งานเข้า!‘เรืองไกร’ร้องนายกฯจี้‘กรมสรรพากร’ตรวจสอบรายได้ขาย‘พระเครื่อง’เสียภาษีหรือไม่ หลังออกรายการ‘โหนกระแส’ไลฟ์สด‘เหรียญหลวงปู่ทวด’รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี2508 อ้างหลายเว็บลงข่าว แถม‘เจนนี่’โดนด้วย

15 ตุลาคม 2568 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กรมสรรพากรตรวจสอบข้อเท็จจริง “รายการโหนกระแส” เกี่ยวกับรายได้การขายหรือให้เช่าพระเครื่อง และรายได้จากการไลฟ์สดขายของบุคคลต่างๆ ที่นำมาออกโชว์ในรายการของนายกรรชัย กำเนิดพลอย ว่ารายได้ต่างๆ ที่โชว์ในรายการนั้นเป็นความจริงหรือไม่ มีการเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากรโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งนำข้อเท็จจริงดังกล่าวไปตรวจสอบขยายผลเกี่ยวกับรายการอื่นๆ ที่มีการอวดโชว์รายได้ต่างๆนั้น มีการเสียภาษีให้กรมสรรพากรโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า ในหนังสือได้ระบุข้อเท็จจริงและคำขอไว้เป็นข้อ ๆ ดังนี้ ข้อ 1. เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2555 ข่าวสรรพากรดิ้นรีดรายได้ เล็งเก็บผู้ค้าพระเครื่อง-ดารา

ข้อ 2. เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2568 เว็บไซต์ลงข่าวหัวข้อเปิดกรุหลวงปู่ทวด ตระกูลคณานุรักษ์ หนังสือประวัติการสร้าง เฉลยปม เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ปี08 โดยมีรายละเอียดตามสำเนาข่าวที่แนบบางส่วนระบุว่า “รายการ โหนกระแส วันที่ 9 ต.ค. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมาย เลข 33 ยังตามกันต่อกับประเด็นศึกวิวาทะเซียนพระ “บอย ท่าพระจันทร์” กับ “โอ๊ต บางแพ” กับประเด็น เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 ไม่ผ่าปาก เนื้อทองคำ ว่าเป็นของแท้หรือไม่แท้ ซึ่งที่ผ่านมามีการเอ่ยพาดพิงถึงตระกูลคณานุรักษ์ในฐานะผู้สร้าง แต่คนในตระกูลออกมายันว่าตระกูลคณานุรักษ์ไม่ได้สร้างเหรียญรุ่นนี้ โดยวันนี้รายการสัมภาษณ์รุ่นเหลนคณานุรักษ์ “ป้อม นรบดี คณานุรักษ์” มาพร้อม “รัน มรดกไทย”

ข้อ 3. เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2568 เว็บไซต์ลงข่าวหัวข้อ โหนกระแสวันนี้ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ท้า “หนุ่ม กรรชัย” ให้ 20 ล้านค่าไลฟ์ โดยมีรายละเอียดตามสำเนาข่าวที่แนบบางส่วนระบุว่า “เจนนี่ชี้แจงถึงเรื่องการไลฟ์ขายของที่สร้างยอดขายถล่มทลาย โดยเปิดเผยว่า

• คิดค่าไลฟ์ ในอัตรา 50,000 บาทต่อ 1,000 ออเดอร์ หมายความว่าหากสินค้าขายได้ 1,000 ชิ้น จะคิดค่าตัว 50,000 บาท

• จะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของยอดขาย

• ยกตัวอย่างกรณีการไลฟ์ขายผลิตภัณฑ์ LYO ของหนุ่ม กรรชัย ที่ทำยอดขายได้ถึง 60,000 ออเดอร์ ทำให้เธอคิดค่าไลฟ์เป็นเงินรวม 3 ล้านบาท

ประเด็นนี้ทำให้เกิดดราม่าตามมามากมาย โดยเฉพาะเรื่องการจัดคิวไลฟ์ มีคำถามว่าทำไมแบรนด์เล็กๆ ที่ไม่ใช่ของดาราจึงถูกแทรกคิว เจนนี่ชี้แจงว่าจำเป็นต้องนำแบรนด์เล็กมาต่อท้ายแบรนด์ของดารา เพราะจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้สูงกว่าการจัดคิวแบบปกติ เนื่องจากดาราสามารถดึงดูดความสนใจได้มากกว่า ทำให้แบรนด์เล็กๆ ที่มาต่อท้ายได้รับประโยชน์ไปด้วย สำหรับเพื่อนที่มาช่วยไลฟ์อย่าง “บูม หมูกระทะ” ที่มาช่วยไลฟ์ทั้งวันทั้งคืน มีคนสงสัยว่าเขาได้รับค่าจ้างหรือไม่ เจนนี่ยืนยันว่าเธอจ่ายค่าจ้างให้บูมวันละ 100,000 บาท เป็นเวลา 1 เดือน รวมเป็นเงิน 3 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมโบนัสพิเศษจากเจ้าของแบรนด์ต่างๆ ที่ให้บูมอีกต่างหาก ทำให้บูมมีรายได้ต่อวันไม่ต่ำกว่า 4-5 แสนบาท”

ข้อ 4. ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อสาธารณะของรายการดังกล่าว โดยเฉพาะรายการพระเครื่องมีการออกหลายครั้งที่แสดงถึงราคาขายหรือเช่าพระที่มีมูลค่าหลายสิบล้านบาทของบุคคลต่าง ๆ ที่แสดงถึงการมีเงินได้พึงประเมินแล้ว ประกอบกับนโยบายของกรมสรรพากร ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการจัดเก็บภาษีให้รัฐบาลเพื่อนำไปเป็นงบประมาณในการบริหาราชการแผ่นดินภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงมีเหตุอันควรนำข้อเท็จจริงในรายการดังกล่าวมาเป็นตัวอย่างให้นายกรัฐมนตรีทราบเพื่อนำไปสั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังซึ่งเคยเป็นอธิบดีกรมสรรพากรมาก่อนแล้ว นำข้อเท็จจริงดังกล่าวไปตรวจสอบและขยายผลเกี่ยวกับรายการดังกล่าวและรายการอื่น ๆ ที่มีการอวดโชว์รายได้ต่าง ๆ นั้น มีการเสียภาษีให้กรมสรรพากรโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่

ข้อ 5. ภาษีที่ควรเสียให้กรมสรรพากร หมายความรวมถึงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงควรตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่า รายการต่าง ๆ ที่โชว์นั้น ถือเป็นการขายสินค้าหรือบริการ หรือไม่ และมีการจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เช่น ใบทะเบียนพาณิชย์ ใบทะเบียนการค้า โดยถูกต้องครบถ้วน หรือไม่ เรื่องนี้ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจอีกทางหนึ่งด้วย

-005