วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
รายงานพิเศษ : พันธมิตรจับมือสร้างระบบนิเวศ พร้อมก้าวสู่ ‘มหาวิทยาลัยดิจิทัล’

รายงานพิเศษ : พันธมิตรจับมือสร้างระบบนิเวศ พร้อมก้าวสู่ ‘มหาวิทยาลัยดิจิทัล’

วันพฤหัสบดี ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
Tag : รายงานพิเศษ
  •  

“ในโลกปัจจุบันเราไม่สามารถหนีพ้นความเป็นดิจิทัล แต่ใครจะวิ่งได้เร็วกว่าพร้อมก้าวเข้าสู่การเรียนรู้ และอยู่ในโลกดิจิทัลได้อย่างเต็มรูปแบบ มีประสิทธิภาพ และไม่ถูกหลอก คนไทยควรตระหนักถึงความสำคัญและมหาวิทยาลัยควรมีบทบาทในเรื่องนี้ด้วย”

คำกล่าวตอนหนึ่งของ รศ.ดร.พีรเดชทองอำไพ ผู้อำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ ในเวที “DU Forumเปิดนิเวศมหาวิทยาลัยดิจิทัล” ณ ห้องประชุมกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถนนศรีอยุธยา ที่จัดโดยโครงการการสร้างนิเวศสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัล เพื่อสร้างพื้นที่พบปะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เปิดประตูสู่การสร้างความรู้จัก พัฒนาเครือข่ายนิเวศมหาวิทยาลัยดิจิทัลทั่วประเทศสร้างการเชื่อมต่อและผนึกกำลังกับเครือข่ายทั้งภาคการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชน


ทั้งนี้สถาบันคลังสมองฯ ได้สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยต่างๆ มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยดิจิทัล” เต็มรูปแบบ จึงต้องมีเครื่องมือต่างๆ เพื่อตรวจสอบความพร้อม ขณะเดียวกัน ก็ต้องดูว่าสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่มหาวิทยาลัยจะขับเคลื่อนไปได้เร็วที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดควรจะมีองค์ประกอบใดบ้าง เพราะระบบนิเวศดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย เป็นเครือข่ายที่เดินไปด้วยกันโดยไม่โดดเดี่ยว

ขณะที่ อ.ดนัยรัฐ ธนบดีธรรมจารี ผู้ดูแลโครงการการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่มหาวิทยาลัยดิจิทัล ระบุว่า ความสำคัญของการเชื่อมโยงระบบนิเวศดิจิทัล ประการแรกคือ การแบ่งปันทรัพยากร ซึ่งจะทำให้เห็นชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยใดได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อไม่เกิดความซ้ำซ้อน ประการต่อมาคือ การนำไปใช้ให้ตรงกับพื้นที่ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งที่มียุทธศาสตร์เป้าหมายของตน ประการสุดท้ายการ
ขับเคลื่อนขององค์กรต่างๆ จะต้องมุ่งไปที่วัตถุประสงค์เป็นสำคัญมากกว่าเทคโนโลยีสารสนเทศเพียงอย่างเดียว ดังนั้น จึงต้องทำให้ผู้บริหารระดับบนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างตรงจุด ทั้งยังเป็นการเหลาบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มักเรียกกันว่า “หัวสี่เหลี่ยม” ให้กลมขึ้น ก่อนขับเคลื่อนองคาพยพทั้งประเทศต่อไป

สำหรับการเชื่อมโยงกับหน่วยงานภายนอกนั้น ในอดีตมองว่าเป็นโลกของการแข่งขัน แต่ในความเป็นจริงมี 3 สิ่งที่สำคัญ ได้แก่ 1) ความเป็นตัวตนหรืออัตลักษณ์ที่ไม่มีใครแย่งไปได้ จึงต้องหาให้เจอว่าเราเก่งเรื่องอะไร 2) พันธมิตร มีหลายส่วนที่เพื่อนถนัดกว่าเรา การมีเพื่อนเข้ามาอยู่ร่วมวงจะทำให้อัตลักษณ์ของเรามีความแข็งแรงและมั่นคงมากขึ้น 3) กลุ่มดิจิทัลที่เชื่อมโยงการทำงาน เพื่อให้เห็นระยะเวลา ความเร็วและน้ำหนักของงาน

ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อระบบนิเวศดิจิทัล อันดับแรกจะต้องเป็นลูกค้าหรือผู้รับบริการของมหาวิทยาลัย ทำให้นักศึกษามีทางเลือก ขณะที่มหาวิทยาลัยเองยังสามารถประหยัดสุดและได้ประโยชน์สุด เพียงแค่กะเทาะกรอบความคิดจากการแข่งขันเป็นการแบ่งปัน สิ่งที่จะได้กลับไปคือมหาวิทยาลัยจะกลายเป็นคลัสเตอร์ต้นแบบของโลกที่ทำให้เราก้าวไปด้วยกันและไปได้ไกล นั่นคือ คลัสเตอร์ของความสามารถทางเทคโนโลยีในโลกแห่งความจริง มิใช่เพียงนำข้อมูลมาแปะแล้วแต่งตัว

“เราต้องเชื่อมเป้าหมาย เชื่อมกระบวนงาน แล้วจึงเชื่อมเทคโนโลยี ถ้าเรากลัดกระดุมไปที่เทคโนโลยีก่อน หลายครั้งจะเจอคำว่าโมฆะ แต่ดิจิทัลจะช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อไปสู่ความร่วมมือทำให้คุยกันได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นจะช่วยให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เราต้องเริ่มต้นจากการใส่ใจตัวเอง ใส่ใจคนอื่นให้เป็น หาตัวเองให้เจอ จึงจะหาคนอื่นมาหนุนเสริมได้ถูกต้องโดยไม่มีใครถูกทิ้งให้เสียเปรียบ และต้องยุติธรรมต่อกัน สุดท้ายต้องแบ่งปันข้อมูลและเทคโนโลยี ทั้งนี้จะต้องหาให้เจอว่าสิ่งที่ทำมีเป้าหมายอะไร ระยะที่สองจะเกิดอะไรขึ้นด้วยหลักการ care, fair
และ share”

ส่วนแนวทางการทำงานร่วมกันในเชิงนโยบายนั้น ดร.วรา วราวิทย์ คณบดีคณะเทคโนโลยีดิจิทัล สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา และประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์การปรับเปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัล ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย กล่าวว่าทุกมหาวิทยาลัยมีนโยบายในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยดิจิทัล โดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้เห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ จึงจัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนภารกิจ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ช่วยกันทำงานเพื่อสร้างความตระหนัก แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และองค์ความรู้ต่างๆ ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์ การใช้ดิจิทัลไอดี และการสร้างสถาปัตยกรรมองค์กร

ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยของไทยในภาพใหญ่สามารถขับเคลื่อนไปได้โดยไม่มีความแตกต่างในการพัฒนาดิจิทัลมากนัก ทั้งนี้การพัฒนาดิจิทัลได้ผ่านมาหลายคลื่นแล้ว แต่ในยุคนี้เป็นโอกาสที่สำคัญเนื่องจากเรามีคนที่มีความรู้และมีกำลังคนด้านดิจิทัลพอสมควรที่จะช่วยกันขับเคลื่อน เพื่อให้การศึกษาของไทยก้าวสู่ยุคใหม่และพัฒนากำลังคนศักยภาพสูงต่อไปในอนาคต

รศ.ดร.บวร ปภัสราทร ว่าที่ผู้อำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ กล่าวย้ำว่าตนจะสานต่อนโยบายมหาวิทยาลัยดิจิทัล โดยเสริมบทบาทใหม่ของมหาวิทยาลัยไทยในโลกปัจจุบัน จากเดิมที่ต้องมาเรียนกันในรั้วมหาวิทยาลัยถึงจะได้รับปริญญา แต่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลจะทำให้ทุกคนทุกช่วงอายุได้เพิ่มทักษะของตัวเองให้มีความสามารถในการทำงานหรือการจ้างงานมากขึ้น ประเทศไทยต้องการทักษะนี้เป็นอย่างมากเนื่องจากเรากำลังมีปัญหาเรื่องวัยแรงงานที่มีจำนวนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

“บทบาทของสถาบันคลังสมองฯ จะต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างความร่วมมือในการสร้างมหาวิทยาลัยไทยให้มีความเข้มแข็งด้านดิจิทัล ช่วยขับเคลื่อนการเรียนรู้ตลอดชีวิตของไทยในบริบทของดิจิทัล ให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นให้คนทุกช่วงวัยมีโอกาสได้งานมากขึ้น ทั้งนี้ ผลจากการวิจัยของตนยืนยันได้ว่าคนไทยยอมรับเทคโนโลยีใหม่ได้รวดเร็วมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ความจริงคือเรารับเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้โดยที่ยังเข้าใจแก่นของเทคโนโลยีได้น้อยมาก จึงขอฝากว่าเราต้องใช้เทคโนโลยีแต่อย่าตกเป็นทาส อย่าหลงกลโดยเด็ดขาด” รศ.ดร.บวร กล่าวทิ้งท้าย

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • รายงานพิเศษ : เปิด ‘Acceleration Program’ 5 กลุ่ม ปั้น ‘สตาร์ตอัปฯ’ เชื่อมไทยสู่ตลาดโลก รายงานพิเศษ : เปิด ‘Acceleration Program’ 5 กลุ่ม ปั้น ‘สตาร์ตอัปฯ’ เชื่อมไทยสู่ตลาดโลก
  • รายงานพิเศษ : สัมพันธ์แน่นแฟ้น‘เสฉวน-สงขลา’ รายงานพิเศษ : สัมพันธ์แน่นแฟ้น‘เสฉวน-สงขลา’
  • รายงานพิเศษ : พัฒนาระบบแผนที่ความเสี่ยงจากฝน มุ่งเป้า ‘น้ำมั่นคง - ไม่ท่วม - ไม่แล้ง’ รายงานพิเศษ : พัฒนาระบบแผนที่ความเสี่ยงจากฝน มุ่งเป้า ‘น้ำมั่นคง - ไม่ท่วม - ไม่แล้ง’
  • รายงานพิเศษ : ชายแดนไทยรั่ว ปิดช่องโหว่งัดข้อกัมพูชา รายงานพิเศษ : ชายแดนไทยรั่ว ปิดช่องโหว่งัดข้อกัมพูชา
  • รายงานพิเศษ : ​‘ฉลาดซื้อ – ฉลาดใช้’ เตือนภัย! ผู้บริโภค ทางรอดในยุคของการหลอกลวงไม่รู้จบ รายงานพิเศษ : ​‘ฉลาดซื้อ – ฉลาดใช้’ เตือนภัย! ผู้บริโภค ทางรอดในยุคของการหลอกลวงไม่รู้จบ
  • รายงานพิเศษ : ​‘สามเหลี่ยมสมดุล’ สร้างเสริมสุขภาพ ลดปัญหาพัฒนาการเด็กปฐมวัย รายงานพิเศษ : ​‘สามเหลี่ยมสมดุล’ สร้างเสริมสุขภาพ ลดปัญหาพัฒนาการเด็กปฐมวัย
  •  

Breaking News

'กัน จอมพลัง'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน

'ทิดประดิษฐ์'อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย โชว์ส่งมอบเอกสารวัด ปัดข่าวหอบเงินหนี

'สะพานเข้าชุมชนถล่ม' ชาวบ้านกว่า30หลังคาเรือน-ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

‘ขอนแก่น’ยกขบวนศิลปินดัง-สินค้าเด็ด‘ของดีเมืองแคน’บุกเวสต์เกต ครบจบถึง 14 ก.ค.นี้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved