แม้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านสุรินทร์จะสงบมาพักใหญ่ แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงหวาดผวากับความไม่แน่นอน ประชาชนจากตำบลด่าน อ.กาบเชิง ที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะในอดีต ตัดสินใจอพยพเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงรวมกว่า 140 คน เข้ามาพักอาศัยที่วัดศรีรัตนาราม อ.เมืองสุรินทร์ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว สะท้อนถึงความกังวลที่ยังคงฝังใจ
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ แม้จะไม่มีการปะทะกันมาตั้งแต่มีการเจรจาหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงไม่มั่นใจในความปลอดภัย
โดยเฉพาะที่ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับด่านช่องจอมที่เคยเกิดการปะทะและมีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในอดีต ตอนนี้มีชาวบ้านประมาณ 140 คนได้ขนย้ายข้าวของมาขออาศัยอยู่ที่ วัดศรีรัตนาราม ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จาก เจ้าอาวาสวัดศรีรัตนาราม ให้เข้ามาพักอาศัยในศาลาวัด ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา
ชาวบ้านเล่าว่า ภาพเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อนยังคงติดตา ทั้งเสียงปืนใหญ่และจรวดที่ยิงเข้ามาในหมู่บ้านทำให้บ้านเรือนเสียหายและมีผู้บาดเจ็บล้มตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง คุณยายเลื่อน ขาวงาม อายุ 67 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวานและต้องดูแลพี่ชายซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง กล่าวว่า “ภาพของสงครามครั้งแรกจำได้ติดตา หวาดกลัวมาก ลูกปืนลอยข้ามหัวไปมา ตอนนี้ก็ยังไม่ไว้ใจ เลยขอเข้ามาอยู่ที่วัดแห่งนี้เพื่อความปลอดภัยก่อน ต้องขอบคุณท่านเจ้าอาวาสที่เมตตาให้ที่พักพิงและดูแลพวกเราเป็นอย่างดี”
ด้าน นางสาวเสาวรัตน์ ชาวนา อายุ 38 ปี ซึ่งพาครอบครัวมาพักที่วัดเช่นกัน กล่าวว่า การอพยพครั้งนี้เป็นการย้ายออกมาเป็นรอบที่สองแล้ว เนื่องจากมีความกังวลว่าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นอีกครั้ง การอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงอย่างกะทันหันจะเป็นไปอย่างยากลำบาก “เราจึงตัดสินใจออกมาอยู่ที่นี่ก่อน ส่วนคนที่แข็งแรงก็จะไปๆ มาๆ เพื่อกลับไปดูแลสัตว์เลี้ยงและบ้านในตอนเช้าและกลับมาพักที่วัดในตอนเย็น แต่สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยจำเป็นต้องอยู่ตลอดเพื่อความปลอดภัย”
ในด้านความเป็นอยู่ ชาวบ้านได้นำข้าวของเครื่องใช้และวัตถุดิบมาประกอบอาหารกันเอง โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้บริจาคและเจ้าอาวาสวัดที่ให้การดูแลอย่างเต็มที่ สำหรับบางครอบครัวที่มากันเป็นครอบครัวใหญ่ หรือมีผู้ป่วยติดเตียง ทางวัดก็ได้จัดห้องพักให้เป็นพิเศษ ชาวบ้านยืนยันว่าพร้อมที่จะกลับบ้านทันทีเมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ความมั่นใจและปลอดภัยอย่างแท้จริง เพราะไม่มีใครอยากจากบ้านไปหากไม่จำเป็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี