ผ่านพ้นไปแล้วกับ “งานประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพระดับชาติครั้งที่ 2” ช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่ง “สุขภาพจิต” เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกหยิบยกมาพูดในงานนี้ โดย นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ไทยมีประชากร 10 ล้านคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 3 ล้านคน ที่ได้รับการรักษาในระบบสาธารณสุข โดยยังมีอีกจำนวนมากที่ตกหล่นและไม่เข้าถึงการรักษา
“จากข้อมูล Mental Health Check-in ของกรมสุขภาพจิต พบสถานการณ์สุขภาพจิตคนไทยทุกช่วงอายุ ระหว่างปี 2563-2567 มีความเครียดสูง 8.04% มีภาวะเสี่ยง
ซึมเศร้า 9.47% และเสี่ยงฆ่าตัวตาย 5.39%เฉพาะเยาวชนไทยอายุต่ำกว่า 20 ปีมีความเครียดสูง 24.83% มีภาวะเสี่ยงซึมเศร้า 29.51% และเสี่ยงฆ่าตัวตายสูงถึง20.35% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าวัยทั่วไป สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความเครียดความเหนื่อยล้า การโดนล่วงละเมิดทางเพศบนออนไลน์ ขณะที่จิตแพทย์เด็กมีจำนวนไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย” โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าว
ขณะที่ ศ.ดร.นพ.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล ประธานคณะกรรมการเครือข่ายมหาวิทยาลัยไทยเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ (TUN-HPN) ประจำปี 2565และรองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า ประเทศไทยมีนักศึกษาประมาณ 1.7 ล้านคน ซึ่งจากผลสำรวจประเด็นสุขภาพจิตของนักศึกษา 9,050 คน ภายใต้โครงการสำรวจพฤติกรรมสุขภาพของนิสิต-นักศึกษา ในมหาวิทยาลัย ปี 2565 พบนิสิต-นักศึกษาจำนวนมากมีปัญหาสุขภาพจิต
อาทิ พบนักศึกษาที่มีความเครียดบ่อยครั้งถึงตลอดเวลา 40% มีความรู้สึกเศร้า 30% เคยทำร้ายตัวเอง 12% เคยคิดฆ่าตัวตาย 4% และถูกวินิจฉัยว่ามีอาการจิตเวช 4.3% อีกทั้งระหว่างปี 2560-2564 ยังพบนักศึกษาฆ่าตัวตายมากถึง 14 คน โดยพบมากที่สุดในปี 2564 ถึง 7 ราย คิดเป็น 50% ของจำนวนนักศึกษาฆ่าตัวตายทั้งหมด และคาดว่ายังมีตัวเลขที่ไม่ถูกเปิดเผย
“เครือข่าย TUN-HPN จึงต้องมีแนวทางมีแนวทางดูแล และระบบช่วยเหลือนักศึกษาโดยทำงานร่วมกับเครือข่ายสถานบริการสาธารณสุข 4 ด้าน ได้แก่1.ป้องกันและการส่งเสริมปัญหาสุขภาพจิต2.ดูแลช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยงและมีปัญหา พร้อมส่งต่อให้หน่วยงานเครือข่าย 3.สร้างเครือข่าย ผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งไร้รอยต่อ 4.สร้างความต่อเนื่องและยั่งยืน ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานช่วยเหลือนิสิต มีการประเมินผลและติดตามอย่างต่อเนื่อง”ศ.ดร.นพ.นรินทร์ กล่าว
ด้าน ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกประสบปัญหาสุขภาพจิต และจิตเวช มีประชากรโลกมีปัญหาจิตเวชมากถึง1 ใน 4 หรือ 450 ล้านคน ส่งผลกระทบต่อความสามารถการใช้ชีวิต ซึ่ง สสส. มียุทธศาสตร์สร้างเสริมสุขภาพจิต (Mental Health Promotion) ควบคู่ไปกับการสร้างเสริมสุขภาพทางกาย
“สสส. เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาสุขภาพจิตรวมถึงปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ ของนักศึกษา อาจารย์ บุคลากรมหาวิทยาลัย รวมถึงชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด จึงสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่าย ASEANUniversity Network หรือ AUN-HPN และ เครือข่ายมหาวิทยาลัยไทยเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ TUN-HPN ในการขยายเครือข่ายมหาวิทยาลัยสร้างสุขภาพทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน สนับสนุนการทำวิจัยร่วมในประเด็นสร้างเสริมสุขภาพ รวมถึงเวทีพัฒนาศักยภาพและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์” ณัฐพันธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ การประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพฯ ในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาแนวทาง กระบวนการ และนวัตกรรม ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงปัญหาสุขภาพด้านอื่นของนิสิต นักศึกษา และบุคลากรในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพลดการสูญเสียชีวิตและโอกาสทางสังคมต่อไป!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี