นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟชบุ๊กระบุข้อความว่า "กัน จอมพลัง และ ไอซ์ รักชนก ทั้งสองมีวิวาทะกัน ผมจึงขอแจมสักหน่อย โครงสร้างอันบิดเบี้ยวของสังคมไทย ที่ไม่สามารถพึ่งพาบรรดาข้าราชการ หรือหน่วยงานรัฐได้ คนไทยจึงต้องการ “ฮีโร่” เสมอ ทุกเวลานาที ยิ่งเรื่องของประเทศชาติ ดินแดน เป็นเรื่องใหญ่ เขมรจะซ่ากับไทยได้ไง? หรือไม่ฮีโร่ก็มาในคราบของการช่วยเหลือสังคมที่ขาดแคลนหลากหลาย ไม่ว่าการร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นประเด็นบาดใจสังคม คนตกทุกข์ได้ยาก คนไทยเราใจบุญสุดๆ ต้องยอมรับนับถือน้ำใจ ต่างประเทศไม่มีฮีโร่แบบนี้ หากเป็นสังคมตะวันตก ตัวใครตัวมัน หรือบางทีฮีโร่ไทยยังแสดงตัวช่วยเหลือเรื่องสาธารณประโยชน์ต่างๆ
ซึ่งในสายตาของสังคมไทยย่อมมองเป็นเรื่องดี ตามประสาคนไทยน้ำใจงาม แต่เรื่องชายแดน ไทย-เขมร หากเรามี “กองทัพ” ที่มีงบประมาณทางทหารมากมายมหาศาล ทำไมเราต้องมี “กัน จอมพลัง” มาขอเงินบริจาคไปช่วยชายแดน ทั้งยางรถยนต์ ไปถึงอุปกรณ์ที่ดูเหมือนเป็นงาน ”รัฐบาล“ และกลาโหม ในการจัดสรรสิ่งต่างๆ เหล่านี้อยู่แล้ว เราควรต้องพึ่งให้รัฐทำงาน ปกป้องเขตแดนประเทศมากกว่า ”ฮีโร่“ เพียงคนเดียว หรืออาจเป็นงบราชการที่ไม่เกี่ยวข้อง งบทหารที่มีหลายแสนล้านอยู่ อาจชักช้าไม่ทันใจ
ที่ผมพูดไม่ได้หมายความว่า ”กัน จอมพลัง“ ทำไม่ถูก ผมต้องชื่นชมคนเสียสละให้สังคม ช่วยกันคนละไม้คนละมือ แต่ในฐานะประชาชนเราต้องให้ “รัฐบาล และกองทัพ” ทำงานที่ได้รับมอบหมาย มีพร้อมทั้งอาวุธยุทธภัณฑ์ ปกป้องเขตแดนให้ประชาชน และมีงบฉุกเฉิน (ซึ่งมีมากมายทุกกระทรวง) มากกว่าให้ “กัน จอมพลัง“ ทำคนเดียว ดูเปล่าเปลี่ยวเหงาใจชอบกล กัน ควรไปทำในเรื่องของสังคม เป็นตัวแทนคนถูกหลอกลวง การเข้าไม่ถึงกระบวนการยุติธรรม หรือถูกข้าราชการกลั่นแกล้งมากกว่า
ส่วนเรื่อง ”เงินบริจาค“ เอาเป็นว่าขนาดหน่วยงานรัฐมีการตรวจสอบ มี สตง. ยังรั่วไหลตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ ไปจนวัดวาอารามพระครูก็ไม่เว้น มีคนเกี่ยวข้องถูกฟ้องว่าทุจริตคอร์รัปชั่น ศาลตัดสินจำคุกไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อมีเรื่องเงินๆ ทองๆ บริจาค มักจะมีเรื่องให้ติฉินนินทาอยู่เสมอๆ และคนถูกจับได้ไล่ทันหลังได้รับเงินบริจาคมากๆ ก็มีเหมือนกันที่ยักใส่กระเป๋า อ้างต้องกินต้องใช้มีลูกน้อง
แต่ตอนขอบริจาค บอกว่าให้ไปทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย จึงควรงดเสียดีกว่า คิดเอาว่า ทำได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นเถอะ ประเทศชาติไม่ใช่ของเราคนเดียว ผู้กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อถึงเวลาหน่วยงานรัฐทุกหน่วยต้องประสานงานกัน เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือปกป้องอริราชศัตรู
ส่วนไอซ์เป็น ส.ส. สมัยแรก ได้รับฉันทามติจากประชาชนให้เป็น ”ผู้แทน“ ย่อมต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ เพราะกินเงินเดือนภาษีมาจากพวกกระผม จะให้เหมือน ส.ส. บางคน ที่ยังไม่รู้จักหน้าที่ แต่ละวันนั่งๆ เดินๆ แต่ไม่ได้มีบทบาททั้งในสภา หรือช่วยเหลือชาวบ้านหรือ?
นักการเมืองจึงต้องหา ”บทบาท“ ของตัวเองให้เจอ และอย่าหิว เพราะจะเป็นการทำหน้าที่เพื่อให้ตัวเองมีลาภทรัพย์สินที่ไม่ควรได้ เท่าที่ ส.ส. ไทยได้อยู่ก็มากโขแล้ว ทั้งเงินเดือน สิทธิพิเศษ สวัสดิการรักษาพยาบาล ชนิดเบิกสดคืนจากสภาได้ทันที ไหนจะบินทั่วไทยฟรี อัพเกรดเป็นชั้นธุรกิจ จะเที่ยว หรือจะไปหาเมียน้อยหาเด็ก ก็อ้างได้ว่าไปเยี่ยมประชาชน ดังนั้นคนเป็นผู้แทนได้รับการเลือกตั้ง ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้คุ้มค่า
อย่างไอซ์ แม้เป็น ส.ส. สมัยแรก ก็ถือว่าสอบผ่าน เพราะมีตัวตน แสดงหน้าที่ให้ประชาชนเห็นอยู่หลายผลงาน ส่วนคนไม่มีหน้าที่ อยากช่วยก็ต้องช่วยให้เหมาะสม ไม่ใช่ทำเกินหน้าเกินตา เกินขอบเขตบริบทของคนอยากช่วยสังคม หากถูกตรวจสอบก็อย่าได้น้อยใจ เมื่ออาสามาทำงานจิตใจต้องแข็งแกร่ง ต้านคำถามข้อสงสัยได้
เส้นทางของ ”ฮีโร่“ ย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บางครั้งทำดี แต่ได้ “ของหิน” แทนก็มี จึงต้องวางตำแหน่ง “ฮีโร่ ” ให้เหมาะสม อย่าไป “ตกม้าตาย“ เหมือนฮีโร่เก๊"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี