เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เปิดการแข่งขัน ‘CP CUP 2025’ ซึ่งปีนี้ยกระดับสู่เวที ‘Global Business Case Competition’ อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีนิสิต-นักศึกษากว่า 700 คน จากกว่า 150 ทีม และ 23 มหาวิทยาลัยในประเทศไทย ร่วมแข่งขันกับนักศึกษาจากต่างประเทศที่ซีพีดำเนินธุรกิจอยู่มาประลองความคิดสร้างสรรค์และแก้โจทย์ธุรกิจด้วยการลงมือปฏิบัติจริงใน 3 สาขาหลัก ได้แก่ การตลาดเชิงปฏิบัติการ นวัตกรรมดิจิทัล และการวิจัยและพัฒนาอาหาร โดยโครงการนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของเครือซีพี ที่มุ่งสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการทำงานเป็นทีม เสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม และสร้างเครือข่ายกับเพื่อนต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมองค์กรที่ยึดมั่นในการ “คิดใหม่ ทำใหม่ และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่า” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและสังคมสู่อนาคต ขณะเดียวกัน ทีมที่ชนะเลิศในแต่ละสาขาจากประเทศต่างๆจะได้เข้าร่วมชิงชัยในรอบ Global Final – 24-hour Business Challenge ซึ่งจะจัดขึ้นในประเทศไทย โดยมีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท และโอกาสในการศึกษาดูงานกับธุรกิจของเครือซีพีทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน
น.ส.พิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล ซีพี กล่าวว่า เพราะเชื่อมั่นในพลังของเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอนาคต CP CUP จึงไม่ใช่เพียงการแข่งขัน แต่คือเวทีที่เปิดโอกาสให้น้องๆ เยาวชนได้สัมผัสโลกของการทำงาน เรียนรู้ พร้อมลงมือปฏิบัติจริง เพื่อค้นพบเส้นทางอาชีพที่มุ่งมั่นอยากจะก้าวไป
“ปีนี้ CP CUP ก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 นับจากการจัดครั้งแรกในปี 2016 ที่ประเทศจีน และเป็นปีที่ 2 ที่ขยายจากเวทีระดับระหว่างประเทศมาสู่เวทีระดับโลก โดยมีเยาวชนคนรุ่นใหม่จาก 13 ประเทศเข้าร่วม ถือเป็นการยกระดับโครงการสู่ World-Class Competition อย่างแท้จริง ซึ่งการแข่งขันปีนี้ยังได้ขยายหัวข้อเป็น 3 สาขาหลัก ได้แก่ Practical Marketing, Food R&D, Digital Innovation และสาขาพิเศษ Healthy Breeding สำหรับผู้เข้าแข่งขันในประเทศจีน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าร่วมจะได้รับทั้งทักษะ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ เพื่อนำไปต่อยอดการทำงานในอนาคต” น.ส.พิมลรัตน์ ระบุ
ด้าน น.ส.ลักษมี มหาโอฬารกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 2 หลักสูตรสารสนเทศศาสตรบัณฑิต คณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เวทีนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ได้ก้าวออกจากห้องเรียนมาสัมผัสโลกจริงของการทำงาน โดยเลือกเข้าร่วมการแข่งขันในสายการตลาดเชิงปฏิบัติการ แม้ไม่ได้เรียนตรงสายธุรกิจ แต่ก็อยากท้าทายตัวเอง ด้วยการนำจุดแข็งด้านข้อมูลและสารสนเทศมาปรับใช้บนเวทีนี้ อีกทั้งยังเป็นการแข่งขันในระดับนานาชาติ และได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีประสบการณ์จริงจากเครือซีพี ที่จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ รวมถึงได้รู้จักเพื่อนใหม่ด้วย
โดย CP CUP เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2016 ที่ประเทศจีน มีนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 3,000 คน และขยายต่อเนื่องจนมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมถึง 266 แห่งและผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 10,000 คน ในปี 2020 ก่อนจะขยายสู่ประเทศไทยในปี 2024 ที่จัดการแข่งขันระหว่างไทยและจีน จนในปี 2025 นี้ โครงการได้ยกระดับเป็นเวทีโลกเต็มรูปแบบ พร้อมชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท และโอกาสในการศึกษาดูงานกับธุรกิจของเครือซีพีทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน โดยมีตัวแทนนักศึกษาจาก 13 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมา ลาว ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา บังกลาเทศ อินเดีย รัสเซีย และตุรกี มาร่วมประชันไอเดียธุรกิจ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และผลักดันนวัตกรรมข้ามพรมแดน
การแข่งขัน CP CUP 2025 จึงไม่ใช่เพียงเวทีประชันแผนธุรกิจ แต่คือ โปรแกรมบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะกลายเป็น Talent Pool ระดับนานาชาติ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง และได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ สะท้อนวิสัยทัศน์ของเครือซีพีที่มุ่งสนับสนุนเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ใช้พลังความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าลงมือ และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมองค์กรที่ยึดมั่นในการ คิดใหม่ ทำใหม่ และสร้างสิ่งที่ดีกว่า เพื่อขับเคลื่อนทั้งธุรกิจและสังคมไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน พร้อมผลักดันให้คนรุ่นใหม่จากหลากหลายประเทศก้าวขึ้นมาเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และร่วมกันสร้างคุณค่าใหม่ให้แก่ธุรกิจและสังคมบนเวทีโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี