"เสี่ยสุวัจน์" แถลงข่าว นครราชสีมาเตรียมจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาประจำปี 2568 สุดยิ่งใหญ่ "แห่เทียนโคราช ศาสตร์ศิลป์ถิ่นย่าโม" 9-11 กรกฎาคมนี้ชิงถ้วยพระราชทาน หวังเป็นพลังขับเคลื่อนวัฒนธรรม Soft Power และส่งเสริมการท่องเที่ยวสู่สากล พร้อมกิจกรรมเวิร์กช็อปแกะสลักเทียน สร้างการมีส่วนร่วมคนรุ่นใหม่

เมื่อวันที่ 4 กรกฏาคม 2568 ที่ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา เทศบาลนครนครราชสีมาร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขานครราชสีมา, วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา, ตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา, คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองนครราชสีมา โดยมีนายสุวัจน์ ลิปพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน “แห่เทียนโคราช ศาสตร์ศิลป์ถิ่นย่าโม” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งกำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณโดยรอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี, สวนเมืองทอง และสวนสุรนารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยมีนายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รอง ผวจ.นครราชสีมา , นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา, นายชัชวาล วงศ์จร รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ประธานจัดงานฯ, นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.ททท.นครราชสีมา และรองศาสตราจารย์ ดร.อดศร เนาวนนท์ อธิการบดี ม.นครราชสีมา, พ.ต.อ.บุญสม อาจหาญ สารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา นักเรียน นักศึกษา กลุ่มสตรีภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมแถลงข่าว โดยได้รับเกียรติจากนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้งาน “แห่เทียนโคราช ศาสตร์ศิลป์ถิ่นย่าโม” ประจำปี 2568 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป ตลอดจน ส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด  โดยในงานมีการประกวดต้นเทียนพรรษา ประเภท ก และประเภท ข ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  อีกทั้ง ยังมีการประกวดต้นเทียนพรรษา ประเภท ค , การประกวดขบวนแห่ ,การแสดงแสง สี เสียง ,การแสดงของขบวนอารยธรรมที่เป็นวิถีท้องถิ่นของโคราช และมีกชบวนการแสดงที่บ่งบอกถึงความเป็นมรดกโลกของผืนป่าเขาใหญ่ ป่าสะแกราช ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ซอฟต์พาวเวอร์และความเป็นมรดกโลกของจังหวัดนครราชสีมาไปด้วย

นายสุวัจน์ ลิปพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การจัดงานนี้ภายใต้ชื่องาน “แห่เทียนโคราช ศาสตร์ศิลป์ถิ่นย่าโม"เป็นงานประเพณีแห่เทียนพรรษาที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ที่ทำให้เมืองโคราช เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเราได้เห็นพลังของคนโคราชที่เป็น Soft Power ในขับเคลื่อนการเติบโตทางวัฒนธรรม การจัดงานประเพณีต่างๆเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ ตัวสำคัญที่จะสร้างชื่อเสียง และเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับจังหวัดนครราชสีมา และที่สำคัญ อย่างยิ่ง ปีนี้เป็นปีที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี มีพระชนมมายุ 70 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2568 เราจะเห็นได้ว่าพระองค์ท่านทรงฟื้นฟู ส่งเสริมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่แผ่นดิน ทรงทุ่มเท ทรงงาน หนักอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งทางเทศบาลฯได้รับพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศการประกวดต้นเทียน พรรษา ประเภท ก และประเภท ข ทุกปี ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของชาวจังหวัดนครรณาชสีมาและทราบว่าทางเทศบาลฯ ได้มีกิจกรรม workshop และสาธิตการแกะสลักเทียนพรรษา โดยช่าง เทียนผู้สืบสานตำนานและเทคนิคจากรุ่นสู่รุ่น จากวัดบูรพาพิมล อำเภอพิมาย เพื่อให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยว ได้เรียนรู้การแกะสลักเทียน การหล่อเทียน การ แกะเทียน การพิมพ์เทียน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นแม่เหล็กอีกอันหนึ่ง ที่จะดึงดูดให้พี่น้องประชาชนทั้งชาว โคราช ชาวไทย และชาวต่างประเทศ ได้มาท่องเที่ยว นอกจากได้ชมเทียนพรรษาสวยๆแล้ว ยังได้ ลองลงมือทำอีกด้วย ดังนั้น เราจึงต้องทำให้คนรุ่นใหม่ รักและศรัทธาในศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ของโคราชและของไทย เพื่อที่จะช่วยกันคิด ช่วยกันผลักดันที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอยากใกล้ชิด วัฒนธรรม อาหารโคราชมีชื่อเสียงดังไปไกลทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวเป็นที่นิยม

“ผมอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ มาท่องเที่ยวถือเป็นงานใหญ่ของ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 10-11 ก.ค. 2568 เที่ยวชมขบวนรถเทียนพรรษาที่ยิงใหญ่รับรองว่า อลังการ วิจิตรตระการตาแน่นอน เป็นการแห่เทียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ และปีนี้เราจะเน้นในการที่จะหยิบของดี หยิบมรดกทางวัฒนธรรม หยิบมรดกของยูเนสโก หยิบอารยธรรม วิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ Lifestyle ของดีเมืองโคราชต่างๆครบ เรียนเชิญพี่น้องประชาชนชาวไทยมาภาคภูมิใจกับศิลปวัฒนธรรมของชาติในงานแห่เทียนประเพณีเข้าพรรษาในครั้งนี้“ นายสุวัจน์ กล่าว