วันจันทร์ ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
เมื่อ‘AI’ตอบได้ทุกอย่าง  ‘คิดเอง’ยังจำเป็นอยู่ไหม?

เมื่อ‘AI’ตอบได้ทุกอย่าง ‘คิดเอง’ยังจำเป็นอยู่ไหม?

วันอาทิตย์ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : ปัญญาประดิษฐ์ เอไอ AI
  •  

ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ไม่ได้เป็นเรื่องของอนาคต แต่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกเพลงที่เราชอบในแอปฟังเพลง คัดเลือกคลิปวีดีโอให้ดูในแอป YouTube หรือ TikTok ช่วยเขียนอีเมล ไปจนถึงตอบแช็ตลูกค้า หรือแม้กระทั่งการช่วยหาคำตอบให้เด็ก ๆ เอาไปส่งการบ้าน ความสามารถแสนฉลาดของ AI กำลังถูกตั้งคำถามครั้งใหญ่ต่อสังคมและระบบการศึกษาทั่วโลกว่า เมื่อ AI ตอบได้ทุกอย่าง แล้วเด็กรุ่นใหม่ยังจำเป็นต้อง “คิดเอง” อยู่ไหม

ประเด็นนี้ถูกหยิบขึ้นมาพูดคุยอย่างจริงจังในเวทีเสวนา “จากเกิดจนโต AI ทำอะไรกับลูกคุณบ้าง?” ในงาน “หุ่นยนต์ไม่กัด : เปิดโลกหุ่นยนต์และ AI แบบสนุก เข้าใจง่าย” ที่จัดโดย สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เปิดพื้นที่ให้ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการมาร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งในแง่ของโอกาสและความท้าทายที่ AI นำมาสู่โลกการศึกษาและการเรียนรู้ของมนุษย์ยุคใหม่


อาจารย์บวรศักดิ์ สกุลเกื้อกูลสุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ FIBO กล่าวถึงพฤติกรรมของเด็กยุคใหม่ที่ทั้งน่าทึ่งแต่ก็น่าตกใจไปพร้อมกัน ว่า เด็กสมัยนี้ไม่ต้องรอให้ใครมาสอนเนื้อหาความรู้แล้ว เขาเปิดแอปถาม ChatGPT ก็ได้คำตอบมาในไม่กี่วินาที ทั้งยังสร้างเนื้อหาได้ สรุปข้อมูลได้ บางคนถึงขั้นใช้วิเคราะห์ได้ดีกว่าผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เด็กดูเหมือนจะฉลาดขึ้นเพราะมีเครื่องมือที่ช่วยตอบคำถามได้ทันที แต่คำถามสำคัญกลับอยู่ที่ว่า พวกเขาได้คิดก่อนที่จะตอบคำถามนั้นหรือเปล่า?

ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปถ้าครูจะพบว่าการบ้านที่เด็กส่งมานั้นมีภาษาและเนื้อหาที่ลึกซึ้งเกินกว่าความเข้าใจที่แสดงออกมาในห้องเรียน ขณะเดียวกัน ครูเองก็เริ่มหันมาใช้ AI เพื่อช่วยในการออกข้อสอบ สร้างบทเรียน หรือแม้กระทั่งตรวจการบ้าน ปรากฏการณ์นี้กำลังทำให้เส้นแบ่งระหว่างการ “ใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมศักยภาพ" กับ “ใช้เทคโนโลยีแทนการใช้สมอง” เริ่มจางลงไป

สิ่งที่น่ากังวลไม่ใช่แค่เรื่องที่เด็กใช้ AI ทำการบ้านให้ แต่คือการที่ AI กำลังทำให้เด็กรุ่นใหม่ขาดทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญหลายอย่างไปโดยไม่รู้ตัว ทักษะสำคัญอย่างการอ่าน การวิเคราะห์ การตั้งคำถาม และการค้นหาคำตอบด้วยตนเอง ล้วนเป็นทักษะที่ต้องอาศัยเวลา ความพยายาม และความอดทน แต่ AI กำลังย่อกระบวนการเหล่านี้ลงเหลือเพียงไม่กี่วินาที ซึ่งแม้จะดูสะดวกสบาย แต่ก็อาจทำให้เด็ก ไม่เห็นคุณค่าของความพยายาม ไม่ได้ฝึกวินัย ขาดทักษะบางอย่าง และที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ได้คิดหาคำตอบด้วยตัวเอง

“AI เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม ถ้าใช้กับคนที่มีความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้นๆ อยู่บ้างแล้ว แต่มันไม่เหมาะกับเด็กที่ยังอยู่ในช่วงเรียนรู้ เพราะมันจะตัดกระบวนการเรียนรู้และการฝึกฝนทักษะหลายอย่างออกไปหมด เด็กอาจจะตอบคำถามได้เร็วขึ้น แต่ไม่เข้าใจคำตอบนั้นเลย” อาจารย์บวรศักดิ์ ชี้ให้เห็นถึงจุดที่อันตรายที่สุดของการใช้ AI หากขาดการไตร่ตรองให้ดี

ในต่างประเทศหลายโรงเรียนเริ่มกำหนดนโยบายห้ามใช้ AI ระหว่างการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ด้วยตนเองก่อน เมื่อพวกเขามีฐานความเข้าใจที่มั่นคงจึงค่อยนำ AI มาใช้เสริม ไม่ใช่นำมาแทนที่การเรียนรู้ แนวคิดนี้เริ่มเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวางในวงการศึกษาไทยเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อ AI เริ่มสร้างปรากฏการณ์ “ห้องเสียงสะท้อน : Echo Chamber” ที่ผู้ใช้งานได้รับแต่ข้อมูลที่ตนเองเชื่ออยู่แล้ว จนไม่ได้เปิดรับความคิดใหม่ ๆ

และหากเสริมด้วยระบบรางวัลเล็กๆ แบบ Dopamine Reward ซึ่งทำให้รู้สึกดีทุกครั้งที่ใช้งาน AI ก็อาจนำไปสู่ภาวะ “เสพติดคำตอบจากเอไอ” โดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจารย์บวรศักดิ์กล่าวถึงความสำคัญของการเท่าทัน AI ว่า “ในอนาคตอันใกล้ AI จะรู้ใจเรามากกว่าที่เรารู้ใจตัวเองด้วยซ้ำ” และนั่นคือเหตุผลที่ทำไมเราต้องเท่าทัน ไม่ใช่แค่ใช้เป็น แต่ต้องรู้ทันว่าเมื่อไรควรฟัง เมื่อไรควรถาม และเมื่อไรควรหยุดไว้ก่อน เพราะหากเราไม่ตั้งคำถามกับ AI ก็อาจถูก AI กำหนดชีวิตโดยไม่รู้ตัว

ในแง่ของระบบการศึกษา อาจารย์บวรศักดิ์เสนอแนวทางว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนจากการวัดผลด้วยคำตอบ มาเป็นการวัดผลด้วยกระบวนการคิด โดยการออกแบบโจทย์ที่ไม่สามารถหาคำตอบได้จาก AI เช่น คำถามที่ไม่มีคำตอบเพียงหนึ่งเดียว หรือโจทย์ปัญหาจากชีวิตจริง เพื่อให้เด็กได้คิด วิเคราะห์ และเชื่อมโยงความรู้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้คำตอบ

อาจารย์บวรศักดิ์ ทิ้งท้ายถึงสิ่งสำคัญที่จะทำให้อยู่รอดได้ในโลกอนาคต ว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในยุคนี้อาจไม่ใช่แค่ความรู้” แต่คือ “ทัศนคติ : Mindset” และ “ทักษะ : Skill” ที่จะทำให้ทุกคนอยู่รอดและเติบโตได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะแม้แต่งานที่ตนทำอยู่ก็ไม่แน่ใจว่างานที่ทำอยู่จะอยู่ได้อีกกี่ปี เนื่องจาก AI พัฒนารวดเร็วจนน่าตกใจ แต่สิ่งที่ทุกคนต้องมีคือหัวใจที่พร้อมจะเรียนรู้ตลอดเวลา

แม้ว่า AI จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนตอบคำถามได้แทบทุกอย่าง แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ มนุษย์เราต้องไม่ลืม "ตั้งคำถาม" ด้วยตัวเองอยู่เสมอ เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยคำตอบ ความสามารถในการตั้งคำถาม การคิด วิเคราะห์ และการเรียนรู้ตลอดเวลาต่างหาก คือความสามารถที่แท้จริงของมนุษย์!!!

                                                                           มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปพิเศษ : จุดพลังเยาวชนอาเซียน ดึง AI เปิดค่าย ‘AYC 2025’ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมสู่โลกอนาคตที่ยั่งยืน สกู๊ปพิเศษ : จุดพลังเยาวชนอาเซียน ดึง AI เปิดค่าย ‘AYC 2025’ แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมสู่โลกอนาคตที่ยั่งยืน
  • ทำไม AI ถึงแย่งงานมนุษย์: ภัยคุกคามต่ออนาคตการทำงานและวิธีรับมือ ทำไม AI ถึงแย่งงานมนุษย์: ภัยคุกคามต่ออนาคตการทำงานและวิธีรับมือ
  • ‘หุ่นยนต์-AI-เกม’ ฟื้นฟูผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง ‘หุ่นยนต์-AI-เกม’ ฟื้นฟูผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ‘TDRI’ไขความลับ‘จีน’สร้างชาติด้วยนวัตกรรม เส้นทางก่อนกำเนิด‘Deepseek’เอไอสะเทือนโลก ‘TDRI’ไขความลับ‘จีน’สร้างชาติด้วยนวัตกรรม เส้นทางก่อนกำเนิด‘Deepseek’เอไอสะเทือนโลก
  • ‘เมืองอัจฉริยะ’การเลือกใช้AI พร้อมความยั่งยืนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ‘เมืองอัจฉริยะ’การเลือกใช้AI พร้อมความยั่งยืนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
  • ซูฮก‘จีน’ไม่ยอมแพ้ข้อจำกัด! ‘อ.เอ้’ยกเคส‘DeepSeek’3ความมหัศจรรย์\'เอไอ\'แดนมังกร ซูฮก‘จีน’ไม่ยอมแพ้ข้อจำกัด! ‘อ.เอ้’ยกเคส‘DeepSeek’3ความมหัศจรรย์'เอไอ'แดนมังกร
  •  

Breaking News

ศบภ.มทบ.38 ผนึกกำลังจิตอาสา ฟื้นฟูโรงเรียนบ้านน้ำพางหลังน้ำลด

บิ๊กไบค์ซิ่งเสียงสนั่นกลางชุมชน ก่อนชนกระบะเจ็บสาหัส

‘คำชะโนด’แทบแตก! ปชช.แห่ไหว้ขอพร‘ปู่ศรีสุทโธ-ย่าประทุมมา’

‘ศาลปกครอง’มีคำสั่ง คุ้มครองที่ดิน 995 ฉบับ-แปลงอื่นๆในพื้นที่‘เขากระโดง’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved