ผู้ว่าฯแจ้งจ่ายเงินเยียวยาผู้อพยพเป็นครัวเรือนไม่ใช่รายคน กรณีขาดรายได้ระหว่างอพยพจากภัยสงคราม จ่ายไม่เกิน 7 วัน 2 พันบาท เกิน 7 วันจ่าย 5 พันบาท ต่อครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่อพยพเกิน 7 วัน ประชาชนอย่าสับสนตามโซเชียล จ่ายเข้าระบบพร้อมเพย์ ไม่มีคอรัปชั่นอย่าได้กังวล

5 กันยายน 2568 จากกรณีที่โลกโซเชียล ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีการเยียวยาขาดรายได้ของผู้อพยพ จากภัยการสู้รบในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยมีข้อกังวลอาจเกิดการคอรัปชั่นเกิดขึ้นได้นั้น โดยโพสต์ดังกล่าวมีคนแชร์และแสดงความคิดเห็นออกมาเป็นจำนวนมาก

โดยนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เปิดเผยว่า เรื่องการเยียวยา ของจังหวัดสุรินทร์ เราทำในหลายเรื่องตั้งแต่ซ่อมบ้านโดยใช้งบท้องถิ่นด้วยและใช้งบ100 ล้าน ที่รัฐบาลให้ด้วย มาซ่อมบ้านและซ่อมสร้าง นอกนั้นก็เป็นช่วยเหลือเรื่องพื้นที่การเกษตรเสียหาย สัตว์ล้มตาย ซึ่งได้ช่วยไปแล้วเกือบจะ 100% ที่สำคัญที่เป็นมติคณะรัฐมนตรี คือเรื่องช่วยพี่น้องผู้อพยพที่ขาดรายได้ ก็มีมติว่าถ้าเก็บถ้าต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยไปอยู่ศูนย์พักพิง ไปอยู่บ้านญาติก็ได้ เป็นครัวเรือนไม่ใช่รายคน ครัวเรือนละ 2,000 บาท จาก 7 วันลงมา อันที่ 2 ถ้าตั้งแต่ 8 วันขึ้นไปจะได้ครัวเรือนละ 5,000 บาท

ซึ่งก็มีบางอำเภอที่สำรวจยาก อำเภอที่อยู่ในเกณฑ์ทุกตำบล 100% เลย คือกาบเชิง พนมดงรัก บัวเชด ซึ่งอยู่ในแผนที่เราจะอพยพตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว ส่วนอำเภอที่อาจจะสำรวจยากนิดหนึ่งคืออำเภอสังขะและอำเภอปราสาท เนื่องจากว่ามีทั้งตำบลที่ต้องอพยพและไม่อพยพ แต่พอเกิดเหตุการณ์ ก็อพยพมากกว่าที่เราวางแผนไว้ด้วยเพราะลูกกระสุนปืนใหญ่มันตกเข้ามาไกลกว่าที่คิด เราจะยึดถนนหมายเลข 24 เป็นหลักเบื้องต้น ที่จะต้องอพยพเ แต่ก็อาจจะมีบางจุดนิดหน่อยที่ข้ามถนนสาย 24 เข้ามาด้านในเช่นที่อำเภอสังขะ 

โดยภาพรวมของจังหวัดสุรินทร์ชาวบ้านอพยพมาตามศูนย์พักพิง 10 กว่าวัน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม เป็นต้นมา จากนั้นท่านบุญธรรม มาส่งพี่น้องกลับไปวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 24 ถึงวันที่ 9 ก็เกิน 8 วันแล้ว ส่วนใหญ่อพยพเกิน 8 วัน แต่ในช่วงนั้นมีคนไปๆมาๆ ก็มีคนแวะไปดูสัตว์เลี้ยงแล้วกลับมาพักที่ศูนย์ การยื่นแบบให้ยื่นในส่วนปกครองส่วนท้องถิ่น พอยื่นเสร็จก็จะพิมพ์บัญชีรายชื่อออกมาเป็นรายครัวเรือน ซึ่งมีการจัดทำและตรวจตราอย่างรัดกุม ที่มีรายชื่อผีไม่มีตัวตนอยู่ในบ้าน ก็ขีดออกไปหรือบางคนมีบ้านอยู่ในสวนยาง ยังไม่ขอเลขที่แต่มีคนอยู่ เดือดร้อนอพยพออกมาจะต้องทำบัญชีเพิ่ม

เบื้องต้นเรายึดข้อมมูลที่สำรวจ จังหวัดสุรินทร์ ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ 85,222 หลังคาเรือน ส่วนการที่บอกว่าจะทุจริตโน่นนี่มั่นใจจะไม่มีเกิดขึ้นแน่นอน เพราะระบบจ่ายจะจ่ายในระบบพร้อมเพย์ หัวหน้าครอบครัวเจ้าของบ้านจะต้องมีระบบพร้อมเพย์ด้วย

ฉะนั้นที่คุยกันในเฟสในไลน์ เป็นข้อวิตกกังวล เพราะฟังข่าวต่อๆกันมา เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่จริงๆ ซึ่งการดำเนินการต้องมีกรรมการทั้งระดับอำเภอ มีกำนันและมีผู้ใหญ่ มาดำเนินการ แล้วส่งมาทางจังหวัดเพื่อไตร่ตรองก่อนจ่ายชดเชยเยี่ยวยาต่อไป ที่สำคัญก็ช่วยประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องได้เข้าใจและอย่าสับสน โดยการชดเชยหรือเยี่ยวยาการขาดรายได้ จะมีการจ่ายเป็นครัวเรือนเท่านั้น ไม่ใช่รายบุคล ขอทำความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ.

012