แม้คนไทยจะตระหนักถึงภัยร้าย จากปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่าการลงมือทำจริงยังน้อย โจทย์ท้าทายในวันนี้คือ การกระตุ้นผู้คนให้เปลี่ยนพฤติกรรม บนเส้นทางปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) “เอสซีจี” ไม่เพียง ขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมาย แต่ยังมุ่งมั่นเปลี่ยนความนิ่งเฉยในสังคมให้เป็น “ลงมือทำ” สนับสนุนให้ทุกคนเริ่มทำจากสิ่งใกล้ตัว เรื่องง่ายๆ ที่ทำเป็นประจำ พร้อมสร้างทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมง่ายขึ้น เพื่อเปลี่ยน Passion สู่การสร้างผลกระทบได้จริง
เมื่อโลกกำลังเผชิญวิกฤต สิ่งแวดล้อม และ “Net Zero” ไม่ใช่แค่คำไกลตัวอีกต่อไป เยาวชนคน รุ่นใหม่ได้สร้างปรากฏการณ์ “เด็กฮีโร่” ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำ สะท้อนจากเรื่องราวของ “แบงค์-ธนกร นันติ” เยาวชนจากโครงการ “ต้นกล้าชุมชน” โดยมูลนิธิ
เอสซีจี เกษตรกรรุ่นใหม่ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อลดมลพิษ PM2.5 โดยพัฒนาโครงการ “ลดคาร์บอนจากการเผาวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ด้วยเตาเผาถ่านชีวภาพ” และเป็นต้นแบบของ Circular Economy ระดับชุมชน พร้อมส่งต่อองค์ความรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่
โดย แบงก์ เล่าถึงเหตุผล ที่ลุกขึ้นมาทำเรื่องสิ่งแวดล้อมและเน้นลดการเผาว่า ชาวบ้านและเด็กๆ ในภาคเหนือ เติบโตมากับการเผาที่สร้างมลพิษ ทำให้ทุกคนรวมถึงตัวเองมีปัญหาเรื่องการหายใจ มองว่าถ้าไม่มีใครจัดการปัญหาจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงเริ่มลงมือทำจากสิ่งใกล้ตัว นำความรู้ ที่เรียนมาประยุกต์สร้างเตาเผาถ่านชีวภาพ (Biochar) แบบดัดแปลงเอง เนื่องจากครอบครัวและชาวบ้านในชุมชนเป็นเกษตรกร ทุกปีจะเผาวัสดุเหลือทิ้งจากการตัดแต่งต้นไม้สร้างฝุ่นควัน ซึ่งเตาเผาถ่านชีวภาพมีต้นทุนต่ำ ทุกคนเข้าถึงได้ และการเผาจะได้ถ่านไบโอชาร์ที่ช่วยลดคาร์บอน รวมทั้งยังนำไปต่อยอดเป็นสารปรับปรุงดินหรือสบู่จากถ่านไบโอชาร์ได้ด้วย กลายเป็นทางออกเรื่องสิ่งแวดล้อม และเพิ่มรายได้ให้ชุมชน
ในขณะที่สองพี่น้องรักษ์โลกตัวแทนคนรุ่นใหม่ “อิน-อริณชย์ ทองแตง” และ “เอม-อริสา ทองแตง”ผู้ก่อตั้ง Below the Tides ฟื้นฟูระบบนิเวศทางน้ำในหลายรูปแบบอย่างจริงจัง สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใหญ่ และเพื่อนรุ่นเดียวกันเห็นว่า “เราทำได้” มีจุดเริ่มต้นของการทำเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังมาจากความรักสัตว์
อินและเอม เล่าว่า ไม่ได้อยากช่วยโลก แค่อยากช่วยเต่า เพราะชอบสัตว์มาตั้งแต่เด็ก และรู้สึกสนิทกับธรรมชาติมานานแล้ว เมื่อรู้ว่าปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบกับระบบนิเวศทางทะเล อาจทำให้สัตว์บางชนิดเสี่ยงสูญพันธุ์ หากไม่ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม จึงรู้สึกว่าต้องลงมือทำบางอย่างเพื่อแก้ปัญหา โดยตั้งกลุ่มเล็กๆ ที่โฟกัสเรื่องสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ทั้งแม่น้ำลำคลองและทะเล ก่อนที่จะขยายกลายเป็นประเด็น Climate Change
“อุณหภูมิของโลกที่เพิ่มขึ้นอันตรายกับสัตว์ทะเล เราเลยอยากสร้างผลกระทบที่ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เพราะดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย หากสุดท้ายสัตว์ทะเลต้องสูญพันธุ์ไป อย่างน้อยก็คิดว่าเราทำเต็มที่แล้ว ซึ่งในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้เราทำอะไร” น้องอิน กล่าว
ตอกย้ำด้วยคำพูดของเอมว่า “บางคนคิดว่าโลกจะรอให้เราค่อยๆ เปลี่ยน คิดว่ายังมีเวลาแก้ไข แต่ไม่มี ใครรู้ว่าโลกรอได้ถึงเมื่อไหร่ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการที่บางคนยังไม่ยอมรับว่ามี Climate Change ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังมีคนที่บอกว่าไม่ใช่เรื่องของเรา หากปล่อยให้เป็นแบบต่อไปโดยไม่ทำอะไร สิ่งที่น่ากลัวคือลูกหลานของเราอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นโลกแบบที่เราเคยเห็นอีกแล้ว”
“ผมเป็นแค่เกษตรกรตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่ได้คาดหวังจะว่าสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ทำได้คือเริ่มจากตัวเอง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ส่งต่อไปเรื่อยๆเราอาจจะเปลี่ยนโลกทั้งใบไม่ได้ แต่บางทีการเปลี่ยนโลกอาจเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราก็ได้” แบงค์ สรุป
ทิ้งท้าย
เพราะการร่วมมือกันคือพลังที่ยิ่งใหญ่ “เอสซีจี”เชื่อว่าทุกคนคือส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ใหญ่ ชุมชน หรือองค์กรต่างๆ สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ เพียงลงมือทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่งเอสซีจีได้สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงใช้การสื่อสารและเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี