เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ"แม่ผู้ยิ่งใหญ่ กำลังมีปัญหา" โดยมีเนื้อหาดังนี้...

ไม่ว่าจะเป็นวันไหนไหน

แม่ยิ่งใหญ่เสมอ

ไม่มีแม่ก็ไม่มีทุกสิ่งที่เรามี

ไม่มีแม่ ไม่มีคนไทยและไม่มีอารยธรรมไทย

ปัจจุบันแม่(หญิง)อ่อนล้า หลายคนไม่อยากมีลูกมาก หรือไม่อยากมีเลย

“คนพร้อมไม่ท้อง  แต่คนท้องไม่พร้อม”
  
นับจากนี้ไป จำนวนประชากรของชาติจะลดลง คุณภาพของคนส่วนมากที่เกิดจากคนท้องที่ไม่พร้อมจะเป็นอย่างไร

ผู้สูงอายุมีสัดส่วนมากขึ้นๆ เรื่อยๆ  ขณะที่สัดส่วนของคนวัยทำงานจะลดลงและด้วยคุณภาพที่อาจมีปัญหา 

ใครจะดูแล ใครจะจ่ายภาษีเพื่อสวัสดิการให้แม่และพ่อที่มีอายุยืนยาวมากขึ้น

คนไทยแต่งงานช้าลง ผู้หญิงเรียนหนังสือยาวนานและทำงานนอกบ้าน มากขึ้น ช่วงวัยเจริญพันธุ์แคบลง

คนเป็นแม่และพ่อ ห่วงมีลูกจะเป็นภาระ  คิดว่าจะเอาตัวเองรอดก็ลำบากอยู่แล้ว

หญิงผู้เป็นแม่ รับภาระหนักมากตั้งแต่อุ้มท้อง เจ็บปวดคลอดลูก เลี้ยงดูแต่เล็กจนโต

หากชายผู้เป็นพ่อเข้าใจ  ช่วยแบ่งเบาความรู้สึก แบ่งเบาภาระ  ตั้งแต่แม่ท้อง เป็นเพื่อนแม่ผู้คลอด  จนถึงช่วยแม่ร่วมเลี้ยงดูลูก ก็จะช่วยลดภาระผู้เป็นแม่ได้มาก

รัฐต้องส่งเสริมนายจ้างให้แม่ได้หยุดงานลาคลอดได้ยาวขึ้น พร้อมทั้งผู้เป็นพ่อได้มีโอกาส ร่วมเลี้ยงดูพัฒนาลูกแต่เริ่มเกิดรัฐ ต้องส่งสัญญาณสนับสนุนแม่ที่พร้อม ได้สามารถท้องและมีลูก  ให้แรงจูงใจ ด้านภาษีอากรและรายได้ ให้แม่ที่พร้อมได้มีลูกโดยด่วน  ชะลอและป้องกันแม่วัยใส ผู้ที่ไม่พร้อมไม่ให้มีลูกมาก

รัฐต้องสนับสนุนให้หน่วยงานช่วยอุ้มชูแม่ (พนักงาน) ที่มีลูกเล็ก ได้ให้นมแม่และดูแลลูกในที่ทำงานยาวนานมากขึ้น

สังคมและสื่อมวลชน ควรเน้นประเด็น รอบด้าน  ให้ผู้รับข้อมูลครบถ้วนให้เห็น ความสุขและความสำเร็จของครอบครัวที่มีพร้อม  ความสำเร็จ ความสุข ของแม่ และพ่อที่มีลูก

สังคมและวัฒนธรรมไทยจะเป็นอย่างไร ขณะที่ประชากรไทยน้อยลง ขณะที่คนวัยทำงานลดน้อยลงและเกิดจากคนที่ไม่พร้อมเป็นส่วนมาก

สัดส่วนผู้สูงอายุมากขึ้น (แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญชีวิตแต่ก็อ่อนล้าไปตามลำดับ)

เราต้องได้ผู้บริหารประเทศที่เห็นความสำคัญของ“แม่” อย่างแท้จริง อย่างไร และมีความเข้าใจในสภาพสังคมไทย ในสภาวะเช่นนี้ อย่างไร