วันพุธ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
อธิบายชัดๆ! เปิด‘ธรรมนูญ’ศาลโลก ‘เขมร’ร้องให้ตาย ‘ไทย’ไม่ยินยอมก็‘ไร้ผล

อธิบายชัดๆ! เปิด‘ธรรมนูญ’ศาลโลก ‘เขมร’ร้องให้ตาย ‘ไทย’ไม่ยินยอมก็‘ไร้ผล

วันจันทร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 17.56 น.
Tag : ช่องบก อุบลราชธานี ทหารไทยปะทะเขมร ฮุนเซน ศาลโลก
  •  

อธิบายชัดๆ! เปิด‘ธรรมนูญ’ศาลโลก ‘เขมร’ร้องให้ตาย ‘ไทย’ไม่ยินยอมก็‘ไร้ผล

2 มิถุนายน 2568 เพจเฟซบุ๊ก thaiarmedforce.com อธิบายถึงกรณี ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต ผู้นำ “กัมพูชา” เตรียมนำเรื่องพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นศาลโลก และท้าทายให้ฝ่ายไทยไปขึ้นศาล ระบุว่า...


ไทยไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่อง #ศาลโลก ใด ๆ ทั้งสิ้น

ไม่ว่ากัมพูชาจะพูดอย่างไร จะบอกว่าจะฟ้องศาลโลกบ้าง บอกว่าจะนำเรื่องเข้า JBC เพื่อเข้าสู่ศาลโลกบ้าง บอกว่าจะทำโน่นทำนี่เพื่อฟ้องคดีในศาลโลก ทุกอย่าง "ไม่มีผลใด ๆ กับไทย" ถ้า "ไทยไม่ยินยอม"

แม้มาตรา 93 ของกฎบัตรสหประชาชาติจะระบุว่าสมาชิกสหประชาชาติทุกประเทศเป็นสมาชิกของธรรมนูญศาลโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกประเทศต้องขึ้นศาลโลกถ้ามีใครนำคดีไปฟ้อง เพราะการจะขึ้นศาลโลกได้มีหลายวิธีคือ

1. ต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความทั้งสอง (Consent-based Jurisdiction)

หมายถึงทั้งสองฝ่ายยินยอมที่จะนำคดีใดคดีหนึ่งเข้าสู่ศาลโลก ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งในกรณีนี้ถ้าไทยไม่ยินยอมก็ไม่สามารถพิจารณาคดีได้

2. การประกาศยอมรับอำนาจศาลผ่านมาตรา 36 วงเล็บ 2 ของธรรมนูญศาลโลก

ซึ่งระบุว่าสมาชิกของธรรมนูญศาลโลก (หมายถึงทุกประเทศที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติและอื่น ๆ ที่เลือกยอมรับศาลโลก) สามารถประกาศการยอมรับอำนาจศาลภาคบังคับได้ ซึ่งมีบางประเทศก็เลือกประกาศยอมรับอำนาจศาลภาคบังคับ ซึ่งไทยถอนคำยินยอมออกไปแล้วหลังคดีปราสาทพระวิหาร

3. การยอมรับอำนาจศาลแบบจำกัด

โดยประเทศต่าง ๆ สามารถยอมรับอำนาจศาลแบบจำกัดเฉพาะบางคดีหรือบางเรื่องได้ ซึ่งแล้วแต่แต่ละประเทศจะพิจารณา แต่ไทยไม่ได้ยอมรับเลยสักเรื่อง

4. การยอมรับอำนาจศาลเฉพาะคดี

ประเทศต่าง ๆ สามารถเลือกเฉพาะบางคดีหรือข้อขัดแย้ง และยอมรับอำนาจศาลโลกเพื่อให้ศาลโลกมีอำนาจตัดสินเฉพาะคดีนั้น ๆ ไม่เกี่ยวกับคดีอื่นได้ ซึ่งหลังคดีปราสาทพระวิหารไทยก็ไม่ได้ยอมรับเลยสักคดี

5. การขึ้นศาลโลกตามที่สนธิสัญญาระหว่างประเทศกำหนด

ซึ่งสนธิสัญญาระหว่างประเทศหลายสนธิสัญญาจะมีข้อกำหนดว่าถ้ามีความขัดแย้งให้นำความขัดแย้งนั้นขึ้นไปสู่ศาลโลกเพื่อตัดสิน สนธิสัญญาเหล่านั้นก็เช่น อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อนุสัญญาว่าด้วยการปราบปรามความผิดต่อความปลอดภัยของอากาศยาน อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ฯลฯ ซึ่งถ้าไทยเป็นรัฐภาคีหรือให้สัตยาบันในสนธิสัญญาใดก็ต้องขึ้นศาลโลกแค่เฉพาะคดีที่เกี่ยวกับสนธิสัญญานั้น ยกเว้นไทยตั้งข้อสงวนเอาไว้

//////////////////////

ทั้งนี้ พิจารณาจากท่าทีของไทยหลังกรณีปราสาทพระวิหาร ไทยไม่เคยมีท่าทียอมรับหรือต้องการรับอำนาจของศาลโลกไม่ว่ากรณีใด ๆ ตรงนี้สืบค้นได้จากมติคณะรัฐมนตรีของไทยที่เวลาที่เข้าเป็นรัฐภาคีในสนธิสัญญาระหว่างประเทศใด มักจะกำหนดและตั้งข้อสงวนในการไม่รับอำนาจของศาลโลกทุกครั้ง เช่น

1. การเป็นภาคีของอนุสัญญาระหว่างประเทศเพื่อการปราบปรามการวางระเบิดเพื่อการก่อการร้าย ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้กำหนดเมื่อปี 2558 ว่าให้จัดทำข้อสงวนว่าไทยจะไม่ผูกพันตามข้อ 20 วรรค 1 ของอนุสัญญา ฯ  ซึ่งกำหนดให้รัฐภาคีระงับข้อพิพาทกัน  โดยอนุญาโตตุลาการ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

2. การเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองทางกายภาพของวัสดุนิวเคลียร์และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้กำหนดเมื่อปี 2561 ว่าไทยจะไม่รับกระบวนการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการและการเสนอเรื่องสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

3. การเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ ซึ่งนำมาสู่การออก พ.ร.บ.อุ้มหายที่สามารถลงโทษทหารเกณฑ์ที่ถูกซ้อมจนตายได้แล้วเป็นคดีแรก แต่คณะรัฐมนตรีก็ยังมีมติเมื่อปี 2567 ซึ่งวางหลักไว้ว่าให้ทุกส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดว่า ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องจัดทำหนังสือสัญญา ซึ่งมีข้อบทให้อำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice : ICJ) มีเขตอำนาจเหนือข้อพิพาทตามหนังสือสัญญานั้น ให้จัดทำข้อสงวนไม่รับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไว้ทุกเรื่อง เพื่อมิให้กระทบต่ออำนาจอธิปไตยของชาติ

คิดดูว่าแค่การเป็นภาคีของสนธิสัญญาระหว่างประเทศเฉพาะเรื่อง ไทยยังตั้งข้อสงวนทุกครั้งที่จะไม่ยอมขึ้นศาลโลก ซึ่งแปลว่าไทย "เข็ด" แล้วกับการต้องไปศาลโลก

////////////////////////

อนึ่ง กรณีปราสาทพระวิหารนั้นต่างออกไป เพราะไทยยอมรับอำนาจศาลโลกแล้วในคดีนั้น และเมื่อคดีตัดสินแล้ว คำพิพากษามีผลต่อเนื่อง ดังนั้นในปี 2554 ที่กัมพูชายื่นตีความคำพิพากษาในคดีเก่านี้ ไทยจึงจำเป็นต้องไปขึ้นศาลโลก เพราะถ้าไทยไม่ไปขึ้นศาลโลก ศาลอาจพิจารณาความจากกัมพูชาเพียงฝั่งเดียวได้ และในอนาคตถ้ามีการยื่นตีความในคดีนี้อีก ไทยก็ควรต้องไปขึ้นศาลอีกเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน แต่เป็นเฉพาะกรณีคดีนี้เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคดีอื่นใด

ดังนั้นกล่าวโดยสรุปคือ การประกาศของใครในกัมพูชาว่าจะฟ้องศาลโลกหรืออะไรพวกนี้ "เป็นสิ่งที่ไทยไม่ต้องสนใจ" เพราะกัมพูชาไม่มีอำนาจพาไทยขึ้นสู่ศาลโลกถ้าไทยไม่ยอม ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีหลักฐานใด ๆ โดยสิ้นเชิงว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานใดของไทยจะยอมให้มีคดีไหนขึ้นสู่ศาลโลก

ดังนั้นในกรณีนี้ เมื่อเข้าสู่การประชุม JBC ไทยก็แค่แจ้งในที่ประชุมและบันทึกในรายงานการประชุมว่า "ไทยไม่ยินยอมรับเขตอำนาจศาลในกรณีนี้และกรณีไหน" เท่านี้ก็จบแล้ว

ถ้าจะให้เหตุผลก็คือ การมีอยู่ของ #MOU43 ได้กำหนดกลไกในการปักปันและแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาไว้อยู่แล้ว และกลไกนั้นยังทำงานได้ถ้าเพียงแต่กัมพูชาเคารพกลไกที่ตนเองลงนามไว้เอง ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องไปพึ่งกลไกอื่นเช่นศาลโลก

ส่วนถ้านักการเมืองกัมพูชาจะโพสโวยวายอะไร ก็ปล่อยเขาไป เพราะการโพสฝ่ายเดียวแบบนี้ไม่มีผลใด ๆ ทางกฎหมายทั้งสิ้นครับ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนสัมพันธ์คู่พ่อลูก‘ชิน-ฮุน’ บนปมร้อน‘พิพาท’ชายแดนกับเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ย้อนสัมพันธ์คู่พ่อลูก‘ชิน-ฮุน’ บนปมร้อน‘พิพาท’ชายแดนกับเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
  • รู้จัก‘คูเลต’! ทหารกัมพูชาระดมขุดที่‘ช่องบก’ เจตนายึดพื้นที่-คาดเตรียมสู้รบ รู้จัก‘คูเลต’! ทหารกัมพูชาระดมขุดที่‘ช่องบก’ เจตนายึดพื้นที่-คาดเตรียมสู้รบ
  • บทเหยื่อปลอมบนชายแดน เกมเดิมของ‘ฮุน เซน’กับการปะทะ‘ช่องบก’เพื่อเช็คเคลมดินแดน บทเหยื่อปลอมบนชายแดน เกมเดิมของ‘ฮุน เซน’กับการปะทะ‘ช่องบก’เพื่อเช็คเคลมดินแดน
  • เปิดวีรกรรม \'สมรภูมิช่องบก\' ที่เคยเป็นบทพิสูจน์ความกล้าหาญของเหล่าวีรชนทหารไทย เปิดวีรกรรม 'สมรภูมิช่องบก' ที่เคยเป็นบทพิสูจน์ความกล้าหาญของเหล่าวีรชนทหารไทย
  • แวะไปรู้จัก\'ศาลาตรีมุข...สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ 3 ประเทศ\' ที่วันนี้เหลือแต่ซาก แวะไปรู้จัก'ศาลาตรีมุข...สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ 3 ประเทศ' ที่วันนี้เหลือแต่ซาก
  •  

Breaking News

เกือบ 5 หมื่นแล้ว! ให้กำลังใจ'แพทยสภา' 5 มิ.ย. นี้

คลี่‘แถลงการณ์ไทย’ปมขัดแย้งเขมร ‘คำนูณ’ชำแหละ 3 ข้อกระมิดกระเมี้ยนต้องตีความ

รวบคาสุวรรณภูมิ! 'ลู เดวิด'อดีตกรรมการฯ หลังหนีคดีเลี่ยงภาษี 5.2 ล้านบาท

'ซีเจ' คริสทีน จูเลียน โอเปียซา ขึ้นแท่นมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2024

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved