นับเวลาถอยหลังอย่างช้าๆ กับการสิ้นอายุขัยของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จากค่ายเพื่อไทย ที่อาจนำไปสู่การยุบสภาหรือให้สภาผู้แทนราษฎรโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
สำหรับพรรคภูมิใจไทยของหัวหน้าเสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล และครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ปักหมุดชัดเจนแล้ว คือการเช็คบิลล้างแค้นพรรคเพื่อไทย
แม้พรรคภูมิใจไทยเคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันลงตัว แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็ยึดกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทยกลับไป จนนำไปสู่การถอนตัวจากรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย
แค่นั้นยังไม่พอแม้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวไปแล้วก็ยังโดนเล่นงานเรื่องเขากระโดงอีก
ความแค้นระดับมหาประลัยนี้มีหรือที่จะไม่ชำระแค้น ในทุกสนามเลือกตั้ง ไม่เว้นแม้แต่สนามการเมืองปักษ์ใต้
การปรากฏกายของพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรมว.การท่องเที่ยวฯ รมว.แรงงาน ขุนพลภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย ที่บ้านเขารูปช้างของ นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย พร้อมมี สรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเจ้าของบ้านอีกคนร่วมต้อนรับ มีความหมายเชิงการเมืองสงขลาค่อนข้างชัด และสะท้อนได้หลายชั้น
พิพัฒน์ไม่ได้มาคนเดียว มี ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา เขต 7 พรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะผู้สนับสนุนหลายคนมาร่วมด้วย อีกเพียบ
ดินเนอร์มื้อดังกล่าว บ่งชี้ว่าสัญญาณเชื่อมสัมพันธ์ ภูมิใจไทย–บ้านใหญ่เขารูปช้าง เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น และลึกถึงขนาดนิพนธ์-เนวิน ชิดชอบ ได้พบเจอ พูดคุยกันแล้ว
นิพนธ์ บุญญามณี เคยเป็นกำลังหลักของประชาธิปัตย์ในภาคใต้ แต่หลังความนิยมประชาธิปัตย์ลดลง ต้องรักษาฐานเสียงไว้ในภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูงกับประชาธิปัตย์ การเปิดพื้นที่ให้คนจากพรรคอื่นมาเยือน เป็นการส่งสัญญาณว่า บ้านใหญ่พร้อมคุยกับทุกขั้ว ไม่ผูกมัดตายตัว
ส่วนบทบาทพิพัฒน์ ในการวางหมากภาคใต้ของภูมิใจไทย ที่ผ่านมานำพาพรรคภูมิใจไทยเข้าแทรกซึมพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ภูมิใจไทยกำลังขยายฐานลงภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา รวมถึงสามจังหวัดชายแดนใต้ และจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน
การปรากฏตัวครั้งนี้เหมือน “เชื่อมสัมพันธ์ให้ลึกขึ้น และต่อเนื่อง” หากในอนาคตมีการสลับขั้วหรือเลือกตั้งใหม่จะได้ไม่เคอะเขินที่จะจับมือเดินไปด้วยกัน
พิพัฒน์ซึ่งมีเครือข่ายท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ อาจใช้ความสัมพันธ์นี้เชื่อมต่อกับนักการเมืองท้องถิ่นที่มีบารมีสูง
สัญญาณที่ภาพออกสู่สาธารณะ ไม่ใช่ความบังเอิญ แปลว่าอยากให้คู่แข่งในสงขลารับรู้ถึงสัญญาณทางการเมืองในอนาคต อาจเป็นการส่งสาร ว่า บ้านใหญ่เขารูปช้างมีพันธมิตรทางเลือก และพร้อมปรับเกมหากจำเป็น
พิพัฒน์-นิพนธ์ สองแรงแข็งขัน ทั้งผลักทั้งดันภูมิใจไทยกรีธาทัพเข้ายึดครองพื้นที่ของพรรคอื่น รวมทั้งพรรคแทนประชาธิปัตย์ที่เริ่มหมดแรง และแผ่วเบา
ความจริงความสัมพันธ์ของพรรคภูมิใจไทย กับประชาธิปัตย์ มีมานานแล้ว ในปี’51 ถ้าไม่มีครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ที่แยกตัวออกมาจากพรรคพลังประชาชนมาช่วย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็คงไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
สส.สายใต้หลายคนได้อานิสงส์ จากยุทธการครูใหญ่เนวิน ได้เป็นรัฐมนตรีกันทั่วหน้า
อาจมีการตั้งคำถามว่า นิพนธ์ บุญญามณี ลูกหม้อแท้ๆ พรรคประชาธิปัตย์ แล้วทำไมตัองตีจากบ้านเก่า คำตอบง่ายๆ คือ นิพนธ์ บุญญามณี เคยคัดค้านคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดปัจจุบันที่ไปร่วมรัฐบาล ทำตัวเป็นสาขาย่อยพรรคเพื่อไทย ที่ส่งผลให้เรตติ้งประชาธิปัตย์ทรุดหนัก
และวันที่เกิดคลิป “ฮุนเซน-อุ๊งอิ๊งค์” นิพนธ์ บุญญามณี เป็นคนแรกที่เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวจากรัฐบาล เพื่อจะได้ช่วยกันรีโนเวทพรรคกันใหม่
แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน
ย้ำอีกหน นิพนธ์ บุญญามณี คือ สายเลือดแท้ประชาธิปัตย์ และมีศัตรูตลอดกาล ทั้งชาตินี้และชาติหน้า คือพรรคเพื่อไทย ที่ถูกย่อยสลายมาจากพรรคพลังประชาชน และพรรคไทยรักไทย
และได้เวลาชำระแค้นเหมือนกับที่พรรคภูมิใจไทยดำเนินการอยู่
ได้เวลาหวนคิดถึงความหลังเก่าๆ ที่ ภูมิใจไทยเคยช่วยประชาธิปัตย์
การที่ นิพนธ์ บุญญามณี จับมือกับ พิพัฒน์ รัชกิจประการ 2 ขุนศึกร่วมรบเพื่อ เอาชนะพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยและพรรคสาขาต่าง ในสนามเลือกตั้ง ก็ย่อมเหมือนกับศึกเซ็กเพ็ก ในวรรณกรรมสามก๊ก ที่รัฐจ๊กก๊ก จับมือกับ ง่อก๊ก เผาทัพเรือของวุยก๊ก จมทะเลเพลิง
ถึงได้บอกว่าอย่าได้กะพริบตากับการเมืองภาคใต้ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นมาได้ทั้งนั้น จบศึกเซ็กเพ็ก แล้วนิพนธ์ บุญญามณี จะกลับไปฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์อีกหรือไม่ ก็ยังไม่มีใครรู้ได้???
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี