การยิงต่อสู้กันระหว่างทหารไทยกับทหารเขมร ตามชายแดน ไม่อยากจะเรียกว่าเป็นสงคราม แต่เป็นเรื่องที่ผู้นำทางการเมืองทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งมีความใกล้ชิดเป็นปึกแผ่น มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปีกำลังถูกประชาชนเป็นจำนวนมากตั้งข้อสงสัยถึงกรณีความร่ำรวยอย่างมหาศาล และมีพฤติกรรมขายชาติต่างๆ จึงสร้างเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนและคนทั่วโลกเท่าที่จะทำได้ จากความทุจริตต่างๆ มากมาย
จากความต้องการในสถานะที่อยู่ในความตกต่ำของทั้งสองฝ่าย แต่ก็ยังเป็นผู้กุมอำนาจฝ่ายทหารและเศรษฐกิจอยู่ ฝ่ายทหารในระดับสูงๆ และข้าราชการระดับสูงหลายคนจึงต้องทำตามที่นักการเมืองสั่ง เช่น สั่งให้ยิงกันพอสมควรไม่ต้องรุกล้ำเข้าไปในดินแดนเขมร เดี๋ยวประเทศอื่นๆ เขาจะตำหนิได้ อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ให้จำกัดแค่ทำให้ดูว่าเป็นการรบต่อสู้กันเท่านั้น ทหารไทยจะตายกี่คนก็ช่าง ทำให้ประชาชนเบี่ยงเบนความสนใจความชั่วของเขา ผู้นำนักการเมืองเลวๆ บางครอบครัวทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ตนและครอบครัวจะได้มีอำนาจ อยู่ดีมีสุขไปชั่วชีวิต
ที่จริงแล้ว การที่นักการเมืองจะสั่งอะไร ถ้าเป็นเรื่องที่เราจะต้องเสียดินแดนอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน ทหารไม่จำเป็นที่จะต้องไปทำตามพวกนักการเมืองพวกนั้น เห็นสภาพทหารเขมร มันขึ้นมากร่างกับทหารไทยและคนไทย เห็นทหารไทยวางตัวสุภาพเรียบร้อยตามคำสั่งหัวหน้าที่รับคำสั่งมาจากนักการเมืองเลวๆ แล้วรู้สึกเจ็บใจ ทำให้นึกถึง พลตรีประจักษ์ สว่างจิตร วีรบุรุษตาพระยา ที่เคยยกทัพรุกเข้าไป ตีเขมรนับสิบๆ กิโลเมตร ท่านเป็นวีรบุรุษคนหนึ่งที่คนไทยควรจำในยุคนี้ ในอดีตองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็เคยเอาเจ้าเมืองเขมร ที่มักมาทำร้ายชาวบ้านคนไทย เมื่อคนไทยเดือดร้อน ทรงเอาพระยาละแวก เจ้าเมืองเขมร แล้วเอาเลือดมันมาล้างพระบาท นักการเมืองไทยบางคนที่ร่วมขายชาติขายแผ่นดิน ควรที่จะต้องถูกตัดหัวด้วย
เมื่อตกลงกันแล้วว่าหยุดยิง แต่เขมรมันยังยิงอีกทหารต้องกล้าที่จะยิงตอบ และรุกเข้าไปในดินแดนเขมรไม่น้อยกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้กระสุนปืนทำลายชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย ไม่ต้องไปฟังพวกนักการเมืองเลวๆ หรือต่างชาติฟ้อง มันจะกล่าวหาอย่างไรช่างมัน เพราะเป็นปัญหาของเรา ถ้าต่างชาติโดนกระทำ อย่างที่เราถูกกระทำ เขาก็ต้องทำอย่างนี้ รุกเข้าไป 100 กิโลเมตร แล้วให้เขมรตั้งโต๊ะเจรจาไปอีก 10-20 ปี หา รมต.ต่างประเทศที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ปกป้องประเทศไทย ไม่มีช่วงไหนที่กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมตกอยู่ใต้อำนาจนักการเมืองขนาดนี้
ถ้าจะให้ประเทศไทยเป็นเอกราชมีอธิปไตย ไม่ต้องสูญเสียชีวิตคนไทย และบ้านเรือน โรงพยาบาล ฯลฯ ต้องมีผู้นำที่เข้มแข็ง เด็ดขาด ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวทับซ้อนกับผลประโยชน์ของประเทศ หรือเป็นทหารและผู้ร่วมงานกระทรวงต่างๆ ที่มีความซื่อสัตย์ มีความรู้ความสามารถ รักชาติ รักแผ่นดิน รักประชาชน ไม่เพียงแต่คำพูด แต่ต้องทำให้เป็นรูปธรรม
สำหรับพวกนักการเมืองอาชีพ ก็ต้องขอให้กลับบ้านพักผ่อนช่วยบ้านช่วยเมืองตามเช่นคนไทยทั่วไป ไหนๆ พวกท่านออกกฎหมายเพื่อตนเองมีเงินบำเหน็จบำนาญ บ้านเมืองสะอาด ประชาชนอยู่ดีกินดี ประเทศมั่นคง แล้วค่อยกลับมา ซึ่งคงไม่นานเกินรอ ความอยู่ดีกินดี มีงานทำและมั่นคงของประเทศคือสิ่งที่ประชาชนมีสิทธิ์จะได้ ไม่ใช่ถูกครอบงำโดยนักการเมืองบางคน
มีอยู่สมัยหนึ่ง หัวหน้าคณะปฏิวัติท่านหนึ่ง ได้เชิญคณะทูตานุทูต ไปฟังสาเหตุที่ท่านต้องปฏิวัติ เมื่อพูดเสร็จ ผมก็พบกับท่านข้างเวทีและกระซิบข้างหูว่า บ้านเมืองในสถานการณ์แบบนี้จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ประเทศมีความมั่นคง ต้องนำสิ่งที่ดีของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มาใช้ ท่านหันมาขอบใจผมด้วยความยิ้มแย้มตามอัธยาศัย ถ้าท่านทำอย่างที่ผมได้เรียนไว้ ระยะเวลา 9 ปีที่ท่านครองอำนาจ คนไทยจะมีความสุขกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ครอบครัว สังคมประเทศก็จะมั่นคง ไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้
อัมรินทร์ คอมันตร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี