สุดช้ำ!กรรมการกองทุนหมู่บ้าน‘ศรีสะเกษ’ควักเงินใช้หนี้แทนคนอื่น ถูกยึดทรัพย์หมดตัว
19 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ เดินทางไปที่บ้านหนองเรือ หมู่ 6 ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พบกับนางวาสนา สมพงษ์ อายุ 58 ปี อดีตคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านหนองเรือ (กทบ.หนองเรือ) หมู่ 6 ที่ร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนว่าถูกสมาชิกและคณะกรรมการกองทุนกว่า 50 คน มากู้ยืมเงินจากกองทุนหมู่บ้าน รวมกว่า 3.7 ล้านบาท แล้วไม่ชำระหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ย ส่งผลให้ถูกธนาคารยึดทรัพย์ที่ดินทำกินของตนเองเตรียมขายทอดตลาด ทั้งที่มูลหนี้ดังกล่าวไม่ใช่มูลหนี้ที่ตนก่อขึ้น จึงทุกข์ใจหนัก ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ
นางวาสนา กล่าวว่า เมื่อปี 2561 ตนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านบ้านหนองเรือ ซึ่งมีคณะกรรมการ 10 คน มีสมาชิกทั้งหมด 53 คน ขณะนั้นคณะกรรมการและสมาชิกได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากกองทุน รายละ 10,000 - 30,000 บาท ช่วงแรกๆมีการคืนต้นจ่ายดอกครบถ้วน จนกองทุนได้รับรางวัลผลงานดีเด่นระดับ 3A+ และต่อมาธนาคารได้ให้ยอดเงินกู้มาเพิ่มอีกเป็นเงิน 2 ล้านบาท และมีคณะกรรมการพร้อมทั้งสมาชิกเข้ามาทำสัญญากู้ยืมเงินต่อ บางคนกู้ยืมเงินเป็นเงินหลักหมื่น บางรายหลักแสน จากนั้นคณะกรรมการชุดตนหมดวาระ และมีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้น ต่อมาได้ประสบปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ประกอบกับปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมใหญ่ ส่งผลให้สมาชิกซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรติดขัดปัญหาด้านการเงิน และสมาชิกเริ่มไม่มีเงินจ่ายต้นและดอกเบี้ย กระทั่งตนได้สำรองเงินตัวเองจ่ายให้กับสมาชิกก่อน
ต่อมาธนาคารได้ไปถอดโฉนดที่ดินของตน เพื่อยึดที่ดินของตนออกมาจากธนาคารที่ตนเคยไปกู้ยืมเงินส่วนตัวเอาไว้ เนื่องจากไม่มียอดชำระหนี้ของสมาชิกตามหลักเกณฑ์ และทางสำนักงานบังคับคดีได้ทำการประกาศขายทอดที่ดินของตนเมื่อปี 2565 โดยคณะกรรมการชุดตน มีเพียงตนที่มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินเพียงคนเดียว ขณะที่คณะกรรมการคนอื่น รวมถึงประธานอีก 9 คน ไม่มีทรัพย์สินเป็นของตนเองแม้แต่คนเดียว จึงไม่สามารถไปบังคับยึดทรัพย์สินของคณะกรรมการคนอื่นๆได้
ทั้งนี้ ทำให้ตนต้องนำเงินส่วนตัวไปจ่ายหนี้ให้คนทั้งหมู่บ้านที่เป็นสมาชิก เดือนละ 20,000-30,000 บาท แยกเป็นเงินต้นที่ต้องจ่ายธนาคาร 12,000 บาท ดอกเบี้ย เดือนละ 24,000 บาท จนถึงตอนนี้ตนหมดเงินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนบาท จนหมดเนื้อหมดตัว แถมยังถูกยึดที่ดินทำกิน ซึ่งตนได้พยายามไปอ้อนวอนขอให้สมาชิกใช้หนี้ บางคนก็บอกไม่มี ถูกปัดไปเรื่อย ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตนจะไม่เป็นกรรมการในตอนนั้นอย่างแน่นอน
นางวาสนา กล่าวว่า ถึงตอนนี้ยอมรับว่าหมดตัว ทุกข์ใจมาก และกลัวจะถูกขายที่นา ทั้งที่ไม่ใช่หนี้ของตน อยากฝากถึงสมาชิกให้ช่วยๆกันหน่อย กรรมการบางคนก็หนีไป โทร.ติดไม่รับสาย ตนสุดๆแล้ว ไม่ไหวแล้ว ที่จะต้องเสียนาทั้งที่ไม่ใช่หนี้ที่ตนสร้าง ที่นาของตนก็เป็นที่นามรดกของบรรพบุรุษ แต่ละเดือนตนต้องไปนั่งคุกเข่าขอร้องสมาชิก คนทั้งหมู่บ้านให้ช่วยใช้หนี้ที่เขาก่อขึ้น อยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อที่ตนจะได้ไม่ต้องเสียที่นาไปเพราะใช้หนี้ให้คนทั้งหมู่บ้านที่สร้างไว้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวด้วย ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี