เปิดหมดเปลือก! ร้อยเวรแฉ‘อายัดบัญชี’มาตรการ‘บ้ง’ที่สุดรอบ 5 ปี โยนไปมา คนสุจริตเดือดร้อน

เปิดหมดเปลือก! ร้อยเวรแฉ‘อายัดบัญชี’มาตรการ‘บ้ง’ที่สุดรอบ 5 ปี โยนไปมา คนสุจริตเดือดร้อน

วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568, 11.40 น.

เปิดหมดเปลือก! ร้อยเวรแฉ‘อายัดบัญชี’มาตรการ‘บ้ง’ที่สุดรอบ 5 ปี โยนไปมา คนสุจริตเดือดร้อน

14 กันยายน 2568 จากกรณีปัญหามีเจ้าของธุรกิจถูก “อายัดบัญชี” ทั้งๆเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับ “บัญชีม้า” ซึ่งเป็นไปตามมาตรการที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประกาศออกมาเพื่อป้องกันอาชญากรรมออนไลน์นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อึ้ง! หอบเอกสารหนัก 20 กก. แจงธนาคารหลังถูก‘อายัดบัญชี’ สุดช้ำบริสุทธิ์ไม่เกี่ยว‘บัญชีม้า’)


ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก Ton Thanapon ซึ่งระบุว่าเป็นของร้อยเวร ออกมาโพสต์ถึงมาตรการ “อายัดบัญชี” ระบุว่า...

จากท็อปคอมเม้นโพสต์หนึ่ง เอามาแบ่งปันครับ

ประเด็น “ร้อยเวรอายัดบัญชี” อยากให้เข้าใจ

ผมเป็นร้อยเวรเหมือนกัน บอกเลยว่าเป็นมาตรการที่บ้งที่สุดตั้งแต่ทำงานมา 5 ปี

ผมขอมาอธิบายแล้วให้ทุก ๆท่านลองอ่านดูแล้วคิดว่ามันสมเหตุ สมผลไหม ?

โปรเซสการทำงานของระบบนี้คือ

เมื่อ สายหนึ่งโทรเข้า 1441 บอกว่า บัญชีนี้โกง แค่ตรวจสอบว่ามีรายการโอนจริง ธนาคารก็อายัดเลย 3 วัน

โดยใช้อำนาจ พรก.อาชญากรรมเทคโน ปี 66

ต่อมา 1441 จะลงข้อมูลในระบบรับแจ้งความออนไลน์ของตำรวจ ผมขอเรียกว่า TPO นะครับ ในส่วนของคดี ตัวระบบจะเร่งรัดให้มีการแจกคดีให้กับร้อยเวรตามโรงพัก ว่าตำรวจคนไหนจะได้คดีนี้ไปรับผิดชอบต่อ และก็จะปรากฏชื่อของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในระบบ TPO ต่อมาจะมี sms บอกผู้เสียหายให้มาแจ้งความกับร้อยเวรที่เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ที่ สน. โดยเอกสารอะไรก็ให้มายื่นที่ สน.หมด

แต่ต่อมาทางกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จะเอาข้อมูลที่อยู่ใน TPO ที่ได้จากแค่การโทรตรงนั้น ไม่มีแชท ไม่มีหลักฐาน ไม่มีอะไรอื่น ๆ เพราะหลักฐานในคดี ผู้เสียหายจะนำมาให้ร้อยเวรที่โรงพัก

ไปทำหมายอายัดบัญชี หรือที่ตำรวจเรียกว่า หมาย H ส่งทางระบบออนไลน์ ไปที่ธนาคารของผู้เสียหาย โดยยืนยันว่ามีคดีอาชญากรรมเทคโนเกิดขึ้นจริง 100% แน่นอน (ทั้ง ๆที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยซักอย่างตามที่บอกไปข้างต้น และไม่เคยติดต่อมาขอข้อมูลจากโรงพักก่อนไปทำหมาย H) กับทางธนาคาร เพื่อให้ธนาคารผู้เสียหายไล่เส้นเงินมาให้ พร้อมทั้งทำอายัดไปด้วย ซึ่งทาง บช.สอท. จะทำทุกคดีที่โผล่เข้ามาในระบบรับแจ้งความออนไลน์ แปลง่าย ๆ คือเด้งปุ๊ปทำปั๊ป มี 100 คดีก็ทำ 100 คดี

ทีนี้ความวายป่วงก็จะเริ่มต้นจากหมาย H นี่ละครับ

ถ้าใครที่เป็นบัญชีรับเงินแถวแรก แล้วคดีนั้นมีหมาย H คุณมีโอกาสจะโดนนำชื่อไปเสนอเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือ HR03 หรือเป็นม้าดำ คุณจะโดนอายัดทุกบัญชีที่เปิดด้วยบัตรประชาชนของท่าน

หรือไม่ก็เป็นม้าเทาเข้ม ซึ่งเหมือนกับม้าดำนั่นแหละ โดนอายัดหมดเหมือนกัน แค่ขั้นตอนขอปลดอายัด ไม่ต้องเสนอไปถึง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อปลดอายัด เสนอแค่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็แจ้งธนาคารขอปลดได้

และยังมีม้าเทาอ่อนอีก อันนี้คือบัญชีแถวสอง แถวสาม ที่อาจจะเป็นบัญชีม้าหรือไม่ก็ได้ แค่ธนาคารไล่เส้นทางการเงินตามหมาย H แล้วไป แตะ ๆ ก็อาจจะโดนอายัดได้ และโดนทุกบัญชีเหมือนกัน

ทีนี้มาถึงขั้นตอนการปลดอายัด

ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกระเบียบในเรื่องของการปลดอายัด โดยผมจะสรุปเป็นภาษาชาวบ้านคือ

ให้ บช.สอท. ทำหมาย H เพื่ออายัด (อย่างเดียว)

แต่เรื่องการขอปลด ให้ร้อยเวรตามโรงพักที่ 1441 แจกคดีให้ เป็นคนทำเรื่องเสนอ ไปให้ บช.สอท. อ่านก่อน

ว่าจะปลดให้ หรือไม่ให้ 

ผลที่ได้ก็คือ คนทำอายัดก็ทำไป ทำผิดทำมั่ว ก็บอกว่า อ้อ ต้องให้โรงพักทำเสนอขึ้นมาครับ…

ผมเคยได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ที่เจ้าของบัญชีคนหนึ่งที่โดนอายัดโทรไปหา 1441 แล้ว 1441 บอกว่า “ทางเรา มีหน้าที่รับแจ้งและส่งเรื่องต่อให้ บช.สอท. ทำอายัดครับ ส่วนเรื่องของการปลดอายัดบัญชี เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน (ร้อยเวรโรงพัก) ต้องมาตามแก้ปัญหาตรงนี้ให้”

หลักฐานผมมี กล้องหลังโต๊ะทำงานผมบันทึกไว้หมด เขาพูดแบบนี้จริง ๆครับ

ทีนี้กรรมมันก็มาตกอยู่ที่ ตำรวจโรงพัก

ผู้เสียหายก็มาตามคดี

ส่วนเจ้าของบัญชีก็มาตามเรื่องถอนอายัด ที่ตัวเองไม่ได้ทำอายัด

ปกติแล้วร้อยเวรโรงพักหน้าที่หลัก ๆคือทำคดีครับ ส่งสำนวนให้อัยการฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล ซึ่งต่อให้ไม่ใช่คดีออนไลน์ก็ต้องทำ รถชน ไฟไหม้ เช็คเด้ง ข้างบ้านตีกัน ด่าพ่อล้อแม่ โพสประจานหมิ่นประมาท ฯลฯ ซึ่งต่างจาก บช.สอท. ที่หน่วยงานภายในที่รับผิดชอบเรื่องทำหมาย H นั้น ไม่ต้องมาทำงานจับฉ่ายแบบนี้ และทุกอย่างเป็นไฟล์ส่งผ่านระบบกันทั้งหมด คลิก ๆไม่กี่ปุ่ม คุณก็โดนอายัดได้แล้ว

และที่สำคัญคือ เรื่องทำถอนอายัดตอนนี้ มันไม่เกี่ยวกับคดีครับ คอมมอนเซ้นส์ง่าย ๆไปอายัดบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับคดี มันจะเกี่ยวกับการทำคดีได้ยังไง

อ้อ…และขอเพิ่มเติมว่าการทำถอนอายัดนั้น ต้องสอบปากคำทั้งเจ้าของบัญชี ทั้งผู้เสียหายลงในกระดาษ ให้ลงลายมือชื่อ ร่างหนังสือราชการเสนอผู้บังคับบัญชาลงนาม และเอาที่เป็นกระดาษนี้ แสกนเป็น PDF และส่งเข้าระบบไปอีกที ไม่มีมาคลิก ๆกด ๆง่าย เหมือนหน่วยที่ทำอายัดครับ

มันเลยกลายเป็นงานเอกสารที่เพิ่มเข้ามาให้ร้อยเวรทำเพิ่ม และแน่นอนว่าคนทำมันมีอยู่คนเดียว มันก็ไปเบียดบังเวลาทำคดีของคนอื่นอีก

เป็นเหตุให้ทุกที่เลยเป็นเหมือนกันหมด คืองานมันมาติดคอขวดที่ร้อยเวรโรงพัก เกิดความล่าช้า

ณ วันนี้ ไม่มีวิธีอื่นนอกจากต้องรอร้อยเวรเจ้าของคดีที่ผู้เสียหายโทรไปแจ้ง 1441 เขาทำเรื่องเสนอไป บช.สอท. ต่อ

แต่ผมอยากให้สังคม ตั้งคำถามกันว่าขั้นตอนวิธีการแบบนี้ เหมาะสมไหม ? การไปร้องเรียน ไปออกสื่อ ก็แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ระบบที่คุณแค่นั่งอยู่บ้านเฉย ๆ ทำงานสุจริต ก็สามารถโดนอายัดได้แบบงง ๆ ก็จะคงอยู่ต่อไป โดยที่ทุกคน (รวมถึงผมเองก็ด้วย) มีโอกาสจะโดนกันอย่างเท่าเทียม แค่ไม่รู้ว่าจะโดนกันวันไหนแค่นั้น

ถ้าใครมีพาวเวอร์ แล้วอยากทำเพื่อประชาชนจริง ๆ น่าเอาเรื่องนี้เข้าศาลปกครอง ไม่ก็เอาเข้าสภาไปเลยครับ

จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

เพิ่มเติม

ทีนี้มีหลาย ๆคนที่โดนอายัดบัญชีจะพูดเหมือนกันว่า ธนาคารโยนกันไปโยนกันมากับตำรวจ สาเหตุมันมาจากตรงนี้ครับ

ในการไล่เส้นทางการเงินจากหมาย H นั้น คนที่เลือกบัญชีไหนจะอยู่ในเส้นเงินบ้าง คือ ธนาคารเป็นคนเลือกเอง ไม่ใช่ตำรวจ แต่เมื่อมีเจ้าของบัญชีโดนอายัด โทรไปถามธนาคาร ธนาคารจะบอกว่า ตำรวจสั่งให้อายัดจากหมาย H (ก็ถูกที่ตำรวจ บช.สอท. ออกหมาย H นะ แต่ทำไมไม่กล้าบอกชาวบ้านไปล่ะว่า ฉันนี่แหละเลือกอายัดเอง กลัวโดนด่าหรืออย่างไร) และแนะนำให้โทร 1441 ซึ่งเมื่อโทรหา 1441 1441 จะไม่ไปถาม บช.สอท.นะ แต่จะค้นชื่อพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในระบบ TPO ว่าใครเป็นร้อยเวรรับผิดชอบ และก็จะเอาเบอร์ของร้อยเวรคนนั้นให้เจ้าของบัญชีโทรมาสอบถามกับร้อยเวรอีกที พอร้อยเวรรับสายก็จะงง ว่าใครโทรมา เพราะ

-บช.สอท. ออกหมาย H

-ธนาคารเลือกบัญชีอายัด

-แต่ให้มาถามกับ ร้อยเวร ว่าเขาโดนอายัดเพราะอะไร

- ร้อยเวรก็เลยบอกให้ไปถามธนาคารอีกทีว่าอายัดเพราะมาตรการอะไร

มันเลยกลายเป็นวงจรอุ... ที่โยนกันไปโยนกันมาแบบที่ทุกท่านได้พบเห็น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top