วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปพิเศษ : Vero เผยคนรุ่นใหม่มองอนาคตประเทศไทยสดใส  แม้เผชิญความท้าทายในด้านการศึกษาและการจ้างงาน

สกู๊ปพิเศษ : Vero เผยคนรุ่นใหม่มองอนาคตประเทศไทยสดใส แม้เผชิญความท้าทายในด้านการศึกษาและการจ้างงาน

วันพฤหัสบดี ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : สกู๊ปพิเศษ Vero
  •  

ผลการศึกษาล่าสุดโดย Vero Advocacy และ Kadence International ชี้ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ไทยมากกว่า 4 ใน 5 คน (89%) มองอนาคตของประเทศในอีก5 ปีข้างหน้าในแง่บวก อย่างไรก็ตามความหวังนี้มาพร้อมกับความท้าทายสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อผลักดันความฝันของพวกเขาให้กลายเป็นจริง

Vero Advocacy บริษัทที่ปรึกษาด้านนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ และ Kadence International บริษัทวิจัยการตลาดระดับโลก มีเป้าหมายในการศึกษามุมมองของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีร่วมกันในภูมิภาคและสำรวจความหวัง ความใฝ่ฝัน และความท้าทายของพวกเขาต่ออนาคต การศึกษาครั้งนี้ได้สำรวจความคิดเห็นของกลุ่ม Gen Z และ Millennials กว่า 2,700 คนจาก 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศไทย 452 คน การศึกษาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การวางแนวทางให้ภาครัฐและเอกชนสามารถพัฒนานโยบายและโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของปัจจุบัน เพื่อผลักดันไปสู่การเจริญเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว


หมายเหตุ: Gen Z คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่าง พ.ศ. 2540-2555 หรือ ค.ศ.1997-2012 ในขณะที่ Millennials หรือ Generation Y คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2523-2540 หรือ ค.ศ.1981-1996

ผลการสำรวจพบว่า 42% ของผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่ม Gen Z คาดหวังว่าชีวิตในอนาคตจะ “ดีขึ้นมาก” และอีก 47% คาดว่าชีวิตของพวกเขาจะ “ดีขึ้น” ซึ่งสูงกว่าคำตอบ
ในประเด็นเดียวกันของกลุ่ม Millennials ที่รวมอยู่ที่ 85% ในขณะเดียวกันค่าเฉลี่ยของผู้ตอบ Gen Z จากประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคก็แสดงให้เห็นถึงความหวังในแง่บวกที่แตกต่างกันไป ได้แก่ อินโดนีเซีย (87%) มาเลเซีย (85%) ฟิลิปปินส์ (85%) สิงคโปร์ (74%) และเวียดนาม (90%)

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Gen Z และ Millennials ในประเทศไทยต่างระบุว่า โอกาสในการทำงานและคุณภาพการศึกษาเป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุด รวมไปถึงความกังวลในด้านการเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสม ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในทุกประเทศที่ทำการสำรวจ นอกจากนี้ ยังพบความกังวลในประเด็นอื่นๆ อาทิ การปกป้องสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงการดูแลสุขภาพ และการจัดการระบบภาษีและทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ

เยาวชนไทยจำนวนมากกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในการประกอบอาชีพ ผลสำรวจพบว่า 63% ของกลุ่ม Gen Z และ 69% ของกลุ่ม Millennials ยกประเด็นการจ้างงาน
เป็นความท้าทายอันดับหนึ่ง เช่นเดียวกับความพึงพอใจต่อนโยบายด้านการจ้างงานที่ได้รับคะแนนต่ำที่สุดในบรรดานโยบายทุกด้าน คนรุ่นใหม่ทั้งสองกลุ่มมองว่าโอกาสในการทำงานที่มีจำกัดและการแข่งขันที่สูงเป็นอุปสรรคสำคัญพวกเขายังต้องการให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มโอกาสในการจ้างงานสำหรับคนรุ่นใหม่ การเข้าถึงงานที่มั่นคงเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่การมีชีวิตที่มั่นคง เนื่องจากเป็นปัจจัยที่เอื้อให้สามารถเข้าถึงบริการจำเป็นพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพที่อยู่อาศัย และการศึกษา พวกเขาเรียกร้องให้มีการพัฒนาบริการด้านการจ้างงานที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น อาทิ การให้คำปรึกษาด้านการประกอบอาชีพการจัดโครงการจัดหาและย้ายสายงานแบบครบวงจร ตลอดจนการเพิ่มการสนับสนุนด้านการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ พวกเขายังเรียกร้องให้มีการริเริ่มโครงการด้านการศึกษาและการฝึกอบรมพนักงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง เพื่อสร้างอาชีพที่ยั่งยืนในระยะยาว

แม้ว่าประเทศไทยจะมีนโยบายเรียนฟรีตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษาแบบครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ รวมถึงการอุดหนุนค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน และค่าชุดนักเรียน แต่ผลสำรวจกลับพบว่า 69% ของกลุ่ม Gen Z และ 66% ของกลุ่ม Millennials ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพการศึกษาอยู่

กระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงถึง 328,000 ล้านบาทในปี 2567 และจากรายงานของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI พบว่านโยบายดังกล่าวประสบความสำเร็จในการลดช่องว่างทางการศึกษาระหว่างพื้นที่ชนบทและเมืองได้จริง อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามให้คะแนนความพึงพอใจต่อนโยบายการศึกษาในประเทศไทยเพียง 54% เท่านั้น แม้จะเป็นคะแนนที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้ปรับปรุงและพัฒนาอีกมาก ข้อจำกัดในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อโอกาสของคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาทักษะและความสามารถที่จำเป็นต่อการแข่งขันในตลาดแรงงาน ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้างความมั่นคงในชีวิต ผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อเสนอแนะว่า การปรับปรุงระบบการศึกษาควรดำเนินการในหลายมิติ เช่น การทบทวนและปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษาและเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาในองค์รวมและเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนสามารถรับมือกับความท้าทายของโลกการทำงานยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

45% ของกลุ่ม Gen Z และ Millennials มองประเด็นเรื่องที่อยู่อาศัยที่เข้าถึงได้เป็นความท้าทายลำดับต้นๆแม้ว่าผลสำรวจจะแสดงให้เห็นว่า 53% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยพึงพอใจกับนโยบายที่อยู่อาศัยในปัจจุบันซึ่งนับเป็นอัตราความพึงพอใจที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับคนรุ่นใหม่ในประเทศที่มีการสำรวจทั้งหมด แต่ความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนที่อยู่อาศัยในทำเลที่เข้าถึงได้ยังคงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ปัญหานี้ส่งผลกระทบในวงกว้าง เนื่องจากการมีที่อยู่อาศัยในทำเลที่เหมาะสมนั้นเชื่อมโยงโดยตรงกับการเข้าถึงโอกาสในการทำงาน การศึกษา การเข้ารับบริการด้านสุขภาพ และบริการพื้นฐานที่จำเป็น อื่นๆ

จากรายงานของสำนักข่าวเดอะเนชั่น ระบุว่า ผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่จำนวนมากหันมาเช่าแทนการซื้อที่อยู่อาศัย และมีแนวโน้มขยับแผนการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปเรื่อยๆ เกิดเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เรียกว่า “Generation Rent” ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ความต้องการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยถูกลดความสำคัญลงในหมู่คนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก

ผู้ตอบแบบสอบถามได้เสนอแนะให้เร่งผลักดันความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อเพิ่มจำนวนที่อยู่อาศัยที่เข้าถึงได้ให้มากยิ่งขึ้น โดยเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนของที่อยู่อาศัยยกระดับคุณภาพโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่รอบนอกเมือง และนำไปสู่การออกแบบมาตรการเงินอุดหนุนที่ตรงกลุ่มเป้าหมายสำหรับครอบครัวผู้มีรายได้น้อย ส่งผลให้ทั้งการซื้อและการเช่าที่อยู่อาศัยเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่

“การจ้างงาน การศึกษา และที่อยู่อาศัยคือความท้าทายเร่งด่วนของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนความมั่นคงในชีวิต แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคมโดยรวม” พงศ์ศิริ ภูรินธนโชติ หนึ่งในหุ้นส่วนผู้จัดการของ Vero Advocacy อธิบาย“คนรุ่นใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของภูมิภาคการแก้ไขความท้าทายเหล่านี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งต่อการปลดล็อกศักยภาพของพวกเขาและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทั้งยั่งยืนและครอบคลุม”

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Vero Advocacy ตระหนักถึงความสำคัญของการเชื่อมประสานระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ กับภาคเอกชน และภาครัฐ Vero Advocacy ได้ตระหนักถึงความกังวลของคนรุ่นใหม่ และพร้อมผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมและการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพจากทั้งสองภาคส่วน เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายและโครงการที่ยั่งยืนและตรงกับความต้องการของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการผลักดันโครงการที่มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพสร้างโอกาสในการจ้างงาน และพัฒนาระบบที่อยู่อาศัยให้มีราคาที่เข้าถึงได้ การให้ความสำคัญกับประเด็นพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศทางสังคมที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพและความก้าวหน้าในชีวิตของคนรุ่นใหม่

การเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการเสวนาเชิงนโยบายและกระบวนการตัดสินใจถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรแสวงหาและให้ความสำคัญกับมุมมองและความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ในการกำหนดนโยบายที่จะส่งผลต่ออนาคตของพวกเขาโดยตรง

การจัดให้มีเวทีหรือพื้นที่เฉพาะสำหรับคนรุ่นใหม่ในการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระเป็นสิ่งจำเป็น พื้นที่เหล่านี้ควรส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์และ
เปิดกว้าง เพื่อกระตุ้นให้เกิดแนวคิดใหม่ๆและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ

ภาคเอกชนควรพัฒนาโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและความเชี่ยวชาญที่พวกเขามีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การสนับสนุนทั้งด้านเงินทุนและองค์ความรู้จะช่วยบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และทักษะทางธุรกิจอันจะนำไปสู่การสร้างผู้นำและนวัตกรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ

องค์กรภาคเอกชนควรบูรณาการแนวคิดการพัฒนาคนรุ่นใหม่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยมุ่งเน้นการริเริ่มโครงการที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและแก้ไขประเด็นทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อคนรุ่นใหม่โดยตรง แนวทางนี้จะช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาสังคมที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างตรงจุด

“การศึกษาครั้งนี้เผยให้เห็นถึงความท้าทายสำคัญที่กลุ่ม Gen Z และ Millennials กำลังเผชิญ และสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง เพื่อเพิ่มโอกาสและการเข้าถึงบริการต่างๆ ของคนรุ่นใหม่ การแก้ไขความท้าทายเหล่านี้อย่างทั่วถึงจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของคนรุ่นใหม่อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งวางรากฐานอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับคนทุกช่วงวัย” Ashutosh Awasthi, ผู้อำนวยการ Kadence International กล่าว

ด้าน ณัฐพร บัวมหะกุล หนึ่งในหุ้นส่วนผู้จัดการของ Vero Advocacy กล่าวเสริมว่า “กลุ่มคนรุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาคจึงเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายที่จะต้องเข้าใจและตอบสนองต่อความใฝ่ฝันของคนรุ่นใหม่ ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสให้พวกเขาอย่างเต็มที่ เพราะอนาคตของพวกเราทุกคนล้วนขึ้นอยู่กับการเสริมสร้างศักยภาพของคนรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น”

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปพิเศษ : สสส.สานพลังภาคีเครือข่าย รณรงค์ต้านยาเสพติด สกู๊ปพิเศษ : สสส.สานพลังภาคีเครือข่าย รณรงค์ต้านยาเสพติด
  • สกู๊ปพิเศษ : จุดพลังเยาวชนอาเซียน ดึง AI เปิดค่าย ‘AYC 2025’ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมสู่โลกอนาคตที่ยั่งยืน สกู๊ปพิเศษ : จุดพลังเยาวชนอาเซียน ดึง AI เปิดค่าย ‘AYC 2025’ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมสู่โลกอนาคตที่ยั่งยืน
  • สกู๊ปพิเศษ : รู้ทันอนาคต! เตรียมเปิด ‘FUTURIUM’ ศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมแห่งอนาคต - ทดสอบด้านอาชีพ สกู๊ปพิเศษ : รู้ทันอนาคต! เตรียมเปิด ‘FUTURIUM’ ศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมแห่งอนาคต - ทดสอบด้านอาชีพ
  • สกู๊ปพิเศษ : กาง 9 มาตรการ ‘รับมือฝน’ ปี 2568 ‘เฝ้าระวัง-คุมเข้ม’ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก สกู๊ปพิเศษ : กาง 9 มาตรการ ‘รับมือฝน’ ปี 2568 ‘เฝ้าระวัง-คุมเข้ม’ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก
  • ยกโมเดล‘หาดบางแสน’ปลอดเหล้า-บุหรี่ สู่การสร้างเครือข่ายตะวันออกบอกรักทะเล ยกโมเดล‘หาดบางแสน’ปลอดเหล้า-บุหรี่ สู่การสร้างเครือข่ายตะวันออกบอกรักทะเล
  • สกู๊ปพิเศษ : กินเที่ยวสุดฟิน@ตะวันออก สัมผัสเสน่ห์การกิน ‘ฉะเชิงเทรา – ชลบุรี’ สกู๊ปพิเศษ : กินเที่ยวสุดฟิน@ตะวันออก สัมผัสเสน่ห์การกิน ‘ฉะเชิงเทรา – ชลบุรี’
  •  

Breaking News

ด่วน! ไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู 'สระบุรี' มีคนติดในอาคารเพียบ

ย้อนรอย 7 ปี '13 หมูป่าติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน' ปาฏิหาริย์ที่โลกไม่ลืม

‘วันนอร์’ยัน‘รองปธ.สภาคนที่ 2’ ไม่ใช่โควตาของพรรคใด คาดไม่เกิน ก.ค.ได้คนใหม่

(คลิป) ซัด! ขี้ข้า 'เพื่อไทย' รักชาติรับไม่ได้ รับได้เฉพาะขายชาติ?

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved