ศิลปินเรือไฟแชม์เก่า 3 สมัยประกาศทวงบัลลังก์คืน พลิกวิกฤติน้ำโขงขึ้นสูงเป็นโอกาสส่งไม้ไผ่ย่นเวลาสร้างเรือไฟเร็วขึ้น รับงานเทศกาลวันออกพรรษา ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-18 ตุลาคมนี้

งานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2567 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-18 ตุลาคม 2567 (ขึ้น 8 ค่ำ -แรม 1 ค่ำ เดือน 11) รวม 9 วัน 9 คืน ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม และบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ปีนี้นอกจากมีการประกวดเรือไฟประเภทสวยงาม และประเภทความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกระทงสายหรือไข่พญานาคนับหมื่นดวงแล้ว ยังมีการจัดเรือไฟโชว์ 4 ลำ ได้แก่ เรือไฟของ อบจ.นครพนม, เทศบาลเมืองนครพนม, ที่ทำการปกครองจังหวัดนครพนม และเรือไฟของมหาวิทยาลัยนครพนม และอาจจะมีเรือไฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมแจมอีกหนึ่งลำ โดยจะมีการปล่อยไหลเรือไฟโชว์คืนละ 3 ลำ ตั้งแต่คืนวันที่ 10-16 ตุลาคม เว้นเฉพาะคืนวันที่ 17 ตุลาคม  และคืนวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของงาน

ทั้งนี้การปล่อยไหลเรือไฟโชว์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาชมงาน ได้เห็นการไหลเรือไฟทุกคืน เป็นการสร้างสีสันความน่าสนใจ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวนครพนมได้มากขึ้น ส่วนคืนวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ถือเป็นไฮไลท์ของงาน มีการประกวดเรือไฟชิงถ้วยพระราชทาน ประเภทสวยงามและประเภทความคิด จำนวน 12 ลำ จาก 12 อำเภอ

ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ในพื้นที่ จ.นครพนม มีฝนตกชุกเกือบทุกวัน ประกอบกับทางภาคเหนือของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ถูกพายุไต้ฝุ่นยางิถล่มหนัก จนเกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ ทำให้มีมวลน้ำไหลลงในแม่น้ำโขง หลายจังหวัดภาคอีสาน เช่น เลย,หนองคาย,บึงกาฬ จึงประสบอุทกภัยน้ำท่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในส่วนของ จ.นครพนม มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 300 หลังคาเรือน จะมีปัญหาหนักเฉพาะเรือกสวนไร่นาของเกษตรกรราว 5 หมื่นกว่าไร่  

ในขณะเดียวกันระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้นสูง กลายเป็นผลดีต่อการสร้างเรือไฟริมแม่น้ำโขง โดยนายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม กล่าวในตอนหนึ่งของวันที่มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ฯ ที่หอประชุมขวัญนคร อบจ.นครพนม ว่า ปีนี้ทำเรือไฟขึ้นโครงเร็วเพราะน้ำขึ้นสูง เวลาส่งไม้ไผ่จากบนฝั่ง ก็ถึงมือคนที่อยู่ในริมเลย กลายเป็นความโชคดีของศิลปินเรือไฟ ที่เอาวิกฤตเป็นโอกาส และปีนี้งานไหลเรือไฟยิ่งใหญ่แน่นอน เพราะหลายภาคส่วนช่วยกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ

ด้าน นายไพโรจน์ พิมพ์ขันธ์ อายุ 58 ปี กำนัน ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งเป็นศิลปินเรือไฟของ อ.นาแก ตั้งซุ้มอยู่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีมีปริมาณน้ำโขงเพิ่มขึ้นสูง มีทั้งดีและเสีย คำว่าดีคือการยื่นไม้ยื่นอะไรมันง่าย เพราะมันใกล้กับขอบตลิ่ง ที่ไม่ดีก็คือแต่ก่อนการทำเรือไฟ จะต้องทำห้องน้ำอยู่ข้างล่าง ปีนี้น้ำขึ้นไม่มีที่ทำห้องน้ำ เวลาปวดหนักปวดเบาต้องไปอาศัยปั๊มน้ำมันอย่างเดียว แต่ดีในการส่งไม้ไผ่ได้ในระยะใกล้ ทำให้การสร้างเร็วขึ้น จากเดิมต้องใช้เวลา 15-20 วันในการสร้าง แต่ระดับน้ำขึ้นสูงก็ย่นระยะเหลือประมาณ 12 วันเท่านั้น

กำนันไพโรจน์กล่าวต่อว่า เรือไฟ อ.นาแก ส่งประกวดในประเภทความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้ไม้ไผ่ขนาดใหญ่ 500 ลำ ลำเล็ก 3,500 ลำ รวมเป็น 4,000 ลำ ใช้ตะเกียงประดับลวดลาย 13,000 ดวง ปีที่แล้ว (2566) พลาดได้อันดับสอง ทั้งที่ครองแชมป์ติดต่อกันถึง 3 สมัย ปีนี้ขอทวงบัลลังก์คืน

อนึ่ง งานประเพณีไหลเรือไฟ ประจำปี 2567 นอกจากมีเรือไฟส่งเข้าประกวด 12 ลำ 12 อำเภอแล้ว ยังมีเรือไฟโบราณ จำนวน 13 ลำ สำหรับคนเกิด 12 ปีนักษัตร และ 1 ลำสำหรับคนที่จำปีเกิดไม่ได้ กระทงสายประมาณ 30,000 ดวง การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น สินค้า OTOP รวมถึงคาราวานสินค้า การแสดงแสงสีเสียง แข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน งานพาแลง(อาหารเย็น)ริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นต้น