จากกรณี "บีเบล ไอยา ยืนยงหัตถภรณ์" สาวยูทูเบอร์คนดังวัย 26 ปี ประกาศว่าเธอตั้งครรภ์ พร้อมรับบทแม่เลี้ยงเดี่ยว เนื่องจากฝ่ายชายไม่มีพร้อมที่จะรับบทบาทเป็นพ่อของลูก รวมถึงพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ยอมช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมขอให้เอฟซีทุกคนไม่พูดถึงอดีตคนรักท่านนี้อีก เพราะตนอยากเดินต่อไปโดยโฟกัสที่ความสุขของตัวเองและลูก

ฝั่งชาวเน็ตจึงมุ่งเป้าไปที่ “ตี๋” หรือ ทีเค ธนกฤต ทรัพย์ทวีวศิน อดีตศิลปินฝึกหัดค่าย Mchoice Music ว่าเป็นพ่อของเด็กหรือไม่ เนื่องจากวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา (1 วันก่อนที่บีเบลจะประกาศเรื่องท้อง) ทีเคประกาศถอนตัวจากค่าย เพราะเหตุผลส่วนตัว และต้องการแสดงความรับผิดชอบอย่างเร่งด่วน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง ยูทูบเบอร์ดัง'บีเบล'ประกาศเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ชาวเน็ตตามล่าพ่อเด็กแห่โยงเด็กฝึกค่ายดัง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ด้าน “ทีเค-ธนกฤต ทรัพย์ทวีวศิน” ได้ออกมาโพสต์บนอินสตาแกรมชี้แจงดราม่าที่เกิดขึ้นระบุว่า “ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจและต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะครับ ถึงลูกรัก พ่ออยากให้ลูกรู้ว่าพ่อจะรักลูกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครอบครัวเราพร้อมอ้าแขนต้อนรับลูกเสมอ รอที่จะได้เจอลูกไม่ไหวแล้ว” 

นอกจากนี้ยังมีข้อความเล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมดว่า “ผมต้องขอโทษทุกฝ่ายที่ได้ออกมาชี้แจงล่าช้า จนทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในบางประเด็น ผมขอชี้แจงในส่วนของผม แต่ละประเด็นดังนี้ครับ”

1. ผมและฝ่ายหญิงได้รู้จักกันในฐานะเพื่อนมาประมาณ 1 ปี ก่อนพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนรัก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 รวมเป็นเวลาประมาณ 5 เดือน ที่ได้คบกันในสถานะคนรัก

2. เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ผมและฝ่ายหญิงได้ทดสอบ และทราบผลการตั้งครรภ์พร้อมกัน ผมเชื่อในเบื้องต้นว่าเป็นลูกของผม ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรา 2 คนได้มีการวางแผนเรื่องการเลี้ยงดูเด็กที่จะเกิดมาด้วยกันมาโดยตลอด

ในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ผมอยู่เคียงข้างฝ่ายหญิงและดูแลฝ่ายหญิงอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการพาไปพบคุณหมอเพื่อฝากครรภ์ ตรวจเลือด อัลตราซาวด์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ผมเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด นอกจากนี้ผมได้เสนอทางเลือกให้ฝ่ายหญิงเข้ามาอยู่ที่บ้านของผม เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันและวางแผนสร้างครอบครัวด้วยกันอย่างจริงจัง

3. หลังจากทราบเรื่องเรา 2 คนได้ใช้ชีวิตร่วมกัน และวางแผนครอบครัวด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม ผมและฝ่ายหญิงมีทัศนคติที่ไม่ตรงกันในหลาย ๆ เรื่องทำให้เกิดความขัดแย้งกันอยู่บ่อยครั้ง

จนเมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา เราทั้ง 2 คน ตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์ และฝ่ายหญิงเลือกที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งตั้งแต่แรกผมไม่ได้มีเจตนาให้เหตุการณ์ดำเนินไปในลักษณะนี้ และได้พยายามเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันหลายครั้ง แต่ฝ่ายหญิงยังคงยืนยันคำเดิม ทำให้พวกเราทั้ง 2 คนตัดสินใจที่จะแยกกันอยู่ตั้งแต่นั้นมา

4. แม้จะยุติความสัมพันธ์กันแล้ว ผมยังขอยืนยันว่า “ผมยินดีที่จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างสุดความสามารถของผม”

5. โดยที่ผ่านมา ครอบครัวของเราทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม จนถึงวันที่ 5 พฤษภาคม และทางครอบครัวของฝ่ายหญิงได้เสนอรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว ตั้งแต่ค่าฝากครรภ์ ค่าคลอด ค่าที่พักอาศัยของแม่และเด็ก ไปจนถึงค่าเล่าเรียนจนจบการศึกษาเป็นเงินจำนวนหนึ่ง

โดยข้อเสนอทั้งหมดข้างต้นผมไม่มีโอกาสและไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องการเลี้ยงดูเด็กเลย ทำให้ไม่สามารถตอบรับข้อเสนอทั้งหมดได้ในทันที และยังอยู่ระหว่างการปรึกษากันเพื่อให้เกิดผลดีที่สุดกับทุกฝ่าย และเกิดผลกระทบกับแม่และเด็กให้น้อยที่สุด

6. สำหรับคำพูดในคลิปที่ฝ่ายหญิงกล่าวถึงพ่อของผมประมาณว่า “ไม่มีอะไรจะต้องคุยแล้ว” และไม่ได้ตอบกลับนั้น ต้องขอชี้แจงว่าคำพูดนั้น หมายถึงหากจะคุยเรื่องข้อเสนอที่มีการเรียกร้องเกินสมควร ทางครอบครัวยังไม่สามารถที่จะตอบรับข้อเสนอนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น (ข้อเสนอส่งมาเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม และให้ตอบรับภายในวันที่ 5 พฤษภาคม)

รวมถึงจากข้อเสนอที่กล่าวมานั้นมีความผูกพันที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งตัวผม ฝ่ายหญิงและเด็กในระยะยาว จึงทำให้ต้องมีการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน และยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่างรวดเร็วในการตอบรับข้อเสนอของค่าใช้จ่ายในอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบแต่อย่างใด

7. ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องระหว่างตัวผมกับฝ่ายหญิงเท่านั้น และ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างบรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งผมเห็นควรว่าตัวผมและฝ่ายหญิงต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการเลี้ยงดูเด็กที่จะเกิดมาด้วยความสามารถของเราทั้งสองเอง

สุดท้ายนี้ ผมขอน้อมรับทุกความคิดเห็นและขอบคุณทุกกำลังใจ ผมขอยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมได้มีการแสดงความรับผิดชอบต่อทั้งฝ่ายหญิงและเด็กด้วยความเต็มใจมาโดยตลอด ผมยินดีที่จะมีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูเด็กและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ร่วมกันตามความสามารถของผม