14 พฤษภาคม 2567 นางเกศรา อายุ 53 ปี ชาวบ้านระเวียง ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิงจิราพร โสตแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศีขรภุมิ จ.สุรินทร์ หลังจากที่ถูกเพจดังกล่าวหาว่าไปมีส่วนได้เสียกับเจ้าอาวาส ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนเองไม่ทราบเลยว่าที่มาที่ไปมันเป็นอย่างไรและทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนเองพร้อมที่จะมาแสดงความบริสุทธิ์พร้อมกับมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับเพจดังที่กล่าวอ้าง และนำภาพและข้อความานำไปเผยแพร่ตามแชทต่าง

นางเกศรายังบอกอีกว่า เรื่องทั้งหมดตนเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ที่มาที่ไปของเพจนั้นเอามาจากไหน และใครเป็นคนส่งตนเองไม่เคยทราบมาก่อนว่าที่มาที่ไปของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวนั้น มาทักแชทคุยกับตนเองซึ่งมันไม่ใช่เลยมันน่าจะมีการเตรียมความพร้อมที่จะทำให้ตนเองเสียหายและทำให้เจ้าอาวาสเสื่อมเสียชื่อเสียงบุคคลที่ทำลงไปไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์อะไร

ทางด้านเจ้าอาวาสวัด กล่าวย้ำอีกว่า เรื่องทั้งอาตมายืนยันว่าตนเองไม่เคยทราบมาก่อน พร้อมกับว่าในอดีตเคยถูกขู่ฆ่ามาแล้ว แต่อาตมาไม่ได้มาแจ้งความและเรื่องที่อาตมาถูกกล่าวว่าไปมีส่วนได้เสียกับสีกานั้น อาตมายืนยันว่าไม่ทราบมาก่อนจริงๆว่าปัญหามันจะเกิดขึ้นและตนเองคิดว่าถูกดิสเครดิตอย่างแน่นอน เรื่องเงินเรื่องทองก็เหมือนกัน ทางคณะกรรมการมีการตรวจสอบทุกครั้งในการใช้เงินและเงินปัจจัยชาวบ้านที่มอบมาให้เวลาถูกภากิจนิมนต์ไปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดแต่อย่างใด

ในขณะที่ตนเองยังนอนหลับอยู่ในกุฏิไม่ได้ไปไหนทางญาติโยม บางคนก็ออกมาปล่อยข่าวว่าอาตมาหนีออกจากวัดไปแล้วอาตมาขอยืนยันและต่อสู้อธรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายให้กับวัดและบ้าน

ถึงอย่างไรก็ตามวันนี้เวลา 13.00 น. ทางเลขาฯเจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ จะได้เดินทางมาสอบสวนอาตมากับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดและอาตมาขอยืนยันว่า เรื่องทั้งหมดมันมีที่มาที่ไปอาตมาไม่อยากจะก้าวก่ายกับการงานของใคร