‘เอ้ สุชัชวีร์’ศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

‘เอ้ สุชัชวีร์’ศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 21.48 น.

"เอ้ สุชัชวีร์"ศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ"สมเด็จพระพันปีหลวง" เล่าย้อน 49 ปีทอดพระเนตร"พระจอมเกล้าลาดกระบังนิทรรศน์" นำสู่จุดเปลี่ยนสร้างชื่อเสียงจากสถาบันเล็ก สู่การเป็นที่ยอมรับจากประเทศ-นานาชาติ

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง” ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง


ก่อนที่จะระบุ อีกว่า ในปี พ.ศ. 2519 หรือเมื่อ 49 ปีที่แล้ว การเดินทางมายัง “พระจอมเกล้าลาดกระบัง” นั้น เป็นไปด้วยความยากลำบาก ยังไม่มีทางพิเศษมอเตอร์เวย์ ถนนอ่อนนุชเป็นเส้นทางหลักเพียงสายเดียวในการเข้าถึง “ลาดกระบัง” ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นพื้นที่กันดาร ถนนหนทางขรุขระ เต็มไปด้วยสะพานข้ามคลอง คอสะพานสูงชัน ต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง จากใจกลางกรุงเทพมหานคร มายังสถาบันการศึกษา ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก แต่ด้วยพระบารมีเบื้องบน “ฟ้าได้โปรด” สถาบันแห่งนี้ โดยมิได้ย่อท้อต่ออุปสรรคนานัปการ

กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ (พระพันปีหลวง) ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด “วิทยาเขตลาดกระบัง” เมื่อวันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2519 ซึ่งนับเป็น “วันประวัติศาสตร์” อันสำคัญยิ่งทั้งสองพระองค์ได้ทอดพระเนตรงานนิทรรศการ “พระจอมเกล้าลาดกระบังนิทรรศน์” สร้างความปลื้มปีติต่อเหล่านักศึกษา คณาจารย์ และคณะผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งได้ให้การสนับสนุนด้านการก่อสร้างอาคารและอุปกรณ์วิจัยล้ำสมัย พระองค์ได้ทอดพระเนตร “นวัตกรรมล้ำยุค” ที่นักศึกษาและคณาจารย์ร่วมกันสร้างขึ้น อาทิ ระบบสื่อสารสมัยใหม่ จักรยานไฟฟ้าต้นแบบ และที่สำคัญคือ “ระบบรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าต้นแบบ” ซึ่งสามารถยกรถให้นักศึกษาลอยขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

“ผมเมื่อครั้งเป็น อธิการบดี เคยมีโอกาสสนทนากับพี่ๆ ศิษย์เก่าในยุคนั้น หลายท่านได้กลับมาเป็นอาจารย์ แม้วันนี้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว หากแต่ ความทรงจำในวันนั้น ยังคงเป็นความประทับใจสูงสุดตลอดชีวิต” นายสุชัชวีร์ กล่าว

นอกจากนี้ นายสุชัชวีร์ ยังระบุอีกว่า การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น เป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ที่ทำให้ประชาชนชาวไทยรู้จัก “พระจอมเกล้าลาดกระบัง” จากสถาบันเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จัก สู่ “สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง” อันเป็นที่ยอมรับของประเทศและนานาชาติ

“ภาพเหตุการณ์แห่งพระราชกรณียกิจ และ เรื่องเล่าแห่งความซาบซึ้งได้ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่พระราชทาน พรอันประเสริฐให้กำเนิดพวกเราลูกพระจอมผู้ภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยอันเป็นที่รักแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นศิษย์พระจอมเกล้าลาดกระบัง” จะขอจารึกไว้ในหัวใจ มิมีวันเลือนหาย สถิตในดวงใจตราบนิรันดร์น้อมศิระกราน กราบแทบเบื้องพระยุคลบาทด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า
ศาสตราจารย์ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top