวเกิดภัยพิบัติ

ด้าน รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เผยว่า นับตั้งแต่แผ่นดินไหวที่เชียงรายเมื่อปี 2557 แม้จะไม่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอีกในประเทศไทยโดยตรง เพียงแต่ได้รับแรงสั่นสะเทือนจากประเทศเพื่อนบ้านหลายครั้ง ดังนั้น นักวิจัยควรจะถอดบทเรียนว่าจากวันนั้นถึงวันนี้เราเรียนรู้อะไร และเตรียมการอะไรเพิ่มเติมบ้าง โดยเฉพาะในมุมความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมการจัดการ และการเตรียมคนทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมมากขึ้นสำหรับการรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหว รวมถึงสึนามิที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำในอนาคต


SCOOP@NAEWNA.COM
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รายงานพิเศษ : ‘มันสำปะหลัง’ รุกตะวันออกกลาง โอกาสส่งออก ก้าวแรกสู่อุตฯใหม่ รายงานพิเศษ : ‘มันสำปะหลัง’ รุกตะวันออกกลาง โอกาสส่งออก ก้าวแรกสู่อุตฯใหม่
  • รายงานพิเศษ : สสส.สานพลังเครือข่าย อปท. ปกป้องพื้นที่ภาคใต้ไร้บุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า รายงานพิเศษ : สสส.สานพลังเครือข่าย อปท. ปกป้องพื้นที่ภาคใต้ไร้บุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า
  • รายงานพิเศษ : ครบรอบ 62 ปี วว. สร้างคุณค่านวัตกรรม ชู 4 กลยุทธ์ ‘S – I – E – N’ พัฒนาเศรษฐกิจ รายงานพิเศษ : ครบรอบ 62 ปี วว. สร้างคุณค่านวัตกรรม ชู 4 กลยุทธ์ ‘S – I – E – N’ พัฒนาเศรษฐกิจ
  • รายงานพิเศษ : Learn to Earn เสริมพลังคุณครู เปิดมุมมองส่งต่ออนาคตเด็กไทย รายงานพิเศษ : Learn to Earn เสริมพลังคุณครู เปิดมุมมองส่งต่ออนาคตเด็กไทย
  • รายงานพิเศษ : ประเทศไทยยังมีหวัง...พลังเงียบจะกลับมา รายงานพิเศษ : ประเทศไทยยังมีหวัง...พลังเงียบจะกลับมา
  • รายงานพิเศษ : ‘รพ.บางปะหัน’วางแนวทาง จัดแพ็คเกจบริการครอบคลุม รายงานพิเศษ : ‘รพ.บางปะหัน’วางแนวทาง จัดแพ็คเกจบริการครอบคลุม
  •  

Breaking News

ฮูย่าจบแล้ว! 'มนุษย์กบ' รุ่นที่58 จบเพียง25นายจาก68นาย พร้อมปกป้องประเทศชาติ

นักเรียนซ้อมวิ่ง! นายอำเภอบ้านกรวดเช็กหลุมหลบภัย รับมือเหตุปะทะ

'เจ้าเงาะป่า'ทำถึง! สีสันขบวนแห่งานบุญบั้งไฟ 'อบต.ตาโกน' ชาวบ้านตาลุกวาวแห่ส่องเลขธูป

ชาวบ้านเชื่อปอบเฮี้ยนไม่เลิก! สิงเด็กสาวหลายราย หวัง'หมอปลา'มาช่วยพิสูจน์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved