‘อดีตรุ่นพี่จุฬาฯ’ท้วงติง ‘สำนึกบุญคุณ’ไม่เกี่ยวทัศนะคติการเมือง

3 เมษายน 2567 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “พระคุณของแหล่งเรียนมาจุฬาลงกรณ์” ระบุว่า...

พระคุณของแหล่งเรียนมา จุฬาลงกรณ์

เนื้อเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ท่อนนี้ที่พวกเราชาวจุฬา

ไม่รู้ลืมบูชา

ในหลวง ร.5 ทรงมีพระราชประสงค์ว่า " เจ้านายราชตระกูล ตั้งแต่ลูกฉันเป็นต้นไป ตลอดจนราษฏรที่ต่ำที่สุด จะได้มีโอกาสเล่าเรียนเสมอกัน ไม่ว่าเจ้า ว่า

ขุนนาง ว่าไพร่. เพราะฉะนั้นจึงขอบอกได้ว่า การเล่าเรียนในบ้านเมืองเรานี้ จะเป็นข้อสำคัญที่หนึ่ง ซึ่งฉันอุตส่าห์จัดขึ้นให้เจริญจนได้"

การก่อตั้งจุฬาลงกรณ์ในสมัยนั้น. ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรค. ขุนนางผู้ใหญ่ เจ้านายบางคนก็ไม่เห็นด้วย เพราะจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ' การตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ได้นั้น เสนาบดีกระทรวงธรรมการจะพารัฐบาลเข้าปิ้งทางการเงิน ขุนนาง

บางคนถึงขนาดประกาศไม่เผาผีกัน

ในหลวง ร.5 ทรงนำความเจริญมาสู่สยาม พัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด. สำคัญคือการพัฒนาการศึกษา. นอกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว ยังทรงตั้งโรงเรียนทหารที่ต่อมาเป็นโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า. ทรงก่อตั้งกิจการไปรษณีย์โทรเลข

การรถไฟ พัฒนาถนนและทรงสร้างสะพานทุกปีเนื่องในวันเฉลิม ดังนั้นทุกสะพานจะมีชื่อนำหน้าว่า ' เฉลิม' อาทิ สะพานเฉลิมโลก. สะพานเฉลิมหล้า สะพานเฉลิมเผ่า หากไม่ใช่พระอัจฉริยภาพของในหลวง ร.5 ที่นำพาสยามหลุดพ้นจากการล่าเมืองขึ้นของตะวันตก สยามคงเป็นขี้ข้า ไม่สามารถเชิดหน้าเป็นประเทศเอกราชหนึ่งเดียวในภูมิภาคนี้ พระมหากรุณาธิคุณมากล้นเช่นนี้ เราคนรุ่นหลังสมควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า พระมหากษัตริย์ทรงมีพระกรุณาธิคุณยิ่งใหญ่เพียงใด เราชาวจุฬาจึงควรแก่การเทิดทูนบูชา. และกระทำอย่างสมควรยิ่งต่อสัญลักษณ์ของชาวจุฬา การอัญเชิญพระเกี้ยวที่ผ่านมาจึงเป็นการ

กระทำด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยความเทิดทูน จะด้วยขบวนเสลียงแห่ หรือการอัญเชิญบนรถที่ประดับด้วยบุปผาชาติสวยงาม ไม่สุกเอาเผากินไม่ทำอย่างลวกๆ แบบขอไปที

การอัญเชิญพระเกี้ยวจึงไม่ใช่เรื่องทางการเมือง จะไม่มีคำว่า การกดขี่ การกดทับ ความเหลี่ยมล้ำ ความเท่าเทียมกัน ไม่มีเรื่องสิทธิหรือเสรีภาพ แต่เป็นการอัญเชิญสัญลักษณ์แทนพระองค์ที่เป็นเครื่องหมายมหาวิทยาลัย ที่ไม่ได้ข้อบังคับให้การแข่งขันฟุตบอลต้องมีการอัญเชิญพระเกี้ยว ยิ่งเป็นฟุตบอลกระชับสัมพันธ์ไม่ใช่ฟุตบอลประเพณี ไม่มีการอัญเชิญพระเกี้ยวก็ไม่มีใครว่า แต่เมื่อจะอัญเชิญ ต้องทำให้สมเกียรติ ไม่ด้อยค่าหลู่เกียรติพระเกี้ยว  เรื่องนี้ไม่น่าเกินความสามารถของนิสิตจุฬา

รุ่นพี่จุฬาที่ออกมาท้วงติง ไม่ใช่ด้วยความเกลียดชัง แต่ทำด้วยความรัก  เราเป็นกลุ่มคนที่รักจุฬา รักโดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมทำทุกอย่างเพื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเพียงแต่บอกมา

พวกเรายังมีความเชื่อในการกราบไหว้บูชาพระผู้มีพระคุณ เราเป็นกลุ่มที่เชื่อว่าการสำนึกบุญคุณไม่เกี่ยวกับเรื่องทัศนะคติทางการเมือง

-005