เขมรแห่ข้ามด่านช่องสะงำ กว่า 2,500 คน ซื้อสินค้าตลาดนัดเมืองใหม่ช่องสะงำ เตรียมฉลองวันปีใหม่กัมพูชา “โจลชนัมทเมย” หรือสังกรานต์ วันที่ 14 เมษายน 2568

13 เมษายน 2568 ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ด่านช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในวันนี้เป็นวันเปิดตลาดนัดที่บริเวณตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนกัมพูชาพากันแห่ข้ามแดน เข้ามาหาซื้อสินค้าอุปโภค - บริโภคกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวเขมรจะพากันซื้อสินค้าที่เป็นอาหารจำพวกพืชผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อเตรียมเอาไว้ใช้ในการจัดงาน โจลชนัมทเมย (Choul Chnam Thmey) หรือวันสังกรานต์ (Sangkran) เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินของกัมพูชาในระหว่างวันที่ 14-16 เมษายน 2568

โดยสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยนำมาจำหน่ายที่ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ขายดีเป็นอย่างมาก และสินค้าต่างๆ ขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว โดยพ่อค้าแม่ค้ากัมพูชาจะนำเอาสินค้าขึ้นรถโดยสารที่คอยบริการรับ-ส่ง จากหน้าด่านฯ มายังตลาด ขนกลับและนำเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ด้านเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งทหาร ตำรวจ และส่วนราชการด้านความมั่นคงตรวจตราเข้ม ทุกการเข้า-ออก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเอาสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามาภายในประเทศไทย

ซึ่งในปีนี้ปฏิทินของกัมพูชา โจลชนัมทเมย (Choul Chnam Thmey) หรือวันปีใหม่ ตรงกับวันที่ 14 เมษายน 2568 ซึ่งประเทศกัมพูชา จะมีการจัดเทศกาลขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 เมษายน 2568 จะมีการสรงน้ำพระ และเล่นสังกรานต์ หรือสาดน้ำเหมือนกับชาวไทย ในวันนี้ชาวเขมรรวมทั้งพ่อค้าแม่ค้ากว่า 2,500 คน เดินทางพากันมาหาซื้อสินค้าเพื่อเตรียมนำเอาไปขายยังฝั่งกัมพูชา และเพื่อใช้ในการจั ดงานเฉลิมฉลอง วันขึ้นปีใหม่ของกัมพูชา

พ.ต.ท. กันตภณ หนองเหล็ก สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และประเทศไทยมีวันหยุดยาว แรงงานต่างด้าว จาก สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา ที่เดินทางเข้า-ออกอย่างถูกกฎหมาย จะได้เวลาผ่อนผัน ช่วง 1 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2568 โดยแรงงานที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง สามารถเดินทางออกและกลับเข้ามาในไทยได้โดยไม่ต้องขอ Re-Entry Permit แต่หากเดินทางกลับเข้ามาหลังจากวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 จะต้องดำเนินการขออนุญาตใหม่ตามปกติ การผ่อนผันนี้เป็นการสนับสนุนความสัมพันธ์แรงงานระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับแรงงานที่ต้องการกลับไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้กับแรงงานข้ามชาติที่จะกลับมาทำงานในไทยอีกครั้งในอนาคต

.012