"พระครูสุวัชรยาภิวงศ์" เลขานุการ "หลวงพ่อเจ้าคุณสมบูรณ์ รตนญาโณ" วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ศูนย์พักพิงศรีสะเกษให้กำลังใจผู้ประสบภัยชายแดน ชี้ต้องมีศรัทธา เชื่อมั่นทหารกล้าและความอดทน
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้สำรวจศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยในอำเภออุทุมพรพิสัย ซึ่งเป็นวัดที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ต้องอพยพจากพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พระครูสุวัชรยาภิวงศ์ ได้ให้โอวาทแก่ผู้ประสบภัย เน้นย้ำให้มีศรัทธา เชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และอดทนต่อสถานการณ์ ส่วนผู้ประสบภัยบางรายเผยความรู้สึกเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างยากลำบากเพื่อปกป้องประชาชนและประเทศชาติ
ศูนย์พักพิงแห่งนี้รองรับผู้ประสบภัยเกือบ 200 ราย ทั้งจากอำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ สภาพความเป็นอยู่ภายในศูนย์ถือว่าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มีเจ้าหน้าที่ วัด และชาวบ้านในพื้นที่คอยให้บริการ ทำอาหารให้ผู้ประสบภัยได้รับประทานวันละ 3 มื้อ รวมถึงมีน้ำดื่มและขนมสำหรับเด็ก ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ใจบุญและทางวัด
พระครูสุวัชรชยาภิวงศ์ เลขานุการ เจ้าคุณสมบูรณ์ รตนญาโณ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เปิดเผยว่า วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ และจัดตั้งเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัยที่มาจากอำเภอกันทรลักษ์และอำเภออื่นๆ ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นโดย เจ้าคุณสมบูรณ์ รตนญาโณ ปัจจุบันมีผู้เข้ามาพักพิงอยู่ประมาณกว่า 100 ชีวิต และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การบริหารจัดการศูนย์จะใช้งบประมาณจากทางวัดในการดูแลเรื่องอาหาร 3 มื้อ รวมถึงเครื่องนอนและสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ยังมีประชาชนผู้ใจบุญและผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พระครูสุวัชรชยาภิวงศ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากบริการภายในวัดแล้ว หากศูนย์พักพิงอื่นมีความประสงค์อยากได้สิ่งของที่ยังขาดแคลน สามารถติดต่อมาได้ เพราะทางวัดจะมีผู้ดำเนินการจัดส่งให้เพื่ออำนวยความสะดวก หรือหากประชาชนท่านใดต้องการร่วมบริจาคสมทบก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ทุกเมื่อ รวมถึงผู้ที่ต้องการมาร่วมจัดทำโรงทานอาหารต่างๆ ทางวัดก็จะอำนวยความสะดวกให้
นอกจากนี้ พระครูสุวัชรชยาภิวงศ์ ยังได้ฝากข้อคิดให้ผู้ประสบภัยและประชาชนทุกคนให้มีสติในการรับข่าวสาร โดยให้ดูข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้และเป็นจริง อย่ากังวลมากเกินไป ขอให้มีศรัทธาและเชื่อมั่น ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่กำลังปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินไทยอยู่ในขณะนี้ ซึ่งจะนำความสงบสุขกลับมาโดยเร็ว สุดท้ายแล้วเราทุกคนจะต้องมี "ขันติ" คือความอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์และเชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ในเร็ววัน
ด้านผู้ประสบภัยรายหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกับลูกหลานได้อพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ได้ 2 คืนแล้ว รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่ได้มาพักที่นี่ แต่สามีของตนไม่ได้มาด้วย เพราะเป็นห่วงบ้านและต้องคอยหุงข้าวทำกับข้าวไปถวายพระที่วัด เนื่องจากชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนใหญ่ได้อพยพมาเกือบหมด ไม่มีใครดูแลพระสงฆ์ สามีจึงต้องอยู่คอยดูแลเรื่องนี้ ตนคิดถึงและเป็นห่วงบ้านมาก แต่ก็ยังกลับไปไม่ได้เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย
ผู้ประสบภัยท่านนี้เล่าต่อว่า เมื่อเช้าตนโทรศัพท์หาสามี สามีเล่าว่าตอนนอนได้ยินแต่เสียงปืนดังสนั่นมาก จนรู้สึกแน่นหน้าอก ก่อนอพยพมาลูกสาวตนก็ได้ยินเสียงปืนดังจนอาเจียน ในฐานะที่ตนมีบ้านอยู่ติดชายแดน รู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดมาอายุ 55 ปี ไม่เคยเจอสถานการณ์ที่รุนแรงเช่นนี้ ต้องอพยพหนีจากบ้านจากเมืองมาอยู่ที่อื่น ตนขอประณามการกระทำที่ส่งผลกระทบ แต่ก็ยังสงสารประชาชนชาวกัมพูชาที่ไม่เกี่ยวข้องแต่ต้องมารับความเดือดร้อนไปด้วย ตนขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนสู้ๆ (พร้อมปาดน้ำตา) เพราะความสงสารที่เจ้าหน้าที่ผู้เสียสละที่อยู่แนวหน้าต้องตากแดดตากฝนอย่างยากลำบากเพื่อปกป้องประชาชนและแผ่นดินไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี