นับตั้งแต่กรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา เรื่องราวของผู้นำกัมพูชา ที่มีอำนาจอย่าง 'สมเด็จฮุน เซน' อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเป็นวงกว้างบนโลกออนไลน์รวมไปถึงผู้ใช้โซเชียลชาวไทย
ล่าสุด มีเรื่องราว "ความรัก" ใน "บางด้าน ซึ่งก็ได้มีการพูดถึงสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วคือ พิสิษฐ์ ปิลิกา (Oak Eap Pili) นักบัลเล่ต์และนักแสดงชื่อดังชาวกัมพูชาที่มีผลงานมากมายในวงการ แต่เป็นน่าเสียดายที่ชีวิตของเธอต้องจบลงก่อนวัยอันควร เมื่อเธอถูกฆาตรกรรมกลางวันแสกๆกลางตลาดในกรุงพนมเปญ สร้างความสะเทือนขวัญให้ชาวกัมพูชาถึงโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีการระบุตัวผู้ต้องสงสัย
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก CSI LA เผยเรื่องราว กรณีของ พิสิษฐ์ ปิลิกา (Oak Eap Pili) เป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมที่สะท้อนถึงด้านมืดของอำนาจและการเมืองในกัมพูชา โดยเขียนไว้ว่า
“ความรักที่แลกด้วยชีวิต” - เรื่องจริงของ พิสิษฐ์ ปิลิกา กับเงามืดของผู้นำกัมพูชา #เลิกรักเมื่อไหร่ ก็ตาย เธอไม่ได้เป็นนักการเมือง ไม่ได้มีอำนาจ ไม่ได้ถือเอกสารลับ แต่เธอถูกฆ่า… เหมือนอาชญากร เธอไม่ได้ทำผิดอะไร แค่ “หลงรัก” ผิดคน
ใครคือพิสิษฐ์ ปิลิกา ? Oak Eap Pili หรือชื่อในวงการว่า พิสิษฐ์ ปิลิกา คือหญิงสาวชาวกัมพูชา เธอเป็นนักบัลเลต์ระดับชาติ เป็นนักแสดงขวัญใจคนทั้งประเทศ มีชื่อเสียง มีความสามารถ และมีแฟนคลับจำนวนมาก แต่เบื้องหลังชื่อเสียงนั้น…เธอมีความลับที่ไม่มีใครควรรู้ เธอคือ “คนรักลับ” ของ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา
ความรัก หรือ กับดัก ? จากบันทึกส่วนตัวของเธอ-ซึ่งถูกเผยแพร่หลังการเสียชีวิต-พิสิษฐ์ เขียนว่า เธอกับฮุน เซนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง “เหมือนสามีภรรยา” เธอหลงรักเขาอย่างบริสุทธิ์ใจ ยอม หย่ากับสามีเก่า เพื่อมอบทั้งชีวิตให้กับเขา เธอได้รับบ้าน รถ เงิน และของขวัญล้ำค่าจากผู้นำ แต่เธอไม่ได้อยาก “ขายตัว” — เธออยาก “รัก” “ฉันรักเขาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน … ฉันรู้สึกเหมือนเป็นภรรยาที่ถูกซ่อน” - ข้อความจากไดอารี่ส่วนตัวของเธอ
จุดแตกหัก - “ห้ามพูดอีก” เดือนเมษายน 1999 ฮุน เซนโทรหาเธออีกครั้ง หลังข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์แพร่กระจายในวงกว้าง ภาพลักษณ์ “คนรักเมีย” ของเขากำลังพังลง
เขาขอให้เธอปฏิเสธทุกอย่าง ห้ามให้สัมภาษณ์ ห้ามพูด ห้ามติดต่อเขาอีก “หัวใจฉันแตกสลาย… ฉันร้องไห้ทุกวัน ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นเหมือนผีเสื้อที่บินเข้ากองไฟ” - ปิลิกา เขียนไว้ในไดอารี่
จากรักกลายเป็นคำสั่ง “ลบเธอออกไป” หลังจากนั้น… บัญชีเงินฝากของเธอกว่า 200,000 ดอลลาร์ ถูกอายัด เธอถอนออกมาได้เพียง 50,000 ดอลลาร์ ก่อนถูกปิดบัญชีอย่างเป็นทางการ บ้านที่เคยอยู่ ถูกยึดกลับ เธอต้องไป “ให้ลายนิ้วมือ” เพื่อยอมคืนทรัพย์สินทุกอย่าง ในสมุดบันทึกเธอเขียนสั้น ๆ ว่า : “ฉันเจ็บปวดจนพูดไม่ออก”
วันสุดท้ายของเธอ 6 กรกฎาคม 1999 กลางวันแสก ๆ ในตลาดโอรุสไซ กรุงพนมเปญ - พิสิษฐ์ พิลิกา กำลังเดินอยู่กับ หลานชายวัยเพียง 7 ขวบ เธอไม่ได้คาดคิดว่า…นั่นจะเป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิต มือปืนสองคน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาใกล้ จากนั้นก็ชักปืนยิง ต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก โดยไม่ลังเล กระสุนเจาะเข้าเต็มศีรษะและหน้าอก จนเธอล้มลงกับพื้น
เสียงกรีดร้องดังลั่นตลาด ผู้คนแตกตื่น หลานชายของเธอยืนร้องไห้ตัวสั่นอยู่ข้าง ๆ ร่างของป้า เธอถูกนำส่งโรงพยาบาลทันที แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส เธอสิ้นใจลงในอีกไม่กี่วันต่อมา - 13 กรกฎาคม 1999
ไม่มีแม้แต่ความยุติธรรมหลังความตาย แม้จะมีพยานจำนวนมาก แม้จะเกิดขึ้นในที่สาธารณะ แม้เธอจะเป็น “บุคคลมีชื่อเสียง” แต่… ไม่มีใครถูกจับ ไม่มีตำรวจคนใดสืบสวนอย่างจริงจัง
ไม่มีอัยการคนใดกล้าเอ่ยชื่อผู้ต้องสงสัย ไม่มีสื่อหลักคนใดกล้าขุดคดีต่อ เรื่องเงียบหาย… เหมือนกระสุนที่ทะลุร่างเธอ ฆ่าแล้วเงียบ
ความโหดร้ายของผู้นำที่ล้างประวัติตัวเองจากเขมรแดง ฮุน เซน เริ่มต้นชีวิตการเมืองจากเขมรแดง วันนี้เขาคือผู้นำที่ล้างมือจากอดีต แล้วสร้างภาพลักษณ์ใหม่ว่าเป็น “พ่อของชาติ”
แต่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยรักเขา กลับถูกฆ่าโดยไม่มีแม้แต่โลงศพที่ได้รับความยุติธรรม
เธอตายไปแล้ว… แต่เรื่องราวของเธอ คือ “คำฟ้อง” ที่ไม่มีวันตาย มันทำให้คนทั้งประเทศเห็นว่า ไม่มีใครปลอดภัย แม้แต่คนที่ “รักผู้นำ” ด้วยหัวใจจริง
ขณะที่ ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2542 หลังจากการฆาตกรรมของ พิสิษฐ์ ปิลิกา นิตยสารฝรั่งเศส (L'Express) อ้างว่า ไดอารี่ของนักแสดงสาว เล่าถึงเรื่องความรักกับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน เซน และชี้ไปที่ บุน รานี ภรรยาของ ฮุน เซน ว่าเป็นผู้รับผิดชอบการวางแผนการ แต่ก็ได้มีการปฏิเสธจากรัฐบาลกัมพูชาในขณะนั้น รวมไปถึง บุน รานี จะฟ้องร้อง (L'Express) ในข้อหาหมิ่นประมาท แม้ว่า นิตยสารฝรั่งเศส (L'Express) ได้ออกมาตอบโต้ว่ามีหลักฐานเพิ่มเติมที่จะนำขึ้นศาลหากดำเนินคดีตามคำขู่ ได้แก่ พยาน เอกสาร เอกสารทางธุรกิจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น 26 ปีผ่านไป สรุปได้ว่าการฆาตรกรรมนี้ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากยังไม่มีการระบุตัวผู้ต้องสงสัยนั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี