วันที่ 17 กันยายน 2567 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา เขียนบทความ “สามสิบบาทจะไปรอด ต้องปรับระบบแพทย์ประเทศไทย” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก เนื้อหาดังนี้

ผมเป็น GP มาทั้งชีวิต ดูคนไข้ได้ทุกโรค โรคไหนรักษาได้ก็รักษา โรคไหนทำไม่ได้ก็ส่งต่อ นี่คือคุณค่าของแพทย์ GP

แพทย์ไทยจบมา ทุกคนจะเป็นแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป (General Practitioner) หรือแพทย์ GP คือมีความสามารถทำได้ทุกอย่าง รักษาโรคพื้นฐานได้ทุกโรค และปฏิบัติหัตถการเก่งด้วยเมื่อเทียบกับแพทย์โลกที่1 เพราะฝึกฝนวิชากับคนไข้มาเยอะในระหว่างเรียน

ผู้ป่วยรายนี้เท้าตะปูมีสนิม เศษไม้เข้าไปในเท้าปวดบวมอักเสบ ผมก็ผ่าหนองและแคะเอาเศษไม้ออกให้ เสร็จแล้วก็ไปตรวจคนไข้เบาหวาน ต่อด้วยตรวจเด็กปอดบวม ตามด้วยคนท้องมีอาการตกเลือด แล้วก็ไปดูเคสจิตเวช กับคนไข้สูงอายุล้มปวดหัวมากอาจมีเลือดออกในขั้นเยื่อหุ้มสมองแต่หมอเฉพาะทางให้กลับมาสังเกตอาการใกล้บ้าน รายสุดท้ายคนไข้ผู้หญิงปวดท้องน้อยมาก ผมต้องตรวจเพื่อแยกโรคว่า ปวดจากไส้ติ่ง หรือมดลูก หรือนิ่ว ปวดท้องจากอะไร จะได้ส่งต่อได้ถูกแผนก นี่คือแพทย์ GP แพทย์ GP ทุกคนทำอะไรได้มากมาย คือด่านหน้าของระบบการแพทย์ไทย

ระบบสาธารณสุขไทยวางระบบเลียนแบบอเมริกา ให้คุณค่ากับแพทย์เฉพาะทาง แพทย์ GP ในไทยไม่ได้ถูกส่งเสริมหรือให้คุณค่า ไม่มีช่องทางศึกษาต่อเนื่องเป็นบอร์ด GP ถูกมองเป็นแพทย์ชั้นสาม ( ชั้น 1 คือแพทย์เฉพาะทาง ชั้นสองคือแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว และ GP แพทย์ทั่วไปคือชั้นสาม) แพทย์จบใหม่เมื่อใข้ทุนครบสามปี จึงหนีตายไปเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางกันเกือบทุกคน

สามสิบบาทจะรักษาทุกโรคหรือรักษาทุกที่ ถ้าจะให้ระบบยั่งยืน ต้องให้ความสำคัญกับระบบแพทย์ GP ผลิตและส่งเสริม GP ให้เก่ง ให้คุณค่าและค่าตอบแทนที่เขาอยู่ได้ ให้มีจำนวนมากพอที่ไม่งานoverload เพื่อให้เป็นแพทย์หลักที่ดูแลผู้ป่วย วางให้ครอบคลุมทุกตำบล ทุกอำเภอ หากเกินความสามารถก็ส่งต่อมาพบแพทย์เฉพาะทาง เช่นนี้โรงพยาบาลใหญ่จึงจะไม่ล้น ต้นทุนการดูแลก็ต่ำกว่า คนไข้ก็มีความสุขเพราะไม่ต้องเดินทางไกล รอทั้งวัน ไปเจอแพทย์เฉพาะทาง 5 นาที

ประเทศไทยผลิต ส่งเสริม และให้คุณค่าแต่กับแพทย์เฉพาะทาง เช่นนี้เป็นระบบการแพทย์ที่หลงทาง ราคาแพง ต้นทุนสูง และในที่สุด สามสิบบาทรักษาทุกที่จะจ่ายไม่ไหว

เราควรหันมาผลิตแพทย์ GP และมีระบบการศึกษาต่อเนื่องให้แพทย์ GP ดำรงความเป็น GP ที่เก่งขึ้นเรื่อยๆได้ โดยมีโรงพยาบาลชุมชนเป็นฐานควบคู่กับเครือข่าย รพ.สต. เป็นระบบบริการปฐมภูมิที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ

สามสิบบาทรักษาทุกที่ หากทุกคนหนีไปหาแพทย์เฉพาะทาง ระยะยาวระบบจะล่ม บริการจะขาดคุณภาพ งบประมาณจะบานจ่ายไม่ไหว ผู้ป่วยจะหนีตายไปโรงพยาบาลเอกชนหรือจ่ายเงินเอง หลักประกันสุขภาพของคนทุกคนก็จะเป็นเพียงวาทกรรม

ผมและชมรมแพทย์ชนบท ขอเสนอต่อรัฐบาลและทุกพรรคการเมือง ให้ปฎิรูประบบการแพทย์ไทยครั้งใหญ่ สร้างระบบการแพทย์ที่แข็งแรงที่มี GP เป็นฐาน แล้วหลักประกันสุขภาพไทยจะยั่งยืน

ถ้าพรรคใด กลุ่มใด สนใจแนวคิดนี้นัดมาได้ ชมรมแพทย์ชนบทพร้อม!!!

#แพทย์ชนบท