ผู้ว่าฯสุรินทร์แจง! ด.ช.วัย13ยืดเวลาส่งกลับเขมร เร่งตรวจDNAพิสูจน์ ขอโอกาสทางการศึกษา

ผู้ว่าฯสุรินทร์แจง! ด.ช.วัย13ยืดเวลาส่งกลับเขมร เร่งตรวจDNAพิสูจน์ ขอโอกาสทางการศึกษา

วันพุธ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568, 08.04 น.

คืบหน้าครูนักเรียนกอดกันร้องไห้ หลังจากตำรวจพาแม่ชาวกัมพูชา ไปเชิญตัวเด็กชาย 13 ปี ออกจากโรงเรียนบัวเชดวิทยา เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา จากนั้นทีมสหวิชาชีพได้ประชุมร่วมกันเพื่อหาทางช่วยเหลือ ล่าสุดมติในที่ประชุมเปิดเผยออกมาแล้ว ยึดผลประโยชน์สูงสุดของเด็กและการตัดสินใจของเด็กเป็นที่ตั้ง พร้อมตรวจ DNA พ่อ-ลูก ระหว่างดำเนินการแม่และเด็ก

3 กันยายน 2568 จากกรณีที่มีเหตุการณ์ดราม่า ครูนักเรียนร้องไห้กอดกัน หลังจากตำรวจพาแม่ชาวกัมพูชา ไปเชิญตัวเด็กชาย อายุ 13 ปี ออกจากโรงเรียนบัวเชดวิทยา อ.บัวเชดฯเพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา หลังพบว่าไม่มีเอกสารที่ได้รับอนุญาติถูกต้องตามกฏหมาย ก่อนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ทั้งสองแม่ลูกมาพักที่บ้านเด็กและครอบครัว จ.สุรินทร์ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์  


ข่าวเพิ่มเติม : คืบหน้าจับเด็ก13ต่างด้าว! แจงเป็นลูกติด แม่กัมพูชาได้สามีใหม่คนไทย

ต่อมา วันที่ วันที่ 29 สิงหาคม 2568 พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปกครอง อัยการจังหวัดและทีมสหวิชาชีพ จนท.ตม.สุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอัยการจังหวัดสุรินทร์ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสุรินทร์ ปลัดจังหวัด นายอำเภอเมืองสุรินทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบัวเชด ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ ศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ ผู้อานวยการโรงเรียนบัวเชดวิทยา นิติกรประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ และทนายอาสา ได้เดินทางมาเพื่อประชุมหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือเด็กชายตงเฮง อายุ 13 ปี เพื่อให้ได้เรียนหนังสือในไทยต่อได้อย่างไรบ้าง ซึ่งมติในที่ประชุมในวันนั้น(29 ส.ค.68) ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลให้ทางสื่อทราบ

ล่าสุด ที่ศูนย์ราชการจังหวัดสุรินทร์ อำเมืองสุรินทร์ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างดำเนินการ ตามที่มีการประชุมสหวิชาชีพ เรื่องของผู้เป็นแม่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก็ดำเนินการไปโดยเฉพาะการทำเอกสารหลักฐานให้ถูกกต้องตามกฎหมาย ในขณะที่ลูกชายเด็กตงเฮง เท่าที่ได้รับข้อมูลว่าเด็กจริงๆ ก็น่าจะเกิดที่กัมพูชา แม่เป็นกัมพูชาพ่อก็น่าจะเป็นกัมพูชาแล้วก็เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ประมาณสัก 6 ขวบ ฉะนั้นก็มาเริ่มเรียนโรงเรียนไทยตั้งแต่ป.1 จนปัจจุบันนี้ก็อายุ 13 ปีอยู่มัธยม เดิมทาง ตม. ก็จะผลักดันแม่ออกไปตามหลักกฎหมาย แต่เด็กจะมีสิทธิ์อยู่แต่ว่าถ้าเอาแม่ไปลูกเขาก็ต้องไปด้วย เพราะว่าเขาก็ไม่มีความผูกพันกันกับพ่อ

เมื่อมีข่าวออกมาทางหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะตนก็ได้พูดคุยว่าเราอย่าพึ่งผลักดันแม่ออกไป เมื่อมันมีประเด็นขึ้นมาอย่างนี้ให้ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปขอรับทั้งแม่ทั้งลูกมาอยู่บ้านพักเด็กในระยะนี้ก่อน ขอให้ทางตม. ขยายการที่จะผลักดันกลับประเทศทั้งตัวแม่และก็ลูกออกไป โดยให้ทาง พม.ได้ดูแล แล้วให้มีการดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป รวมทั้งกระบวนการตรวจ DNA เพื่อยืนยันพิสูจน์ตัวตนกับผู้เป็นพ่อชาวไทย โดยขณะนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินการ หาก DNA ตรงกันกับพ่อ พ่อคนไทยก็อาจจะทำเป็นเรื่องสัญชาติไทยในภายหลัง แต่ถ้าไม่ใช่มันก็มีในเรื่องของมติครม.อยู่ เดือนหน้าที่จะมีผลบังคับใช้ ในตัวลูกตอนนี้ในเรื่องอยู่ในไทยก็อยู่ไปก่อน จนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น

ตอนนี้การเรียนก็เป็นห่วง เห็นว่าเรียนดีพอสมควรได้เกรด 4 ตลอด ทางกระทรวงศึกษาและสหหาวิชาชีพ ก็ไปคุยไปปรึกษากันแล้วก็จะให้ช่องทางพิเศษในการให้เด็กได้เรียนในช่วงนี้  โดยเรียนช่องทางออนไลน์ การตรวจ DNA ก็ทาง พม.เขาจะรับดูแลให้ ค่างบประมาณในการตรวจคนละ 6,000 บาท ทั้งนี้ทั้งนั้นเด็กกับพ่อก็ต้องยินยอมให้ตรวจด้วย เพราะฉะนั้นกระบวนการตอนนี้ก็คือยังอยู่ในบ้านพักเด็กและครอบครัวสุรินทร์ต่อไป จนกระบวนการต่างๆจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะมีหน่วยงานต่างที่เกี่ยวข้องและสหวิชาชีพ จะเข้ามาดูแล และกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้มติที่ประชุมทีมสหวิชาชีพ เพื่อวางแผนให้ความช่วยเหลือ กรณีข่าวเด็กชายอายุ 13 ปี และมารดา สัญชาติกัมพูชา ณ ห้องประชุมบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

มีมติที่ประชุมให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้ 1. ประเด็นการตรวจ Deoxyribonucleic Acid (DNA) ด้วยนางเซียบฯ ผู้เป็นมารดาของ ด.ช.ตงเฮงฯ ให้ข้อมูลว่า ด.ช.ตงเฮงฯ มีบิดาชื่อ นายศิริโชค (สามีคนปัจจุบัน/พ่อเลี้ยง) แต่เนื่องจาก ขณะตั้งครรภ์ตนเองได้เดินทางกลับประเทศกัมพูชาและคลอดบุตร จึงให้ญาติเกี่ยวข้องเป็นพี่ชายแม่เด็ก เพิ่มชื่อเป็นบิดาเด็กในสูติบัตร ที่ประชุมจึงมีมติให้ดำเนินการตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ได้ว่า ด.ช.ตงเฮง กับนายศิริโชค มีความสัมพันธ์ เป็นบิดา-มารดากันจริงตามสายเลือดหรือไม่ เพื่อรับสิทธิทางกฎหมายและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเด็กตามมาตรา 22 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ คนละ 6,000 บาท (ด.ช.ตงเฮง กับ นายศิริโชค) โดยจะประสานโรงพยาบาลสุรินทร์ ดำเนินการต่อไป

หากตรงกัน  สามารถเพิ่มชื่อบิดาในใบเกิดเด็ก ได้รับสัญชาติไทยตามบิดา และเป็นพลเมืองไทยถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้นำผลตรวจ DNA ไปยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว และนำคำสังศาลฯไปยื่นต่อสำนักงานปกครองเพื่อเพิ่มชื่อทางทะเบียนให้แก่เด็ก

หากไม่ตรงกัน (1) เสนอแนวทางให้ นางเซียบ และ ด.ช.ตงเฮง ดำเนินการจัดทำเอกสารการเข้าเมืองต่างๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่ออาศัยอยู่ในประเทศไทยได้อย่างถูกต้อง (2) เสนอแนวทางให้ นางเซียบ จดทะเบียนสมรสกับ นายศิริโชค ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อขอทำวีซ่าติดตามคู่สมรส (3) เสนอแนวทางให้ นายศิริโชค ดำเนินการจดทะเบียนรับ ด.ช.ตงเฮง เป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมาย ณ ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรณีคนไทยขอรับเด็กต่างด้าวเป็นบุญบุตรธรรรม การทำงานให้ยึดผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก และการตัดสินใจของเด็กเป็นที่ตั้ง

แหล่งเงินค่าใช้จ่ายในการตรวจ DNA จำนวน 3 แหล่ง ดังนี้ (1) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ โดยกองทุนคุ้มครองเด็ก  ด้วยวิธีการขอมติที่ประชุมทีมสหวิชาชีพ เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็กจังหวัดสุรินทร์ และเสนอไปยังคณะกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็กแห่งชาติ เพื่อพิจารณาอนุมัติตามประมาณการค่าใช้จ่ายการตรวจ DNA จากโรงพยาบาลรัฐ จากนั้นจึงดำเนินการตรวจได้ ซึ่งจะได้รับการจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ.2569 (2) ในวันที่ 1 กันยายน 2568 ยื่นขอกองทุนยุติธรรม ณ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี (3) เงินบริจาคจากโรงเรียนบัวเชดวิทยา

2.ประเด็นการศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ (สพม.) และโรงเรียนบัวเชดวิทยา จะดำเนินการออกแบบการเรียนการสอนรูปแบบพิเศษและมีความเหมาะสม ให้แก่เด็ก เพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาปกติ และยังคงสภาพเป็นนักเรียน อยู่ในระบบการศึกษา โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็ก ขณะเด็กเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) สนธิสัญญาระหว่างประเทศ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์

หากผลพิสูจน์ DNA พบว่า ด.ช.ตงเฮง เป็นคนสัญชาติกัมพูชาและมีเหตุให้ถูกผลักดันกลับประเทศต้นทางจริง และครอบครัวทำเอกสารเข้าเมืองใหม่อย่างถูกต้อง เด็กซึ่งเป็นผู้ติดตาม (สถานะ G) ก็สามารถเข้ารับการศึกษาในประเทศไทยได้ดังเดิม

3.ประเด็นการขึ้นทะเบียนแรงงานให้ถูกต้อง จัดหางานจังหวัดสรินทร์ และตำรวจตรวจคนเขาเมืองจังหวัดสุรินทร ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ นางเชียบฯเป็นผู้ต้องกักของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ เพื่อรอการส่งกลับ หากต้องการกลับเข้ามายังประเทศไทยให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนแรงงานให้ถูกต้อง

4. ประเด็นการสงเคราะห์ชั่วคราว นางเชียบ และ ด.ช.ตงเฮง เข้ารับการสงเคราะห์ชั่วคราว ณ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2568 เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป เพื่อดำเนินการรอผลตรวจดีเอ็นเอของDeoxyribonucleic Acid (DNA) ด.ช.ตงเฮง มีบิดาชื่อนายศิริโชค ให้เรียบร้อย โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top