'ม่อน ศุภกิตติ์'ผ่าลึกหลักการตลาดแบบ'เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น'

'ม่อน ศุภกิตติ์'ผ่าลึกหลักการตลาดแบบ'เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น'

วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.13 น.

'ม่อน ศุภกิตติ์' ผ่าลึกหลักการตลาดแบบ'เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น' 

เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2568 “ศุภกิตติ์ กันอุปัทว์” ผู้จัดซีรีส์วายชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "Suppakit Kanupat" กรณีการไลฟ์สดขายสินค้าของ "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น" นักร้อง และแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง  โดยระบุว่า


"เหตุผลที่แบรนด์ส่วนใหญ่ ยอมจ้าง “เจนนี่ ” ไลฟ์ขายของ แค่ 3-5 นาที ไลฟ์ละ 50,000 บาท

1. เพราะ “ชื่อเสียง = แม่เหล็กดึงคนดู”
เจนนี่เป็นศิลปินระดับประเทศ มีฐานแฟนคลับทั่วไทย
ไม่ว่าจะไลฟ์อะไร คนก็เข้ามาดู เพราะ “อยากฟัง อยากรู้ อยากเห็น”
→ การเริ่มต้นไลฟ์มีคนดูหลักหมื่น โดยไม่ต้องซื้อแอดแม้แต่บาทเดียว

2. เพราะ “การมีคนดังถือสินค้า = เพิ่มความน่าเชื่อถือทันที”
ภาพที่เจนนี่ถือสินค้าหรือพูดถึงแบรนด์
ทำให้คนทั่วไปเชื่อว่า “ของนี้ดีแน่”
เหมือนมีการันตีโดยอัตโนมัติ ความเชื่อถือพุ่งขึ้นทันที

3. เพราะ “ยอดขายเกิดเร็วในเวลาสั้น”
เจนนี่ ยิว บูม พูดเก่ง เอนเตอร์เทนเก่ง ขายเป็นธรรมชาติ
คนดูไม่รู้สึกว่ากำลังโดนขาย แต่รู้สึกอยากซื้อ
ยอดสั่งพุ่งในไม่กี่นาที ไลฟ์เดียวขายได้หลักแสนถึงหลักล้าน

4. เพราะ “ได้ Earned Media ฟรี”
หลังจบไลฟ์ มักมีคนตัดคลิปไปแชร์ต่อ
สื่อหรือแฟนเพจเอาไปพูดถึง → เกิดการตลาดต่อเนื่อง
= ได้สื่อฟรีโดยไม่ต้องซื้อ (Earned Media Effect)

5. เพราะ “ได้ Brand Awareness ระดับประเทศ”
ชื่อเจนนี่เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ
พอเธอพูดชื่อแบรนด์ในไลฟ์
→ คนจำได้ทันที ว่า “แบรนด์นี้คืออันที่เจนนี่ขาย”

6. เพราะ “คอนเทนต์จากไลฟ์ใช้ต่อได้”
คลิปจากไลฟ์สามารถตัดสั้น ปักตะกร้า ยิงแอด หรือรีโพสต์ต่อได้อีกหลายเดือน
→ จ่ายครั้งเดียว แต่ได้คอนเทนต์ใช้ต่อยาว ๆ

7. เพราะ “เป็นการสร้างกระแสในวงการ”
แบรนด์ที่มีเจนนี่ไลฟ์ จะถูกพูดถึงในวงกว้าง
แม้คนไม่ซื้อ ก็จำชื่อแบรนด์ได้
→ สร้างภาพลักษณ์ว่า “แบรนด์นี้ใหญ่ มีตัวจริงขายให้”

8. เพราะ “คุ้มในเชิงการตลาดระยะยาว”
แม้ยอดขายวันนั้นอาจไม่ได้กำไรเยอะ
แต่แบรนด์จะได้ฐานลูกค้าใหม่ ความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียง
→ ผลระยะยาวอาจคุ้มกว่าการยิงแอดหลักแสน

สรุป > ไลฟ์ละ 50,000 บาท ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่คือ “การลงทุนซื้อกระแส ความน่าเชื่อถือ และการตลาดฟรีระยะยาว” สังเกตได้ว่ามีแต่แบรนด์คนไทย นี่สิ…ไทยช่วยไทย จริงๆ !!! " 

จากนั้นได้โพสต์เพิ่มเติม ระบุว่า "เจนนี่ ไลฟ์ 3 นาที 50,000 บาท /1,000ชิ้น หลายคนตกใจ…แต่พอคำนวณจริง ตัวเลขน่าคิดมาก !! ปัจจุบันคิวรีวิวอยู่ที่กว่า 15,000 แบรนด์

เจนนี่มีรายได้ค่าจ้างรวมกว่า 750 ล้านบาท
• ค่าจ้างรีวิว: 50,000 บาท / แบรนด์ / 3 นาที
• จำนวนแบรนด์ที่ไลฟ์ต่อวัน: 2,000–3,000 แบรนด์
• ราคาสินค้าเฉลี่ยของแต่ละแบรนด์: 100–500 บาท
• ยอดขายเฉลี่ยต่อแบรนด์: 1,000–2,000 ชิ้น
• TikTok หักค่านายหน้า 10%
• ของขวัญ/สติกเกอร์เฉลี่ย: 5,000–10,000 บาท/ไลฟ์
• คิวรวมที่รอไลฟ์: 15,000 แบรนด์

3 นาทีของคนหนึ่งคน กลายเป็นพลังการตลาดมูลค่าหลายร้อยล้าน ธุรกิจยุคนี้ไม่ใช่แค่ดัง…แต่ต้อง “คิดเป็น คำนวณเป็น และจับตัวเลขให้ขาด” รีวิวต้องวัดผลได้ สายขายต้องรู้ คิดก่อนจ้างรีวิว นี่คือพลังของ “การตลาดแบบเจนนี่” ที่ไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ขาย “ความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจของคนดู” แค่ 3 นาทีต่อแบรนด์ แต่สร้างรายได้ระดับร้อยล้านต่อวัน เจนนี่จึงไม่ใช่แค่แม่ค้าไลฟ์ แต่คือ “ระบบนายหน้าการตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ” ที่ได้ทั้งค่าจ้าง + ค่านายหน้า + ของขวัญในเวลาเดียวกัน"

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top