เพจเฟซบุ๊ก Kayour Thao ได้แชร์ภาพความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้ปลอดภัย และชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท

โดยได้ระบุข้อความว่า "9/10/68 บันทึกทึกไว้ในความทรงจำ มีที่ไหนบ้างที่ออก EMS แล้วนานขนาดนี้มั๊ย รับแจ้งเหตุ 07.30 น. เด็กอายุ 6 เดือน กับ 1 ขวบ หายใจเหนื่อย รถ Abulanc สุขศาลาก่อนหน้านั้นติดหลุมเอาออกไม่ได้ ตอนนี้ขอรถชาวบ้านมาส่งคนไข้ก่อน ทางรพ.จึงต้องเตรียมรถ 2 คัน เพื่อไปช่วยดึงรถ ขนของ + ของกิน (ต้องเอาไปเผื่อเยอะๆ) รถออก 9.30 น. มีทางทีดีบ้างไม่ดีบ้าง+ไม่ดีเล้ยยยย

รถติดไปต่อไม่ได้ต้องใช้วินซ์ดึงรถ+ใช้โซ่พันล้อรถยนต์ จึงจะไปต่อได้ สภาพและแทะตามที่เห็น+ฝนตกหนักม๊ากกฟ้าร้องทั่วผื่นป่า ไปเจอคนไข้ตอน 15.15 น. สภาพแต่ละคนไม่ใช่แค่คนไข้เด็กที่เหนื่อย เหนื่อยกันทุกคน เพราะออกมาจากบ้านตั้งแต่ตีห้าพากันมาที่สุขศาลาแก้ไข้ปัญหาตามระบบ A B D C + consult แพทย์เวร รพ. ทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งญาติตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้กินข้าวกันเลย โดยเฉพาะยายที่ต้องดูแลหลานคนเดียวเอ็นดูม๊ากกก ข้อเข่าก็ไม่ดีหลานก็ป่วยทางและแทะแค่ไหนก็ต้องพาหลานมารพ.ให้ได้พอเจอกันเอาข้าวให้ทีมสุขศาลากิน คนให้อิ่มใจคนกินอิ่มท้อง กินข้าวเสร็จ ขนกันออกมาจากป่าตามสภาพก่อนแล้วค่อยมาแก้ปัญหาเหนื่อยที่อนามัยใกล้ที่สุด

ก่อนที่จะไปรพ.อุ้มผาง รถออกเหตุ 9.30 เจอคนไข้ 15.15 น. ถึงรพ. 20.00 น. สภาพนางบาลไม่ต่างกับคนไข้เลย ขอบคุณทุกทีมงานที่ช่วยกันจนพาเด็กๆมาถึง รพ.ได้อย่างปลอดภัย ขอบคุณ ศิริพร กันทะวงษ์ ที่รับฝากลูกบ่าวในวันที่แม่ต้องออกเหตุไปนานม๊ากกกก จันทิรา จันทร์ลอย ฝากขอบคุณคุณสามีที่สั่งข้าวไว้ให้ทีมเยอะม๊ากทุกคนอิ่มกันทั่วหน้า เป็นกำลังใจให้ทีมงาน สุขศาลาพระราชทานฯ บ้านแม่จันทะ บอกเลยเหนื่อยม๊ากกกกกับเหนื่อยชิบหาย ขอร้องให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเห็นใจชาวบ้าน+เจ้าหน้าที่ มาช่วยทำให้ทางดีขึ้นนะคะ และสุดท้ายขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านบันทึกหน้านี้คะ ขอบคุณคะ #จบงานนี้ต้องไปนวดอีกหลายวัน