“จากความชอบดาราศาสตร์ตั้งแต่เด็ก ทำให้หนูตัดสินใจประกวดโครงงานแรกในชีวิต ที่สอนให้รู้ว่าวิทยาศาสตร์ไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียน แต่เราได้ลองผิด ลองถูก โดยใช้ขั้นตอนคิดวิเคราะห์ไปแก้ไขอย่างเป็นระบบ ซึ่งหนูพบว่านี่คือกระบวนการคิดที่ใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิตจริงๆ” น้ำเสียงเปี่ยมพลังของ ด.ญ.ภิญญาพัชญ์ รุ่งเรือง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนวารีเชียงใหม่ สะท้อนการเติบโตของยุววิจัยรุ่นใหม่จากเวทีการประชุมวิชาการดาราศาสตร์แห่งประเทศไทย (สำหรับเยาวชน) ครั้งที่ 11 (Thai Astronomical Conference (Student Session) หรือ TACs) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27–29 มิถุนายน 2568 ณ จ.เชียงใหม่ โดยเวทีนี้ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาจากกลุ่มธุรกิจ TCP ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในระดับเยาวชน ภายใต้แนวคิดสำคัญของเวทีนี้ที่ “ไม่ใช่เวทีแข่งขัน แต่คือเวทีเพื่อการแสวงหาความรู้” โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ค้นพบความรู้นอกห้องเรียน ผ่านการนำเสนอโครงงานที่ไม่ได้จำกัดเป้าหมายเพียงแค่ผลลัพธ์ แต่ให้คุณค่ากับการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น “ระหว่างทาง” ผ่านการฝึกตั้งคำถาม คิดวิเคราะห์ พิสูจน์ และค้นคว้าอย่างเป็นระบบ เพื่อปูรากฐานความคิดให้เยาวชนสามารถเติบโตไปเป็นนักนวัตกรรมแห่งอนาคต
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า เราเชื่อว่าแรงบันดาลใจคือจุดเริ่มต้นสำคัญของการเรียนรู้และนวัตกรรม เวทีนี้จึงไม่เพียงเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ต่อยอดความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ แต่ยังปลูกฝังรากฐานการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาองค์ความรู้ในทุกสาขา โดยเรามองว่าการสนับสนุนเยาวชนตั้งแต่วันนี้ คือการวางรากฐานให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถสร้างประโยชน์ได้ในระดับประเทศและนานาชาติ
จากความเชื่อมั่นในพลังของนวัตกรรม เราจึงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนโอกาสที่ช่วยต่อยอดกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งสะท้อนแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขององค์กร เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับ สดร. ได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ จ.ปราจีนบุรี อาทิ การถ่ายทอดเทคโนโลยีการขึ้นรูปชิ้นงานความละเอียดสูง การถ่ายภาพและวิเคราะห์ภาพถ่าย เพื่อระบุข้อบกพร่อง เพิ่มความแม่นยำและความรวดเร็วในการผลิต ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวทางเดียวกัน คือเริ่มต้นจากการ “ตั้งคำถาม” สู่การคิด วิเคราะห์ และลงมือสร้างสรรค์ เพื่อผลักดันนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และแนวโน้มของเทรนด์ในอนาคต
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการ สดร. กล่าวว่า การทำโครงงานดาราศาสตร์ต้องใช้กระบวนการคิดเป็นอย่างมาก วิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล และใช้เวลาในการศึกษาค้นคว้า เวทีประชุมวิชาการดาราศาสตร์ฯ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีเยาวชนเข้าร่วมมากกว่า 2,000 คน นำเสนอผลงานวิจัยดาราศาสตร์ในระดับโรงเรียนรวมแล้วกว่า 500 ผลงาน ในปีนี้มีผลงานที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมนำเสนอทั้งสิ้น 81 ผลงาน จากผู้สมัครกว่า 207 ผลงานจากทั่วประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์และมาเลเซีย แบ่งเป็นโครงงานแบบบรรยาย 40 ผลงาน และแบบโปสเตอร์ 41 ผลงาน ครอบคลุมหัวข้อดาราศาสตร์หลากหลายรวม 7 ประเภท ได้แก่ 1.ดวงอาทิตย์ 2.ระบบสุริยะและดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ 3.ดาวฤกษ์ และกระจุกดาว 4.สสารระหว่างดาว กาแล็กซี และเอกภพวิทยา 5.ดาราศาสตร์เชิงสังเกตการณ์ 6.อุปกรณ์-โปรแกรมทางดาราศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศ 7.ดาราศาสตร์โบราณคดี และดาราศาสตร์เชิงประวัติศาสตร์ สะท้อนถึงความก้าวหน้าและการเติบโตของเยาวชนที่สนใจด้านดาราศาสตร์ที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การจัดงานในครั้งนี้ มีโครงงานที่ได้รางวัลเหรียญทอง จำนวน 9 โครงงาน เหรียญเงิน จำนวน 12 โครงงาน และเหรียญทองแดง จำนวน 15 โครงงาน และรางวัลดีเด่นการนำเสนอผลงานประเภทโปสเตอร์ จำนวน 3 โครงงาน พร้อมอบเข็มเกียรติยศให้แก่ครูแกนนำดาราศาสตร์ ที่ผ่านโครงการอบรมครูเชิงปฏิบัติการดาราศาสตร์ขั้นสูงของ NARIT และเป็นครูที่ปรึกษาให้กับโครงงานของนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมนำเสนอในการประชุมวิชาการฯ ครั้งนี้ จำนวน 24 ท่าน
ด.ญ.ภิญญาพัชญ์ เล่าเพิ่มเติมถึงเบื้องหลังการนำเสนอผลงานในหัวข้อ Distance Analysis of Supernova Type Ia SN2024unx ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองว่า หลายคนมองว่าดาราศาสตร์เข้าถึงยาก หนูจึงพัฒนาโครงงานนี้เพื่อให้ผู้คนเห็นว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิดถ้าเรากล้าลงมือทำ โครงงานนี้เป็นโครงงานแรกของหนูซึ่งได้ลงมือศึกษาทุกขั้นตอนร่วมกับทีม ตั้งแต่เก็บข้อมูล ถ่ายภาพ จนถึงพล็อตกราฟวิเคราะห์ด้วยตัวเอง จึงทำให้หนูเข้าใจว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้มองแค่ปลายทางเพื่อหาคำตอบ แต่ทำให้คิดรอบด้านผ่านการตั้งคำถาม พร้อมก้าวข้ามอุปสรรคได้ถ้าเรามีเป้าหมาย
“จากที่ได้ฟังคำแนะนำจากกรรมการ ทำให้หนูอยากกลับไปหาค่าของดาวที่ยังหาไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่หนูศึกษามาตั้งแต่แรก หนูไม่อยากปล่อยให้ความอยากรู้นี้จบลงแค่นี้ มันเหมือนปริศนาที่ท้าทายให้หนูต้องค้นหาคำตอบต่อไป” ด.ญ.ภิญญาพัชญ์ กล่าวเสริม
อีกหนึ่งโครงงานที่ได้รับเหรียญทองคือ Interactive Website for Visualizing Habitability in Exoplanet Systems โดย นายกฤต พรหมษานุวงศ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนเทิงวิทยาคม เลือกพัฒนาสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบเว็บไซต์เพื่อจำลองโครงสร้างวงโคจรของระบบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและแสดงภาพบริเวณที่สิ่งมีชีวิตสามารถอาศัยอยู่ได้ (Habitable zone) จากฐานข้อมูลของ NASA เพื่อให้การเรียนรู้ดาราศาสตร์กลายเป็นเรื่องจับต้องได้
“เป้าหมายของผมคือการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ที่เข้าถึงง่ายผ่านเว็บไซต์อินเทอร์เฟซ แทนการใช้ซอฟต์แวร์ที่เข้าถึงได้ยาก ซึ่งหัวข้อสิ่งมีชีวิตยังไม่ค่อยมีคนพัฒนาด้านสื่อการเรียนรู้มากนัก เราจึงใช้ประเด็นนี้ตั้งโจทย์และสร้างสื่อที่สามารถจำลองภาพง่ายๆ เพื่อเพิ่มความสนใจให้ผู้เรียนมากขึ้น” โดยนายกฤต เน้นย้ำว่าเป้าหมายของโครงงานคือการจุดประกายให้ผู้คนสนใจในดาราศาสตร์ เพราะเขาเชื่อว่า
“แรงบันดาลใจมักเริ่มจากการค้นพบประกายบางอย่าง ที่ทำให้เราอยากหาคำตอบไปเรื่อยๆด้วยตนเอง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี