วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปพิเศษ : นำร่อง 5 เขตพื้นที่การศึกษา  พัฒนา ‘Q-Info’ ดึงเด็กกลับเข้าระบบ

สกู๊ปพิเศษ : นำร่อง 5 เขตพื้นที่การศึกษา พัฒนา ‘Q-Info’ ดึงเด็กกลับเข้าระบบ

วันอาทิตย์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 08.09 น.
Tag : สกู๊ปพิเศษ
  •  

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดพิธีลงนามความร่วมมือดำเนินงาน โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา มุ่งขยายผลการนำระบบสารสนเทศ Q-Info มาใช้ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เดินหน้าภารกิจ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” ลดจำนวนเด็กหลุดจากระบบการศึกษาให้เป็น “ศูนย์” พร้อมร่วมกันพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อลดภาระงานครูตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ โดย สพฐ. สนับสนุนให้ยกระดับการใช้งาน Q-Info ภายในสถานศึกษาต้นแบบ 2,000 โรงเรียน สู่การใช้ระบบในระดับพื้นที่ ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 5 พื้นที่ ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 4,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระนอง เพื่อประโยชน์ในการบริหารและจัดการศึกษา เพิ่มเวลาให้ครูได้พัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอนส่งเสริมผู้เรียนให้เรียนรู้เต็มศักยภาพ

ระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา หรือ “Q-Info: Quality learning Information System” เป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษา ที่ กสศ. ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนเรศวร พัฒนาขึ้น ด้วยตระหนักว่า “ข้อมูล” เป็นทรัพยากรสำคัญในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียน ระบบสารสนเทศ Q-Info ที่เป็นฐานข้อมูลของโรงเรียนและมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียนเป็นรายบุคคล จึงเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของการพัฒนาคุณภาพโรงเรียน เพื่อให้โรงเรียนมีเครื่องมือในการบริหารจัดการโรงเรียน สามารถกำหนดเป้าหมายการพัฒนาโรงเรียนได้ในทุกมิติ และวางแผนการจัดการเรียนรู้และสร้างระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้ตรงตามบริบท


หลังจากที่ กสศ. ทดลองใช้ระบบ Q-Info กับโรงเรียนในหลายสังกัดมาตั้งแต่ปี 2561 เริ่มจากโรงเรียนสังกัดเทศบาลนคร ก่อนขยายสู่กลุ่มโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากร อาทิ โรงเรียนในสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) หรือโรงเรียนที่เข้าร่วมในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น พบว่า การใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลสารสนเทศผ่านระบบ Q-Info ได้เข้ามาช่วยในการลดภาระงานครู และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ที่ครูและโรงเรียนสามารถส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนได้ตามความถนัดและตามความสนใจ ทั้งยังเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการคัดกรองนักเรียนกลุ่มเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาได้อย่างทันท่วงที ด้วยลักษณะการใช้งาน (Funtion) ที่เป็นจุดเด่นของ Q-Info ดังนี้ 1.จัดการข้อมูลและงานวิชาการ 2.การจัดทำข้อมูลนักเรียนรายคน 3.จัดทำรายงานสำหรับโรงเรียน 4.ระบบการแจ้งเตือนเป็น dashboard สำหรับการติดตามข้อมูลโดยผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้ปกครอง

ดร.พัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ครั้งที่ 4/2566 เห็นร่วมกันว่า Q-Info เป็นระบบที่ช่วยในการพัฒนาและบริหารจัดการโรงเรียนได้ในหลายมิติ และเห็นควรให้มีการขยายผลการใช้งานให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือ โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา พร้อมเตรียมขยายผลการใช้งานระบบสารสนเทศ Q-Info นำร่องใน 5 เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งจะมีโรงเรียนมากกว่า 500 แห่งที่ได้ประโยชน์ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับจากโรงเรียนสู่เขตพื้นที่ ก่อนจะมองถึงเป้าหมายต่อไปคือการใช้งาน Q-Info ในทุกโรงเรียนทั่วประเทศ โดยกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายจัดสรรงบประมาณปี 2567 ราว 200 ล้านบาท และในปี 2568 อีก 2 หมื่น 2 พันล้านบาท เพื่อลงทุนเรื่องระบบสนับสนุนการบริหารจัดการในสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

“วันนี้เรามีข้อมูลเป็นเครื่องมือติดตามดูแลนักเรียนทุกคนได้ตลอดเวลาผ่านระบบออนไลน์ โดยเฉพาะคนที่เสี่ยงหลุดจากระบบกลางคัน เป็นโอกาสที่เราจะตามเด็กกลับมา ทั้งยังมีเรื่องการผลักดันเรื่อง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ มาตรา 12และมาตรา 15 ที่เปิดโอกาสให้การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทำได้ไม่เฉพาะแค่ในสถานศึกษา และให้โรงเรียนจัดการศึกษาได้ 3 รูปแบบ คือในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย เพื่อจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นรองรับความจำเป็นและวิถีชีวิตของเด็กทุกคนทุกกลุ่ม เรามีนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างโรงเรียนมือถือมีระบบศูนย์การเรียนสำหรับรองรับเด็กเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาทุกรูปแบบ มีการทลายกรอบการจัดการศึกษาที่เคยกักขังเด็กไว้แค่ในห้องเรียน ด้วยเทคโนโลยีแพลตฟอร์มต่างๆที่จะมาช่วยให้ทุกคนเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา และต่อจากนี้เด็กเยาวชนของเราจะมีโอกาสมากขึ้น ในการจบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ได้รับวุฒิ และมีทางไปต่อบนเส้นทางการศึกษาและการประกอบอาชีพได้ตามบริบทชีวิต” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า Q-Info เป็นงานวิจัยที่มีโจทย์คือต้องการนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนและแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งหลายประเทศทำมานานแล้ว ขณะที่การจัดการข้อมูลการศึกษาของประเทศไทย ยังติดอุปสรรคเรื่องต้นทุนเวลา ด้วยข้อมูลที่บันทึกลงกระดาษจึงยากต่อการค้นหาและบริหารจัดการ รวมถึงยังมีความเสี่ยงในการเก็บรักษาข้อมูล ทั้งนี้เมื่อ Q-Info เริ่มนำมาใช้งานในโรงเรียนจากจุดเริ่มต้นจำนวนหลักร้อย ปัจจุบันได้ขยายการใช้งานไปในโรงเรียนจนแตะหลักพัน ซึ่งหลังจาก กสศ. ได้นำเสนอบทเรียนการใช้งานต่อกพฐ. จึงมีนโยบายที่จะขยับการใช้งานไปอีกขั้น คือทดลองใช้งานในระดับเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อมองถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้งานในระดับชาติต่อไป

“Q-info จะเป็นเครื่องมือสำคัญของนโยบาย “Thailand Zero Dropout” ซึ่งจะช่วยเฝ้าระวังไม่ให้มีเด็กหลุดไปจากระบบ ทั้งตอบสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง “เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา” (Anywhere Anytime) โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง จนถึงการนำเทคโนโลยีและงานวิจัยมาช่วยลดภาระครู ทั้งนี้ด้วยเป้าหมายในการพัฒนาการศึกษาไทยที่ยั่งยืน พร้อมกับวาระของการเปิดเทอมปีการศึกษาใหม่ 2567 กสศ. และ สพฐ. จึงมีความตั้งใจลงนามความร่วมมือเพื่อประกาศความก้าวหน้าของการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทั้งคาดหวังว่าการทดลองใช้งาน Q-Info ใน 5 เขตพื้นที่การศึกษาต้นแบบเต็มพื้นที่ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผลไปยังการใช้งานเต็มพื้นที่ประเทศไทยต่อไป” ผู้จัดการ กสศ. ระบุ

ดร.อุดม วงษ์สิงห์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพครูและสถานศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า กสศ. และทีมมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้พัฒนา Q-Info โดยคำนึงถึงการลดภาระงานครูเป็นเป้าหมายหลัก ซึ่งสอดรับกับนโยบายลดภาระงานครูของกระทรวงศึกษาธิการ โดย Q-Info จะช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการบันทึกเอกสารและจัดทำใบ ปพ. ต่างๆ เช่น คะแนนสอบ ผลประเมินการทำกิจกรรม ข้อมูลการเยี่ยมบ้าน แล้วรายละเอียดที่กรอกผ่านระบบจะสะสมเป็นฐานข้อมูลนักเรียนดิจิทัล สะดวกต่อการค้นหา ใช้งาน และการประมวลผล รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อการตั้งต้นทำแผนการจัดการเรียนรู้ตลอดจนการวางนโยบายการบริหารจัดการโรงเรียน

Q-Info จะช่วยครูในเรื่องความซ้ำซ้อนของการกรอกข้อมูล การจัดทำเอกสารตามจำนวนผู้เรียน การมีพื้นที่เก็บข้อมูลกระดาษซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นทุกเทอมการศึกษา หรือโดยเฉพาะการจัดการและค้นหาข้อมูลเพื่อนำมาใช้ที่ต้องสะดวกรวดเร็ว และแน่ใจได้ว่าเป็นข้อมูลที่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน โดยผลสะท้อนหลังใช้งานมาแล้วในโรงเรียนมากกว่า 2,000 แห่ง พบว่าผู้บริหารและครูส่วนใหญ่ยอมรับถึงความสะดวกในการใช้งาน ด้วยคู่มือ การอบรม คลินิกแนะนำที่ให้คำตอบภายใน 24 ชั่วโมง

“ที่ผ่านมาการใช้ประโยชน์จากระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา มีเป้าหมายคือการใช้งานในโรงเรียนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยพัฒนามองว่าถ้ามี Dashboard ที่สรุปข้อมูลระดับเขตพื้นที่การศึกษาได้บนหน้าจอเดียว ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาหรือศึกษานิเทศก์จะสามารถกำกับติดตามโรงเรียนในความดูแลได้อย่างใกล้ชิด แล้วข้อมูลที่ทางโรงเรียนเก็บบันทึกไว้ ก็จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ในขั้นตอนการกำหนดนโยบายที่ครอบคลุมระดับพื้นที่ โดยในอนาคตเมื่อมีเขตพื้นที่การศึกษาใช้งาน Q-Info แบบเต็มพื้นที่เพิ่มขึ้น สพฐ. ก็จะสามารถติดตามและบริหารจัดการข้อมูลของเขตพื้นที่การศึกษาจำนวนมากได้เช่นกัน ซึ่งนี่เป็นแนวทางการทำงานของ กสศ. ที่ตั้งใจทดลองการทำงานจากพื้นที่เล็กๆ จนเห็นผล ก่อนขยายไปสู่ขอบเขตการทำงานที่ใหญ่ขึ้น” ผู้อำนวยการฯ กสศ. กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปพิเศษ : ตีโจทย์ขายเหล้าวันพระใหญ่ ที่ไหนทำได้-ทำไม่ได้ สกู๊ปพิเศษ : ตีโจทย์ขายเหล้าวันพระใหญ่ ที่ไหนทำได้-ทำไม่ได้
  • สกู๊ปพิเศษ : ‘เสียงจากดาวน์’ ปลดล็อคข้อจำกัดด้าน ‘การศึกษา’ สู่การพัฒนาอาชีพ-การจ้างงานในอนาคต สกู๊ปพิเศษ : ‘เสียงจากดาวน์’ ปลดล็อคข้อจำกัดด้าน ‘การศึกษา’ สู่การพัฒนาอาชีพ-การจ้างงานในอนาคต
  • สกู๊ปพิเศษ : ส่องมนต์เสน่ห์ธรรมชาติแห่ง ‘กุ้ยโจว’ อันซีนแดนมังกร หมุดหมายของเหล่านักเดินทาง สกู๊ปพิเศษ : ส่องมนต์เสน่ห์ธรรมชาติแห่ง ‘กุ้ยโจว’ อันซีนแดนมังกร หมุดหมายของเหล่านักเดินทาง
  • สกู๊ปพิเศษ : ถอดบทเรียนแก้ปัญหาการพนันในสถานประกอบการไทย สกู๊ปพิเศษ : ถอดบทเรียนแก้ปัญหาการพนันในสถานประกอบการไทย
  • สกู๊ปพิเศษ : ‘บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่’ร้ายกว่าที่คิด! ตัวการดึง‘เด็ก-เยาวชน’สู่วงจรอันตราย สกู๊ปพิเศษ : ‘บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่’ร้ายกว่าที่คิด! ตัวการดึง‘เด็ก-เยาวชน’สู่วงจรอันตราย
  • สกู๊ปพิเศษ : สสส.ชูโมเดล‘ชุมชนหัวชุกบัว’ นำร่องรับมือ 3 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ สกู๊ปพิเศษ : สสส.ชูโมเดล‘ชุมชนหัวชุกบัว’ นำร่องรับมือ 3 ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ
  •  

Breaking News

พาณิชย์สวน‘เท้ง’วัยรุ่นหลงยุค ย้ำไลฟ์สดช่วยดันยอดขายผลไม้ไทยได้จริง

ถึงคราวรื้อโครงสร้าง! 'เจิมศักดิ์'ชี้เงินคืออสรพิษ ซัดโครงสร้างบริหารหละหลวม ต้นเหตุเจ้าอาวาสโกง

2 ตำรวจสายตรวจคู่หูขับ จยย.ไล่ล่ารถต้องสงสัยเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต 1 นาย

เมเจอร์ที่3! 'เชฟเฟลอร์'แชมป์พีจีเอแชมเปี้ยนชิพ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved